มหาลัยสยองขวัญ 6. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

     

 

เล่าเรื่องผี ตำนานเฮี้ยนมหาวิทยาลัย

6. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 


 

          เรื่องเล่าขนหัวลุก กับเรื่องผีในมหาวิทยาลัย 11 แห่ง ขึ้นชื่อชวนขนหัวลุก จากปากคำศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ช่วยเล่าขาน ว่าแต่ตำนานผีในมหาวิทยาลัยไหนหลอนที่สุด ตามไปอ่านกันเลยค่ะ 

          ว่ากันว่าผีและวิญญาณล้วนมีแฝงตัวอยู่ทุกถิ่นที่ และหนึ่งในสถานที่ที่มีการเล่าขานตำนานผี ๆ มากที่สุดแห่งหนึ่งก็คือ "มหาวิทยาลัย" ซึ่งมีหลายมหาวิทยาลัยที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงเรื่องราวลี้ลับชวนขนหัวลุกเล่าต่อกันมา และวันนี้กระปุกดอทคอมขอนำ เรื่องสยองขวัญในมหาวิทยาลัยไทย (อัพเดทใหม่) จาก คุณ SteeL14s สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งคุณ SteeL14s ได้ตระเวนสัมภาษณ์จากปากคำบรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ มาโดยตรงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตำนานไหนเล่าต่อ ๆ กันมาในอินเทอร์เน็ตจนไม่รู้ก๊อบปี้ไปก๊อบปี้มากันกี่ต่อจะไม่ขอพูดถึง จึงรับประกันเรื่องราวจากบรรทัดนี้ไปคือความสยองขวัญที่เหล่าคนมีเซ้นส์ต่างช่วยเข้ามาคอนเฟิร์มแล้วว่า "ของเขาแรงจริง ๆ"

          อย่างไรก็ดี คุณ SteeL14s ได้ขออภัยไว้ล่วงหน้า หากว่าเรื่องราวหรือการกระทำใด ๆ ในคลิปวิดีโอชุดมหาวิทยาลัยสยองขวัญนี้ อาจทำให้ผู้ที่รักและผูกพันกับมหาวิทยาลัยไม่พอใจ ซึ่งที่คุณ SteeL14s เขียนเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างไรทั้งสิ้น ถ้าคุณพร้อมแล้ว ก็เชิญไปรับฟังเรื่องเล่าสยองขวัญในรั้วมหาวิทยาลัยกันเลย

 


 

6. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          ไปลองของมาหลายมหาวิทยาลัยครับ แต่ที่จุฬาฯ เป็นที่เดียวเลยที่แตกต่างจากที่อื่น คือเรื่องผีของที่นี่ มันจะแฝงไปด้วยอารมณ์อุ่น ๆ ใส ๆ เหมือนโทนหนังญี่ปุ่น feel good ให้ความรู้สึกดีมากกว่าจะรู้สึกกลัว สำหรับผู้ที่จะพาผมบุกเรื่องผีในมหาวิทยาลัยนี้แบ่งได้เป็น 2 คน 2 ทางครับ คือน้องอาร์ตตี้ เป็นคนพาทัวร์คณะรัฐศาสตร์ และน้องไอซ์ จะพาทัวร์ฝั่งนิเทศฯ สำหรับเรื่องความเก่าแก่นั้นหายห่วงครับ ที่นี่คือมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย มาเริ่มเรื่องแรกกันเลยครับ (ผมขอไม่พูดถึงเรื่องเก่า ๆ ตามอินเทอร์เน็ตแล้วกันนะครับ เอาเฉพาะเรื่องที่ผมไปค้นข้อมูลมาในมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง)

