มหาลัยสยองขวัญ 4. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

     

 

เล่าเรื่องผี ตำนานเฮี้ยนมหาวิทยาลัย

4. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
 


 

          เรื่องเล่าขนหัวลุก กับเรื่องผีในมหาวิทยาลัย 11 แห่ง ขึ้นชื่อชวนขนหัวลุก จากปากคำศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ช่วยเล่าขาน ว่าแต่ตำนานผีในมหาวิทยาลัยไหนหลอนที่สุด ตามไปอ่านกันเลยค่ะ 
 

          ว่ากันว่าผีและวิญญาณล้วนมีแฝงตัวอยู่ทุกถิ่นที่ และหนึ่งในสถานที่ที่มีการเล่าขานตำนานผี ๆ มากที่สุดแห่งหนึ่งก็คือ "มหาวิทยาลัย" ซึ่งมีหลายมหาวิทยาลัยที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงเรื่องราวลี้ลับชวนขนหัวลุกเล่าต่อกันมา และวันนี้กระปุกดอทคอมขอนำ เรื่องสยองขวัญในมหาวิทยาลัยไทย (อัพเดทใหม่) จาก คุณ SteeL14s สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งคุณ SteeL14s ได้ตระเวนสัมภาษณ์จากปากคำบรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ มาโดยตรงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตำนานไหนเล่าต่อ ๆ กันมาในอินเทอร์เน็ตจนไม่รู้ก๊อบปี้ไปก๊อบปี้มากันกี่ต่อจะไม่ขอพูดถึง จึงรับประกันเรื่องราวจากบรรทัดนี้ไปคือความสยองขวัญที่เหล่าคนมีเซ้นส์ต่างช่วยเข้ามาคอนเฟิร์มแล้วว่า "ของเขาแรงจริง ๆ"

          อย่างไรก็ดี คุณ SteeL14s ได้ขออภัยไว้ล่วงหน้า หากว่าเรื่องราวหรือการกระทำใด ๆ ในคลิปวิดีโอชุดมหาวิทยาลัยสยองขวัญนี้ อาจทำให้ผู้ที่รักและผูกพันกับมหาวิทยาลัยไม่พอใจ ซึ่งที่คุณ SteeL14s เขียนเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างไรทั้งสิ้น ถ้าคุณพร้อมแล้ว ก็เชิญไปรับฟังเรื่องเล่าสยองขวัญในรั้วมหาวิทยาลัยกันเลย

 


 

4. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
 
          ผีที่มหาวิทยาลัยนี้ส่วนใหญ่จะไปสุมหัวอยู่ตามลิฟต์ตึกต่าง ๆ ครับ มีตึกไหนบ้างไปดูกันเลย

          - หน้าตึก 5 

          เห็นแม่บ้านเล่าให้ฟังว่าเคยมีแฟนกันทะเลาะกัน แล้วโดดตึกลงมาฆ่าตัวตาย จากนั้นดึก ๆ แม่บ้านจะเห็นกองเลือดกองอยู่ตรงบริเวณที่เค้าโดดเกือบทุกคืน
 

          - ลิฟต์แม่บ้าน 

          เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น้องผมโดนมากับตัวครับ เธอเป็นสาวประเภทสองชื่อน้องน้ำ คือที่ตึกนิเทศฯ จะมีลิฟต์ตัวที่แม่บ้านใช้ทำงานอยู่ครับ เป็นลิฟต์ที่สีสันโดดเด่นมาก (สีม่วงเหลือง) เด็กหลาย ๆ คนก็จะรู้จักกันในนามลิฟต์แม่บ้าน วันนั้นน้องน้ำก็ไปเรียนตามปกติครับ กลางวันแดดเปรี้ยง ๆ เลย ก็ขึ้นลิฟต์แม่บ้านไปพร้อมกดชั้น 5 แต่ลิฟต์ดันไปเปิดที่ชั้น 3 ทั้ง ๆ ที่ลิฟต์ตัวนี้ไม่มีให้ปุ่มกดออกที่ชั้น 3 นะครับ พอเปิดชั้น 3 น้องน้ำก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดว่า "รอด้วย" น้ำชะโงกหน้าออกไปดูก็ไม่เห็นเงาใครแม้แต่คนเดียว (ถึงตรงนี้น้ำชักเริ่มเสียวสันหลังละ)

