10 ที่เที่ยวหน้าฝน ชุ่มฉ่ำเย็นใจ

1.ล่องแก่งเรือยางแม่น้ำนครนายก จ.นครนายก 

          สัมผัสความงดงามของสายน้ำนครนายก โดยการล่องแก่งเรือยางกิจกรรมที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด การท่องเที่ยวแบบทีมเวิร์คที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุก

2.ขับรถ ATV ที่ RATV จ.นครนายก 

          ชมธรรมชาติและสายน้ำระยะทางในการขับประมาณ 7 กิโลเมตร บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ ใช้เวลาประมาณ 30 - 45 นาที ขับผ่านเส้นทางธรรมชาติ ผ่านหมู่บ้าน สวนผลไม้ ลำธารน้ำใส และฝายทดน้ำ แวะชมสวนกวางกว่า 100 ตัว พร้อมถ่ายภาพที่ระลึกในความประทับใจที่มีฉากหลังเป็นภูเขา ท้องฟ้าและผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ยากสำหรับคนที่ทดลองขับเป็นครั้งแรก เพราะก่อนออกสนามจริงทุกครั้งจะมีเจ้าหน้าที่สอนการใช้รถอย่างไรให้ปลอดภัย แนะนำวิธีการขับ การเบรก การนั่งที่ถูกวิธี โดยมีทีมงานดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง เหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวแบบเป็นแก๊งยกก๊วน มันส์สุดๆ สนุกตลอดเส้นทาง

3.ชมหมอกบ้านอีต่อง อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี 

          หน้าหนาวที่นี่ไม่มีหมอก ทว่าในหน้าฝนบ้านอีต่องจะปกคลุมด้วยหมอกเกือบตลอดทั้งวัน ด้วยตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามันฝั่งพม่า ใครที่ชอบความเย็นฉ่ำของละอองฝนแนะนำให้ลองมาสัมผัสสักครั้ง

4.ตะลุยป่าเมฆอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา 

          แม้ผาเดียวดายปิดในช่วงหน้าฝน ทว่าในช่วงปลายฝนจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปสัมผัสความสมบูรณ์ของป่าดิบเขาบนพื้นที่สูงประมาณ 1,000 ม.จากระดับน้ำทะเล ในบรรยากาศเย็นสบาย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น"ป่าเมฆ"

5.ล่องแก่งลุ่มน้ำเข็ก อ.วังทอง จ. พิษณุโลก 

          เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจของฤดูฝนนี้ ล่องก่องน้ำเข็กเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. -ธ.ค. ไปกริ๊ดให้สุดเสียงกับแรงเหวี่ยงของสายน้ำที่ไหลผ่านแก่งหินซึ่งจัดอยู่ในระดับ 3-5 ตลอดระยะทาง 9 กม.

6.ชมดอกหงอนนาคภูสอยดาว อ. น้ำปาด จ. อุตรดิตถ์ 

          ป่าภูสอยดาวเปิดตั้งแต่เดือนส.ค. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับดอกหงอนนาคจะบานสะพรั่งอวดสีม่วงอ่อนตัดกับสีเขียวของต้นหญ้าและสนต้นสูงชะลูดซึ่งขึ้นเต็มพื้นที่ ยิ่งในช่วงที่แสงอาทิตย์อัสดงสาดพาดลงบนหมู่ดอกหงอนนาค ดูราวกับมีสวรรค์อยู่บนพื้นดิน

7. ชมไร่กะหล่ำปลีบนภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ. เพชรบูรณ์ 

          ทิวทัศน์กะหล่ำนับหมื่นดอก คงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากภูทับเบิก แต่หลายคนนิยมเที่ยวในหน้าหนาว น้อยคนที่จะรู้ว่าหน้าฝนที่นี่ก็สุดยอด ยิ่งมาในช่วงหลังฝนตกใหม่ๆ ที่นี่จะปกคลุมไปด้วยหมอกละอองฝนปกคลุมทิวเขาทุ่งกะหล่ำปลี

8.ปีนหน้าผาท้าทายความสูงน้ำตกธารรัตนา จ.นครนายก 

          เป็นกิจกรรมท้าทายแรงดึงดูดของโลก บนผาจริงของน้ำตกธารรัตนา 5 ชั้น ในผืนป่ามรดกโลกเขาใหญ่ ความท้าทายบนแผ่นผากับ 1 วัน มันส์สุดเหวี่ยง ต้องไปลองกันสักครั้ง

9. The Pete Maze 

          ยิ่งหลงทางยิ่งสนุก ชอบตื่นเต้นผจญภัยแบบไม่ต้องสมบุกสมบัน และยังได้ทดสอบความจำกับการควบคุมสติไม่ให้ตื่นกลัวจากการหลงทาง ลองมาเที่ยวเขาวงกตต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ แนะนำให้มาช่วงเช้าหรือเย็นจะไม่ร้อนมากนัก เส้นทางเดินในเขาวงกตวกวนชวนงงๆ อยู่ แต่ไม่น่ากลัวอะไร หนำซ้ำถ้าเดินหลงทางก็จะเจอจุดถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างใน เช่น มุมน้ำพุ กำแพงดินสอสี รูปปั้นต่างๆ เข้าทำนองว่า "จุดหมายไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ได้พบเจอระหว่างทาง" นั่นเอง รายละเอียด : พิชญ์ เขาวงกต อยู่ในซอยตรงข้ามฟาร์มโชคชัย 3 ถนนธนะรัชต์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเฉพาะ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.ค่าเข้าชม 150 บาท โทร. 08-0168-9601

10. เก็บเห็ดสดๆ ในเขาใหญ่ พาโนรามา ฟาร์ม 

          ถูกใจทั้งครอบครัวเพราะฟาร์มเห็ดแห่งนี้เปิดโรงเรือนให้นักท่องเที่ยวมาช้อปปิ้งเห็ด ด้วยการเข้าไปเลือกเก็บเห็ดสดๆ ด้วยตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้เกี่ยวกับเห็ดชนิดต่างๆ ที่ปลูกเอาไว้กว่า 12 ชนิด เช่น เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดนางรมฮังการี เห็ดหูหนู เห็ดหลินจือ ฯลฯ ใครจะซื้อเห็ดเพาะกลับไปปลูกเล่นที่บ้านก็ถุงละ 18-20 บาท เก็บเห็ดเสร็จแล้วมาชิมสารพันเมนูเห็ดเพื่อสุขภาพในร้านอาหาร โดยเฉพาะจานติดดาวอย่างเห็ดโคนชุบแป้งทอดกับน้ำจิ้มซีฟู้ด...เวรีกู๊ดจริงๆ ตามด้วยน้ำเห็ด 5 ชนิด และไอศกรีมเห็ดเย็นชื่นใจ แล้วอย่าลืมซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ดอย่างน้ำพริกเห็ด ไส้อั่วเห็ด เห็ดสามรส ไปอร่อยต่อที่บ้านล่ะ รายละเอียด : เขาใหญ่ พาโนรามา ฟาร์ม อยู่ริมถนนธนะรัตน์ กม. 10 ตรงข้ามบ้านไม้เขาใหญ่ เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00-17.00 น. สำหรับวันหยุดปิด 19.00 น. หากมาเป็นคณะใหญ่คิดค่าเข้าคนละ 30 บาท โทร. 08-6895-1441

ที่มา : sanook