          - ชั้น 2 ตึกรัฐศาสตร์ 

          ตึกรัฐศาสตร์ที่นี่เก่าเกือบร้อยปีเลยนะครับ เห็นว่าตอนนี้เป็นตึกอนุรักษ์ของกรมศิลปากรแล้วด้วย และเรื่องผีเรื่องนี้ผมฟังมาจากแม่บ้านที่อยู่ในมหาวิทยาลัยนี้มาตั้งแต่เกิด (ตั้งแต่เกิดจริง ๆ ครับ แกเล่าว่าแกคลอดในจุฬาฯ) แกว่าที่ตามตึกกิจฯ (กิจการนิสิต) ตามตึกรัฐศาสตร์ ไอ้เรื่องได้ยินเสียงดนตรีนี่เรื่องปกติครับ มีไม่ปกติก็ที่ชั้น 2 แกเล่าว่าเคยมีคนนั่งอ่านหนังสืออยู่ ระหว่างอ่านก็มีร่างของคนคนหนึ่งเดินผ่าน คนที่อ่านหนังสืออยู่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คนผ่านไปผ่านมาธรรมดา จนเล่นเอาช็อกเกือบตกเก้าอี้ ก็ตรงมาเห็นว่าคนที่เดินผ่านไปเมื่อกี้นั้น เป็นคนคนเดียวกับบุคคลในรูปที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว (ตามทางเดินชั้น 2 ตึกรัฐศาสตร์ เมื่อก่อนจะแขวนรูปบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยไว้ครับ ส่วนบุคคลตามเรื่องเล่าท่านเป็นใครผมขอไม่เอ่ยถึงละกัน ขอเซฟตัวเองนิดนึงครับ เดี๋ยวโดนด่าว่า มาอ้างว่าอาจารย์ฉันกลายเป็นผีได้ยังไงอีก)
 

          - ตึกกิจการนิสิต 

          อาร์ตตี้เล่าให้ฟังครับว่าตึกกิจฯ แต่ก่อนนี่น่ากลัวได้เรื่องอยู่ เป็นอาคารไม้ 1 ชั้นครึ่ง (อีกครึ่งเป็นชั้นใต้หลังคา) เห็นว่ามีคนผูกคอตายตรงใต้หลังคาด้วย แต่ทุกวันนี้ตึกกิจฯ ไม่น่ากลัวแล้วครับ ปรับปรุงใหม่กลายเป็นตึกลงทะเบียนดูสวยงาม เส้นทางเดินไปยังตึกกิจฯ ถ้าเรานึกภาพตามสมัยนั้นก็คงน่ากลัวจริง ๆ ครับ เพราะก่อนถึงตึกกิจฯ จะต้องเดินผ่านต้นไทรต้นเบ้อเร่อ ผ่านต้นไทรยังมาเจอตึกไม้เก่า ๆ อีก ก็เข้าใจทำไมแต่ก่อนนักศึกษาถึงไม่ค่อยอยากเดินผ่านตึกกิจฯ ตอนดึก ๆ

          มาเรื่องผีกันบ้างครับ อาร์ตตี้เล่าให้ฟังว่าเค้าเคยมาเก็บของที่ตึกกิจฯ ตอนหัวค่ำ (ห้องสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์) เปิดประตูเข้าไปพบคนยืนหันหลังอยู่ในห้อง อาร์ตตี้ ก็ตะโกนถามไปว่า "ใครน่ะ ?" คนคนนั้นไม่ตอบครับ แต่วิ่งหนีไปด้านหลัง อาร์ตตี้ก็ตามไป เรื่องมันมาหลอนตรงนี้ครับ เพราะห้องมันห้องนิดเดียว แต่อาร์ตตี้หาตัวคนที่ว่าไม่เจอ ทางเข้าทางออกก็มีประตูเดียว แล้วมันหายไปไหน
 

          - เชียร์ลีดเดอร์ 

          เรื่องต่อมาเป็นเรื่องของสาว ๆ เชียร์ลีดเดอร์คณะรัฐศาสตร์ครับ พวกเธอเล่าให้ฟังว่าก็ซ้อมเต้นกันอยู่หลังตึกคณะตัวเอง (หลังตึกรัฐศาสตร์จะเป็นตึกกิจฯ) ก็เต้นไปตามท่าเค้าล่ะครับ แล้วมันจะมีอยู่ท่าหนึ่งที่ทำให้ต้องมองลอดใต้หว่างขาโดยบังเอิญ จังหวะนั้นล่ะครับ เธอเล่าให้ฟังว่าเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนขอบดาดฟ้าตึกรัฐศาสตร์
 

