ไขปริศนาโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำกำลังจะท่วมโลกจริงหรือ?

ประเทศไทยจะจมหาย?

              ...ว่ากันว่า... น้ำทะเลจะท่วมสูงกินลึกเข้ามาท่วมประเทศไทย!...ดร.อานนท์... ถ้าด้วยเหตุผลจากโลกร้อนอย่างเดียว คงไม่ใช่หรอกครับ มันต้องมาจากสาเหตุอื่นด้วย เช่น น้ำแข็งขั้วโลกใต้ต้องละลายออกมาทั้งหมด...ย้ำว่าทั้งหมดครับ! ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่ผมก็ไม่ได้ฟันธงว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น เราคาดกันว่าระดับน้ำทะเลมันจะสูงขึ้นไม่น่าเกิน 1-2 เมตร ในอีกไม่เกิน 100 ปีข้างหน้า ซึ่งถ้ามันสูงขึ้น 2 เมตรจริง หลายส่วนของกรุงเทพฯ อาจจะถูกน้ำท่วมอย่างถาวร แต่ไม่ได้ถึงขนาดจะท่วมภาคกลางไปทั้งหมดอย่างเชื่อกันครับ

ไม่เกิน 30 ปี ภาคกลางจะกลายเป็นชายหาด?

              ....ว่ากันว่า... น้ำจะล้นขึ้นมาจนถึงสระบุรี ลพบุรี แล้วกรุงเทพฯ ก็จะกลายเป็นเมืองใต้ทะเลไปชั่วนิรันดร์!...ดร.อานนท์... การที่ภาคกลางจะเกิดน้ำท่วมเพราะน้ำทะเลยกตัวสูงในอีก 30 ปีข้างหน้านั้น ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะให้เป็นขนาดนั้น น้ำต้องเพิ่มสูงถึง 10 เมตร และภาคกลางโดยเฉลี่ยก็อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 5-10 เมตร และมันจะไม่ใช่การท่วมถาวร จนเส้นชายฝั่งกินลึกไปจนถึงสระบุรี แต่ถ้าพูดถึงน้ำท่วมภาคกลางเพราะฝนที่มากขึ้น อันนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้แน่นอน เหมือนที่เราเจอตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มันจะเป็นการท่วมแบบครั้งคราวเท่านั้น

น้ำแข็งขั้วโลกใต้จะละลายจนหมด จริงหรือ?

              ....ว่ากันว่า… น้ำแข็งขั้วโลกใต้กำลังละลายเร็วขึ้นเรื่อยๆ น้ำกำลังจะท่วมโลกในไม่ข้า!...ดร.อานนท์... ถ้าน้ำแข็งขั้วโลกใต้ต้องละลายออกมาหมดจริง น้ำทะเลก็จะสูงขึ้นประมาณ 70 เมตร การที่มีคนพูดกันว่ามันจะท่วมถึงลพบุรี นครสวรรค์ อันนั้นอยู่บนพื้นฐานที่ว่าน้ำแข็งขั้วโลกใต้ต้องละลายออกมา "ทั้งหมด" แต่เราก็ต้องมานั่งเถียงกันว่า มันมีอะไรที่จะทำให้เป็นถึงขนาดนั้นได้ เพราะกระบวนการของโลกมันซับซ้อน เมื่อมีอะไรทำให้โลกเปลี่ยนไป โลกเองก็มีกระบวนการที่จะทำให้กลับมาสมดุลย์เหมือนกัน ไม่ได้ปล่อยให้เราทำร้ายตามอำเภอใจหรอกครับ

เราต้องเขียนแผนที่โลกกันใหม่?

              ....ว่ากันว่า... มนุษย์จะต้องเขียนแผนที่โลกกันใหม่ เพราะแผ่นดินหลายส่วนทั่วโลกกำลังจะจมน้ำหายไป?...ดร.อานนท์... คงไม่ใช่หรอกครับ เรื่องโดนน้ำทะเลท่วม มันคงต้องดูความสูงของแผ่นดินประกอบกันด้วย เพราะถ้าเอาสาเหตุจากระดับน้ำทะเลอย่างเดียว มันก็จะกระทบเฉพาะบริเวณที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 2 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นชายฝั่ง เรื่องถึงขนาดต้องเขียนแผนที่ใหม่ทั่วโลกคงเป็นไปไม่ได้แต่เรื่องการเขียนแผ่นที่ใหม่นี่เขาเขียนกันเป็นประจำอยู่แล้วนะ โดยเฉพาะแผนที่ชายฝั่ง เพราะพื้นที่มันโดนกัดเซาะตลอด ยกตัวอย่างอ่าวไทย เราผ่านการขีดเส้นชายฝั่งใหม่มาแล้วหลายครั้ง แต่มันแค่หดเข้ามาแค่ไม่กี่สิบเมตร หรือเต็มที่ก็ร้อยเมตร ดังนั้นการทำแผนที่ใหม่ สำหรับนักทำแผนที่มันต้องทำใหม่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตระหนก มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น!

              ...ดร.อานนท์... มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดกันหรอกครับ ไม่ใช่จะมีภัยพิบัติน้ำทะลักท่วมโลก ไม่ใช่ตื่นเช้ามาพรุ่งนี้แล้วมันจะเหมือนถังน้ำแตกกระจายไปทั่ว คงไม่ใช่แบบนั้น ปัญหามันจะค่อยๆ มาทีละน้อย จนเราคิดว่าไม่เป็นไร แล้วปล่อยมันไปจนเราลืม แต่ถ้าเราหยิบเอาข้อมูลมาดูเรื่อยๆ เราจะเห็นว่าตัวเลขที่เราต้องรับมือภัยพิบัติมันมากขึ้นเรื่อยๆ ภาวะโลกร้อนมันทำให้ภัยพิบัติเกิดถี่ขึ้น แต่มันจะมาแล้วก็จากไป ไม่ใช่อยู่กับเราไปถาวรจนต้องย้ายเมืองหลวงหนี เมืองหลวงเราอาจจะอยู่ที่เดิม แต่เราอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการป้องกันเป็นครั้งคราวบ่อยขึ้น ที่ทำได้ก็คือ พยายามช่วยกันลดอะไรก็ตามที่มันจะทำลายโลก ซึ่งผมว่าทุกคนรู้อยู่แล้ว

              ... เรื่องผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อน มันไม่ได้รุนแรงเฉียบพลัน หรือน้ำทะลักเข้าท่วมเหมือนในหนัง แต่มันจะค่อยๆ เกิดขึ้นทีละนิดๆ จนเราตายใจ ดังนั้นจึงอย่าตื่นตระหนกให้มันเกินไปนัก เพียงแต่ตระหนักถึงปัญหา และหาทางป้องกันแก้ไขไว้อยู่เสมอจะดีกว่า ...

              ขอขอบคุณ : ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย [ข้อมูลเมื่อปี 2009 / ปัจจุบันอาจารย์เป็นผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)]

ที่มา : นะติงนอง@pantip