          ลิฟต์ก็ขึ้นต่อไปยังชั้น 5 ครับ ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ น้ำก็เล่าว่าไม่รู้หลอนเพราะกลัวหรือเปล่า แต่รู้สึกเหมือนมีลมหายใจมารดที่ต้นคอตลอดเวลา ในที่สุดก็ถึงชั้น 5 พอลิฟต์เปิดน้ำก็สาวเท้าออกมาโดยไว จังหวะที่ลิฟต์กำลังจะปิดนั้นเอง ที่น้ำได้ยินเสียงผู้ชายคนเดิมอีกครั้งว่า "ทำไมไม่รอ... ทำไมไม่รอ..."
 


 

          - โรงพยาบาลเก่า 

          นักศึกษาที่นี่มีหลายคนนะครับ ที่เข้าใจผิดคิดว่าตึก 3 คือโรงพยาบาลเก่า จริง ๆ ไม่ใช่ตึก 3 ครับ เป็นตึก 2 ต่างหาก และที่มีคนสนใจกันเยอะก็เพราะลิฟต์ของตึกนี้นี่ละครับ ซึ่งถ้าเป็นตามเรื่องเล่าที่ว่าตึก 2 คือโรงพยาบาลเก่า ก็แปลว่าลิฟต์ตึกนี้ (ก่อนจะมาเป็นตึกเรียน) ต้องเคยผ่านการขนย้ายคนเจ็บมามากมาย และแน่นอนหลายครั้งต้องมีคนตายรวมอยู่ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหลายที่เคยโดยสารลิฟต์ตัวนี้ และจากที่ผมไปลองมา ก็มีความน่าจะเป็นที่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอยู่มากเลยครับ เพราะลิฟต์ตึก 2 มีขนาดที่กว้างและใหญ่โตมาก กว้างแบบที่ลิฟต์ตามโรงพยาบาลเป็นกัน เพราะต้องมีขนาดกว้างไว้รับรองเตียงผู้ป่วยได้นั่นเอง
 

          - พี่จุก  

          พี่จุกอีกแล้วนะครับ (คือต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรที่เป็นรูปร่างแบบกุมารเด็กสมัยก่อนที่ไว้ผมจุก คนไทยเราจะเหมาเรียกรวมเหมือนกันว่าพี่จุกหมด) พี่จุกของที่นี่เค้าอยู่ที่ศูนย์วัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยครับ ลักษณะจะเป็นรูปปั้นเด็กไทยไว้ผมจุกโบราณ เล่นตีวงล้ออยู่เห็นได้เด่นชัด (ตีวงล้อจะเป็นประมาณของเล่นเด็กไทยสมัยก่อนครับ เป็นวงล้ออันใหญ่ ๆ แล้วเด็กก็จะเอาไม้ตีให้มันวิ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ) เล่ากันว่าหากมาเดินคนเดียวดึก ๆ บริเวณนี้ บางทีอาจจะได้เห็นพี่จุกกระโดดลงมาจากแท่นปั้น แล้วมาชวนเราตีวงล้อเล่นกับเค้า (ถ้าเจอเค้าชวนต้องเล่นนะครับ ไม่งั้นงานงอกแน่ ๆ)
 

          - ตึกลานจอดรถ 

          ที่ตึกลานจอดรถ มีคนเคยเจอผู้ชายยืนลอยอยู่แค่ครึ่งตัว
 

          - จูงหมาเดินเล่น 

          ภายในมหาวิทยาลัย บางคืนจะมีคนพบเห็นอดีตเจ้าของมหาวิทยาลัยที่ท่านได้เสียไปแล้ว พาสุนัขของท่านมาจูงเดินเล่น อาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกกับนักศึกษาไว้ว่า ถ้าเห็นเข้าก็อย่าไปตกอกตกใจอะไร ท่านเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่มีอันตรายใด ๆ เค้าปกป้องคุ้มครองพวกเราอยู่
 