          -  อิฐ 9 ก้อน 

          ที่หน้าตึกเศรษฐศาสตร์จะมีอิฐอยู่ก้อนหนึ่งครับ ที่เกยขึ้นมาไม่ตรงร่องต่างจากก้อนอื่น ๆ ตรงจุดนี้ผมเคยไปมาสองรอบครับ ระยะเวลาห่างกันประมาณเกือบครึ่งปี กลับไปมันก็ยังเกยขึ้นมาอยู่ยังงั้น เด็กนักศึกษาเค้าว่าห้ามไปเดินเหยียบอิฐก้อนนั้นนะครับ ไม่งั้นเช้ามาที่ขาจะมีรอยช้ำเป็นจ้ำ ๆ ผมไปได้ทราบประวัติที่มาของเรื่องอิฐ 9 ก้อนนี้มาครับ เจ้าของเรื่องเค้าบอกว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (ถ้านับตอนนี้ก็น่าจะ 6 ปีครับ เพราะผมไปมาปีที่แล้ว) เค้าเล่าว่ามีนักศึกษาคณะบัญชีปี 4 ครับ ทะเลาะกับแฟน (คณะอะไร ปีอะไรไม่ทราบครับ) ข้อมูลที่ได้มานี่ ผมได้มาเป็นบทสนทนาเลยครับ

          ผู้ชาย : "จะเลิกใช่ไหม ?"
          ผู้หญิง : "อืม จะเลิก"
          ผู้ชาย : "จะเลิกใช่ไหม ?"
          ผู้หญิง : "อื้อ"
          ผู้ชาย : "จะเลิกแน่นะ"

          สิ้นเสียง "จะเลิกแน่นะ" ผู้ชายเค้าก็กระโดดตึกลงไปต่อหน้าผู้หญิงเลยครับ แล้วจุดที่ผู้ชายเค้าตกลงมาตายนั่นล่ะครับ คือจุดเดียวกับที่อิฐมันเกยขึ้นมา สาเหตุน่าจะเกิดจากการที่ร่างตกลงมากระแทกกับพื้น หลังจากนั้นเห็นว่าพยายามยังไง เปลี่ยนพื้นเท่าไหร่อิฐตรงนั้นก็ไม่เคยสมานเรียบกันได้ซะทีครับ (ส่วนทำไมชื่อเรื่องมันชื่ออิฐ 9 ก้อนนี่ผมไม่รู้จริงๆ)
 

          - สนามฟุตซอล คณะสถาปัตยฯ

          ที่คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ เค้าจะมีสนามฟุตซอลภายในตัวตึกด้วยนะครับ ตอนเห็นครั้งแรกนี่อิจฉามาก และเรื่องผีของที่นี่ก็สืบมาจากสนามที่ว่านี้ล่ะครับ (ตอนรู้เริ่มไม่ค่อยอิจฉาละ) ตอนเย็น ๆ ยาวไปถึงค่ำ ๆ เนี่ย จะมีเด็กนักศึกษามาเตะบอลกันแหละครับ และระหว่างเตะก็มีคนเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมายืนดูอยู่ตรงระเบียงชั้นสอง มาดูทุกวันเลยนะครับ เห็นทุกวันแถมเห็นกันทุกคน จนวันหนึ่งน้องคนนึงมันก็ทนสงสัยไม่ไหว ก็ขึ้นไปกะชวนคุย ถามว่าเป็นใคร มีธุระอะไรรึเปล่า ? ก็เดินขึ้นบันไดคดเคี้ยวเลาะไปครับ พอขึ้นไปถึง ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นมีแค่ครึ่งตัว แถมยังหันมายิ้มให้แล้วก็หายไป
 

