อย่าให้...อีโก้...ของคุณมาทำร้ายคุณเอง!

          อีโก้ หรือ ที่ภาษาไทยเรียกว่า “อัตตา” นั้นคือ การที่เราเห็นว่าตัวเราเองนั้นสำคัญ ถ้าเราไม่มี อัตตา เราก็จะไม่รู้สึกว่าเราเองนั้นสำคัญ เราจะไม่มีความเป็นปัจจเจกอยู่ในตัวตนของเราเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่รู้ว่าเรานั้น จะมีอยู่ไปทำไม นอกจากนี้ อัตตา หรือ อีโก้ ยังเป็นตัวบอกเราว่า เรามีจุดประสงค์ในการดำรงชีวิตเพื่ออะไร ซึ่งสุดท้ายก็เพื่อตัวเอง ที่หลายๆ คนอาจมองว่า มันคือ “ความเห็นแก่ตัว” นั่นเอง

          ซึ่งจริงๆ แล้ว ความเห็นแก่ตัว มันเป็นอะไรที่เป็น ธรรมชาติมากๆ เพราะถ้าคนบนโลกนี้ ไม่มีใครที่เห็นแก่ตัวเลย ก็ไม่มีใครที่กล้าทำอะไรที่ยิ่งใหญ่บนโลกใบนี้ได้ เพราะไม่มีแรงผลักดันมากพอยังไงล่ะ ซึ่งอยากจะบอกว่า ความเห็นแก่ตัว จากการมีอีโก้ นี่แหละที่สิ่งมีชีวิตทุกตัวบนโลก อย่างน้อยต้องมี เพื่อทำให้เราเองก้าวไปข้างหน้าเพื่อทำสิ่งต่างๆ

          แต่กระนั้น อีโก้ อยู่เดี่ยวๆ ไม่ได้ มันต้องมี จิตวิญญาณของมนุษย์ อยู่ด้วยที่จะช่วงสร้างสมดุลมากขึ้น เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะคนเรา ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองคนเดียวบนโลกใบนี้หรอกนะ เราต้องอยู่ร่วมกันคนอื่นเพื่อทำให้ชีวิตเราอยู่รอดได้ และถ้าคุณไม่สามารถสร้างสมดุลระหว่าง อัตตา และจิตวิญญาณได้ และปล่อยให้อัตตา หรืออีโก้ของคุณสูงเกินไป ย่อมเกิดปัญหาตามมาแน่นอน!

          หากมองกันลึกๆ จิตวิญญาณคือสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่า ส่วนหนึ่งของเราเชื่อมโยงกับสิ่งอื่นๆ รอบตัวบนโลกใบนี้ และทำให้อีโก้ หรืออัตตาของเราเอง ไม่ดึงตัวเราออกมามากเกินไป จนแตกสลายออกจากสิ่งที่ยึดโยงเราเอาไว้กับคนอื่นๆ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องอยู่คนเดียว และไม่รอดในที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ถ้ามีจิตวิญญาณของมนุษย์อย่างเดียว และไม่มีอัตตา หรืออีโก้ ก็เหมือนกับเราใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นเพียงอย่างเดียว ไม่ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเลย ก็ถือเป็นสิ่งที่ผิด เพราะฉะนั้น สมดุล คือสิ่งที่ดีที่สุด

          ทั้งนี้ ปัญหาที่คนส่วนใหญ่พบ ไม่ใช่เรื่องจิตวิญญาณมากเกินไปหรอก ส่วนใหญ่ที่จะพบคือ อีโก้ สูงเกินไปต่างหาก ซึ่งวิธีแก้ ไม่ใช่พยายามตัดอีโก้ออก แต่เป็นการเพิ่มจิตวิญญาณของมนุษย์เข้าไปเพื่อสร้างสมดุล เรามาดูกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง

ติดต่อ ผูกสัมพันธ์กับผู้อื่นในทางบวกให้มากขึ้น

          ถ้าคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ที่ใหญ่กว่าโลกส่วนตัวของคุณเอง คุณต้องผูกสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยาก ถ้าคุณมีอีโก้ที่สูง แต่มันก็ต้องเริ่มจากจุดไหนสักแห่ง ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ดี คือการรับฟังเรื่องราวของคนอื่นบ้าง ไม่ใช่รับฟังเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง และตอบกลับเฉพาะเรื่องของคุณเองเท่านั้น เพราะหากคุณฟัง นั่นหมายถึงคุณแคร์คนอื่นมากขึ้นแล้วนั่นเอง ลองช่วยเหลือคนแปลกหน้าที่ต้องการความช่วยเหลือ ลองช่วยคนที่เขายากไร้กว่าเรา นี่แหละ ที่จะทำให้คุณเริ่มสร้างสมดุลขึ้นมาได้บ้างแล้วล่ะ

เข้าใจว่าตอนนี้โลกของเราเป็นอย่างไร และรักษามัน

          โลก คือ บ้านของเรา คือประวัติศาสตร์ คือมรดก คือสิ่งที่ทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ ตราบเท่าที่มันยังคงสภาพที่สิ่งมีชีวิตยังอยู่ได้ เพราะถ้าไม่เช่นนั้น มันก็เป็นเพียง ก้อนหินขนาดยักษ์ลอยอยู่ในอากาศก็เท่านั้นเอง ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีความเห็นด้านสิ่งแวดล้อม หรือระบบนิเวศไปทางไหน แต่ทุกคนถือว่ามีความรับผิดชอบที่จะตระหนักว่า โลกของเราทุกวันนี้เป็นอย่างไร มีปัญหาหรือไม่ และถ้ามี เราควรช่วยกันคนละไม้คนละมือในการแก้ปัญหาอย่างไร เพราะนี่แหละคือ การที่เราพยายามเพิ่มจิตวิญญาณเข้ามามากขึ้น คิดซะว่าเราคือส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ทุกอย่างเชื่อมต่อกัน ถ้าโลกนี้สลายไป เพราะทุกคนยกอีโก้ขึ้นเหนือสิ่งอื่นใด ไม่สนใจรักษาโลกใบนี้ เราทุกคนก็จบ 

สร้างเป้าหมายในชีวิต ที่ไม่ใช่แค่คุณได้ประโยชน์ แต่คนอื่นๆ ด้วย

          เหมือนกับที่เรากล่าวไว้ข้างต้นว่า การมีอีโก้ มันทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิต แต่จุดนี้สำคัญ ถ้าเราให้อีโก้อยู่เหนือทุกอย่าง เป้าหมายที่ออกมานั้น ก็จะเป็นเป้าหมายที่มีเพื่อประโยชน์ส่วนตนของคุณล้วนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำให้คุณใช้ชีวิติอยู่อย่างมีความสุขร่วมกับสิ่งอื่นๆ ได้ คุณต้องวางเป้าหมายใหม่ มองถึงประโยชน์ของส่วนรวมบ้าง ใช้จิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ที่คุณมี ว่าเป้าหมายของชีวิตที่ “สมดุล” ของคุณคืออะไร

H/T: Elitedaily

ที่มา : kiitdoo