          - พี่สาว 

          เรื่องนี้เป็นเรื่องที่โหดสุดของที่นี่แล้วครับ ถึงขนาดเด็กพูดกันว่า "ไม่ต้องรอกลางคืนหรอกพี่ แค่กลางวันก็ไม่กล้าเดินผ่านแล้ว" จุดปะทะของเรื่องนี้จะอยู่ที่ห้องชมรมดนตรีไทยครับ (แต่เห็นว่าทุกวันนี้มีแบ่งพื้นที่ให้ดนตรีสากลด้วย) ลักษณะของห้องชมรมจะเป็นคล้าย ๆ ตึกห้องแถวครับ อยู่ถัดจากสนามบาสมาไม่ไกลนัก บริเวณห้องชมรมจะมีซอกอยู่ซอกหนึ่ง เป็นซอกเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่รกครึ้ม (เพราะแบบนี้รึเปล่าไม่รู้ที่ทำให้บรรยากาศในซอกนั้นอึดอัดโคตร) ตำนานเรื่องนี้เล่ากันไว้ว่า บริเวณตรงนั้นจะมีวิญญาณผู้หญิงอยู่คนหนึ่งครับ เด็กที่นั่นจะเรียกผู้หญิงคนนี้ว่าพี่สาว ไม่มีใครทราบประวัติที่มา ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน รู้แต่ว่าเข้าเรียนมาก็มีตำนานเรื่องนี้อยู่แล้ว กฎเหล็กของเรื่องนี้ก็คือ ถ้าอยู่ในซอกที่ว่าห้ามเล่าถึง เอ่ยถึงใด ๆ เกี่ยวกับพี่สาวเด็ดขาดไม่งั้นจะเจอ
 

          คืนที่ผมไปลองก็ไปกันประมาณ 4 คนครับ (ขอไปเยอะหน่อย ยอมรับว่าเสียว) บรรยากาศตอนกลางวันว่าอึดอัดแล้ว เทียบไม่ได้เลยกับตอนกลางคืน สองข้างทางระเกะระกะไปด้วยป้ายไม้โฆษณาของชมรมนั้นชมรมนี้ แล้วต้นไม้ใหญ่ก็หลายต้นเหลือเกินทางฝั่งขวา ซอกที่ว่านี้จริง ๆ มันนิดเดียวนะครับ แต่ตอนไปลองนี่รู้สึกว่าไกลมาก ก็เล่าเรื่องของพี่สาวกันในซอกครับ เล่าไปขนลุกไปแต่ก็ไม่มีอะไร จนออกมาตั้งหลักจากบริเวณดังกล่าว เพื่อนผมสองคนก็มาบอกว่า ได้ยินเสียงขิมจากในห้องชมรม (ขิมคือเครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่งครับ)
 


 

          เรื่องนี้มันยังไม่จบแค่ตรงนี้ครับ (ที่จะเล่าต่อไปนี้จะฟังดูงมงายหน่อยนะครับ ขนาดผมเป็นคนเล่าเองยังรู้สึกนิด ๆ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นน่ะ ขอเล่าไปตามข้อเท็จจริงละกัน) ยังจำตอนต้นกระทู้ได้ไหมครับ ที่ผมพูดถึงผู้มีสัมผัสทางวิญญาณท่านหนึ่ง คนคนนี้ไม่ใช่ไก่กานะครับ เอาเป็นว่าถ้าบอกชื่อไป ในวงการคนเห็นผีด้วยกันนี่ไม่มีใครไม่รู้จัก ถึงขั้นเค้าเคยบอกว่า เคยมียักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงมาเชิญไปเป็นผู้เชี่ยวชาญในรายการ แต่เค้ารู้สึกว่าถ้าไปออกทีวี ไปทำอะไรแบบนั้น มันไม่ใช่การช่วยแล้ว (เค้าใช้คำว่าช่วยในการแก้ปัญหาเรื่องผีต่าง ๆ ครับ ไม่ได้ช่วยแค่คนนะครับ เค้าหมายถึงช่วยผีด้วยในบางครั้ง) มาต่อที่เรื่องของผมครับ คือเวลาผ่านไปสักพัก ผมกับเพื่อนไปลองของตามมหาวิทยาลัยนั้นมหาวิทยาลัยนี้มาก็เยอะ ชักอยากรู้ว่า "มีอะไรตามกูกลับมามั่งไหมเนี่ย" ก็เลยไปขอให้พี่เค้าดูให้ครับ ขอข้ามขั้นตอนวิธีการดูไปละกันนะครับ มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง

          พี่เค้าก็ทักผมมาครับ ว่ามีเด็กเกาะอยู่ที่ขาขวาตัวนึง พี่เค้าถามผมว่าหลัง ๆ มีอารมณ์อยากกินช็อกโกแลตบ้างไหม ถ้าอยากกินเมื่อไหร่แปลว่าเด็กคนนี้เค้าอยากกินแล้วเค้าดลใจให้เราอยากด้วย กรณีไอ้เด็กนี่ไม่ค่อยเดือดครับ มันเดือดตรงตัวที่เกาะหลังผม พี่คนนี้บอกว่ามีนักศึกษาคนหนึ่งเกาะหลังผมอยู่ครับ ผมก็ถามว่าเค้ามาจากไหน พี่เค้าทำหน้าเครียดสักพักก็บอกว่า สถานที่เป็นตรอกเล็กๆ มีต้นไม้รกครึ้ม (!!!!) ไม่ต้องสืบเลยครับ ลักษณะแบบนี้เคยไปมาที่เดียว ผมก็ถามว่าเค้าตามมาทำไม พี่เค้าบอกเค้าตามมาเพราะเราไปว่าเค้า ว่าคิดยังไงมาตายตรงนี้วะ (จริง ๆ ไอ้ผมก็จำไม่ได้หรอกครับ ว่าคืนนั้นปากหมาพูดะไรไปบ้าง) สุดท้ายผมก็ถามว่าแล้วต้องทำยังไง พี่เค้าบอกว่าผู้หญิงคนนี้เค้าเสียชีวิตเพราะผิดหวังเรื่องความรัก วิธีขอโทษเค้าก็เลยต้องนำดอกกุหลาบไปใส่บาตรทุกเช้า วันละ 1 ดอก สามวัน ขอย้ำอีกทีนะครับ ว่าผมไม่เชื่อเรื่องผี เอาจริง ๆ เดินสายลบหลู่เลยแหละ แต่เชื่อไหมครับ ต่อให้ไม่เชื่อ พอโดนทักเข้าแบบนี้มันก็หวั่น ๆ ครับ ผมเลยมีโอกาสได้ตื่นเช้าเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี ไปเอาดอกกุหลาบรอใส่บาตรพระ 3 เช้าติดเลย 
 
          ส่วนกรณีเพื่อนผมอีกคนที่โดนทัก (ไอ้นี่ก็ไปกับผมแทบทุกที่เหมือนกัน) เพื่อนผมหนักกว่าผมเยอะครับ ไปโดนนางไม้ชุดไทยสองคนตามกลับมาจากจุฬาฯ เป็นพี่น้องกันเกาะบ่าซ้ายบ่าขวาเลย มีโอกาสยังไงเมื่อไหร่ จะมาเขียนเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะครับ

ที่มา : kapook

เรื่องสยองจากมหาวิทยาลัยดัง
 




 

     

บทความที่เกี่ยวข้อง
มหาลัยสยองขวัญ 1. มหาวิทยาลัยรังสิต ... อ่านต่อ
มหาลัยสยองขวัญ 2. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ... อ่านต่อ
มหาลัยสยองขวัญ 3. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ... อ่านต่อ
ดูดวง / ฮวงจุ้ย
ทายนิสัย จากลายมือการเขียนตัวเลข ... BY : หมอเมท ... อ่านต่อ
คาถาทวงหนี้ คาถาอีกาวิดน้ำ ใช้สำหรับคนยืมเงินแล้วไม่คืนหรือของหาย ... อ่านต่อ
ตากระตุก ตาเขม่น ลางสังหรณ์ที่บ่งบอกเรื่องราวอะไร? ... อ่านต่อ
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.