          - ตึกจุลฯ 

          ตึกจุลนี่เรื่องผีเยอะมากครับ เยอะมาก ๆ ๆ ๆ มีทั้งเสียงร้องไห้ คนโดดตึก ผู้หญิงชุดขาวเดินทะลุกำแพง (เห็นว่าตึกนี้หลัก ๆ จะเป็นคณะวิทยาศาสตร์ ผิดถูกยังไงขออภัยครับ) เรื่องผีเยอะจริงครับ แต่เรื่องที่เด็ดที่สุด ผมว่าเป็นเรื่องนี้

          คือจุฬาฯ จะมีเพลงประจำมหาวิทยาลัยชื่อเพลง "มหาจุฬาลงกรณ์" ครับ แล้วที่ชั้น 11 ตึกจุล ว่ากันว่าถ้าอยากเจอให้ขึ้นไปที่ชั้น 11 เดินไปหาจุดที่มองออกไปนอกตึกได้ แล้วร้องเพลงที่ว่านี้ พอร้องไปจนถึงท่อนว่า "นิสิตพร้อมหน้า..." จะเห็นนิสิตหลายคน กระโดดตึกลงมาพร้อมหน้าตามเนื้อเพลงเลยครับ

          ทีนี้เราจะข้ามถนนไปอีกฝั่งนึงแล้วนะครับ ไปยังฝั่งนิเทศฯ พร้อมน้องไอซ์ น้องไอซ์เป็นผู้ชายหน้าตาดีครับ เซอร์ ๆ ดิบ ๆ มาดตากล้อง เห็นว่าในคณะก็ดังพอตัว เรื่องแรกนี้เกิดขึ้นที่ชั้น 4 ตึกนิเทศฯ ตึกใหม่ครับ ที่เกิดเหตุมันเป็นประมาณชานยื่นออกไปนอกตัวตึก รุ่นพี่ไอซ์เค้าไปถ่ายหนังสั้นกัน เป็นหนังผีซะด้วย เนื้อหาก็ประมาณว่าจะมีผีอยู่ข้างล่าง 5 คน ทำท่าโบกมือไปมา ทีนี้พอเอาฟุตเทจมาเตรียมจะตัดต่อกัน มือคน 5 คนที่ควรจะมีแค่ 10 มือ ดันมีเพิ่มมากลายเป็น 11 มือ

 


 

          เรื่องที่ชั้น 4 นี่ยังมีต่อเนื่องอีกเรื่องครับ เรื่องนี้ผมได้ฟังมาจากน้องปีหนึ่งจุฬาฯ คนนึง ไปเห็นเค้ายืนซื้อลูกชิ้นอยู่ป้ายรถเมล์หน้ามอพอดี เลยบวกซะเลย น้องเค้าเล่าให้ฟังว่ามีรุ่นพี่เรียนการแสดงอยู่คนนึงครับ เห็นว่าคืนนั้นเป็นวันเกิด ก็เลยกะจะแกล้งเซอร์ไพรส์กันด้วยการปลอมเป็นผีไปหลอก ก็นัดเจอพี่เจ้าของวันเกิดคนนี้ที่บันไดหนีไฟ พี่เค้าก็ไปรอครับ พอเป้าหมายมาถึงทุกคนก็ปิดไฟตามแผน ทีนี้พี่เค้าก็กรี๊ดครับ ซึ่งทุกคนก็คาดไว้แล้วล่ะ ว่าพี่เค้าต้องกรี๊ด แต่ทีนี้เหมือนเสียงกรี๊ดมันรุนแรงผิดปกติ ทุกคนก็เลยเปิดไฟรีบเข้าไปดู กลัวเรื่องมันจะเลยเถิด สุดท้ายเรื่องราวเผยออกมาว่าตอนที่ไฟดับลง พี่เจ้าของวันเกิดคนนี้ เค้าดันโดนผีหลอกขึ้นมาจริง ๆ ครับ
 

          - พี่ธาดา  

          เรื่องต่อไปนี้ ถึงขั้นว่ากันว่าพวกรุ่นพี่นิเทศฯ เก่า ๆ ไม่มีใครไม่รู้จักตำนานเรื่องนี้ ตำนานพี่ธาดาแห่งห้องล้างฟิล์ม ว่ากันว่ามีคนเห็นพี่ธาดาเข้าไปล้างฟิล์มในห้องมืด แล้วจากนั้นมา ก็ไม่เคยมีใครได้เห็นพี่ธาดาอีกเลย ไอซ์ได้เล่าเสริมถึงเรื่องนี้ไว้ครับ ว่าสำหรับคณะเค้าเอง เด็กปี 1 จะต้องถูกรับน้องด้วยการไปลองของตำนานผี "พี่ธาดา" ของคณะ ถูกเอาผ้าปิดตาเดินกันเข้าไปในห้องล้างฟิล์มมืด ๆ (ที่ปัจจุบันกลายเป็นห้องเพื่อกิจกรรมอย่างอื่นไปแล้ว) แม้สุดท้ายจะมารู้ภายหลัง ว่าตำนานดังกล่าวถูกแต่งขึ้นโดยรุ่นพี่ (รุ่นพี่คนที่ว่าคือ พี่เก้ง จิระ มะลิกุล หัวเรือใหญ่แห่ง GTH ค่ายหนังที่แค่ชื่อ ก็การันตีความฮิต) แต่ใจความสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น เรื่องจริงเรื่องแต่งไม่เกี่ยว...

          มันสำคัญตรงที่เรื่องผีที่เกิดขึ้นนี้ ได้สร้างความผูกพันกลับบ้านก็ต้องชวนกันกลับ เพราะเดินคนเดียวมันเสียว สร้างเรื่องราวที่หวนกลับไปคิดถึงเมื่อไร เป็นต้องอมยิ้มทุกครั้ง ศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ไม่เคยรู้จักกัน แต่พอเอ่ยถึงพี่ธาดา ประสบการณ์เดินเอาผ้าผูกตาเป็นได้โม้สู่กันฟังเป็นฉาก ๆ ไอซ์รีบสรุปปิดท้าย (อาจเพราะอยากไปนั่งกระดกเบียร์กับพวกเราเต็มทีแล้ว) ว่าเข้าใจว่าสำหรับผู้ใหญ่ในมหา'ลัย เป็นธรรมดาที่จะมองเรื่องผีว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ทำให้สถาบันเสียชื่อเสียง แต่แง่มุมดีๆของมันก็ใช่ว่าจะหาไม่เจอ อย่างน้อยตัวเค้าเองก็ได้เพื่อนที่ทุกวันนี้เดินกอดคอกันได้แบบไม่เคอะเขินจากคืนล่าท้าผีคืนนั้น คืนที่เค้าได้รู้จักกับพี่ธาดา

          "ผมว่าคงไม่มีเด็กคนไหนที่ย้ายที่เรียน หรือเลือกไปเรียนที่อื่นเพราะมหา'ลัยมันมีผีหรอก" ไอซ์พูดสรุปเรื่องลงในที่สุดครับ

          มาถึงเรื่องสุดท้าย ถ้าใครตามอ่านกระทู้มาตั้งแต่แรก คงจำได้ว่าผมเคยเล่าให้ฟังว่า เคยไปให้คนดูว่าลองของกันมาขนาดนี้ ทุกวันนี้มีผีอะไรตามกลับมาบ้าง ก็อย่างที่เล่าไป ผมโดนตามมาสองตัว เด็กกับพี่สาว ประเด็นอยู่ที่เพื่อนผม คุณฟิล์มครับ (คนคนนี้ก็ไปกับผมทุกที่เหมือนกัน) ฟิล์มโดนหนักกว่าผมเยอะครับ โดยนางไม้ใส่ชุดไทยตามกลับมา 2 คน เกาะบ่าซ้ายบ่าขวา แถมเป็นพี่น้องกันอีก ซึ่งที่มาก็มาจากที่มหาวิทยาลัยจุฬาฯ นี่เองครับ ต้นไทรหน้าตึกรัฐศาสตร์คนนึง อีกคนนี่จากต้นไทรตรงโรงอาหารแถวตึกกิจฯ (ต้นไทร 2 ต้นนี้ประวัติเยอะครับ บ้างว่าเห็นผู้หญิงชุดไทยเดินออกมาจากต้นไม้ ว่าก็เห็นนั่งอยู่) ถามว่ารู้ได้ไงว่าเค้าตามมาจากจุฬาฯ คือพี่คนที่มีสัมผัสวิญญาณเค้าดูฟิล์มแล้วก็ทักครับ ว่าเคยไปชมต้นไม้ที่ไหนว่าเค้าสวยรึเปล่า จบประโยคเท่านั้นฟิล์มอ๋อเลยครับ พี่คนที่มีสัมผัสวิญญาณเค้าบอกว่า นางไม้ที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้เค้าคิดว่าชมเค้าสวย เค้าก็เลยตามมา และเค้าไม่ได้มาคนเดียว น้องเค้าก็ตามมาด้วย เพราะเค้าต้องอยู่เป็นคู่ (ภายหลังฟิล์มเค้ามาเล่าให้ฟังครับ ว่าตอนนั้นกูไม่ได้ชมต้นไม้โว้ย กูบอกว่าเฟรมกล้องมุมนี้สวยจัง ตอนนั้นถ่ายวิดีโอกันไปด้วยครับ ก็ซวยไป เดือดร้อนต้องไปซื้อดอกไม้ 5 สี 5 กลิ่น 5 ชนิดมาแก้)

          พี่คนที่มีสัมผัสวิญญาณก็แนะนำมาครับ เวลาไปที่ ๆ มีของหรือคิดว่าน่าจะมีผี อย่าไปพูดชมอะไร ๆ ออกมามั่วซั่ว เพราะเค้าจะเข้าใจว่าเราชมเค้า ฟังดูโคตรไม่มีเหตุผลใช่ไหมครับ แรก ๆ ผมก็คิดแบบนี้ จนทุกวันนี้หลังจากไปข้องเกี่ยวกับเรื่องผี ๆ เข้ามาก ๆ ฟังมาหลาย ๆ เรื่อง เริ่มเฉย ๆ และทำใจครับ ว่าพวกผีหลาย ๆ ครั้งมันไม่มีเหตุผลจริง ๆ

          มีครั้งนึงลงใต้ไปลองของที่ ม.หาดใหญ่ครับ ก็เกือบโดนกับตัวที่มหาวิทยาลัยนั้นมันจะมีตึกร้างอยู่ตึกนึง (ตึกร้างนี่ ม.ทักษิณ) ก็มีห้อง ๆ นึงครับ แปะวอลเปเปอร์สวยมาก ผมก็เผลอชมไปว่าห้องนี้สวยแฮะ ก่อนมานึกได้ว่าห้ามชมก็เลยบอก เฮ้ย ไม่สวยละ แต่มาคิดอีกทีเค้าจะโกรธเปล่าวะบอกไม่สวย สุดท้ายเลยบอกผมไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ (เหนื่อยกว่าเจอผีอีกฮะบางที)

ที่มา : kapook

เรื่องสยองจากมหาวิทยาลัยดัง
 




 

     

บทความที่เกี่ยวข้อง
มหาลัยสยองขวัญ 5. มหาวิทยาลัยศิลปากร เขตพระราชวังสนามจันทร์ ... อ่านต่อ
มหาลัยสยองขวัญ 4. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ... อ่านต่อ
มหาลัยสยองขวัญ 3. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ... อ่านต่อ
ดูดวง / ฮวงจุ้ย
ทายนิสัย จากลายมือการเขียนตัวเลข ... BY : หมอเมท ... อ่านต่อ
คาถาทวงหนี้ คาถาอีกาวิดน้ำ ใช้สำหรับคนยืมเงินแล้วไม่คืนหรือของหาย ... อ่านต่อ
ตากระตุก ตาเขม่น ลางสังหรณ์ที่บ่งบอกเรื่องราวอะไร? ... อ่านต่อ
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.