พลังตัวเลขขับเคลื่อน "รถชีวิต"

 ชีวิตคนเราก็เปรียบเหมือนรถหนึ่งคัน

บทความโดย ... หมอเมท  ทศวิวัฒน์ ( Horonumber ) : อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลขศาสตร์ประยุกต์
 

          ชีวิตคนเราก็เปรียบเหมือนรถหนึ่งคัน  และกว่าที่จะเป็นรถได้หนึ่งคัน ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่างในการประกอบ ไม่ว่าจะเป็นล้อ  ตัวถัง ครัชชี เครื่องยนต์ ประตู หรืออื่นๆอีกมากมาย ที่ใช้ในการประกอบตัวรถ เฉกเช่นการประกอบชีวิตก็เช่นกันมันก็ต้องมีปัจจัยอีกมากมายกว่าจะเป็นคนขึ้นมาได้หนึงคน ต้องมีสิ่งต่างๆมารวมกัน เช่น เป้าหมาย อุปสรรค ความรัก ครอบครัว เนื้อหนังมังสา และรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะแยะมากมาย เป็นต้น  กว่าจะประกอบร่างเป็นคนหนึ่งคนมันช่างลำบากซะเหลือเกิน

          และในวันนี้ผมจะเปรียบเทียบเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งของชีวิตคนเราในปัจจุบันไปเสียแล้วและเรียกว่าแทบจะขาดไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป  ในความคิดของผม ถ้าให้ผมเปรียบว่าเบอร์โทรที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งในชีวิตของเรา จะสามารถเปรียบเป็นส่วนไหนของรถได้หละ  ผมคิดว่าเบอร์โทรน่าจะเปรียบเสมือนระบบเกียร์ AUTO ซึ่งระบบเกียร์นี้แหละครับน่าจะเหมาะที่สุด ( เกียร์ออโต้อย่างเดียวนะครับ ไม่เอาเกียร์แมนนวล Manaul  ) ซึ่งเกียร์ AUTO นี้แหละครับจะเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตส่วนหนึ่ง ในง่ายขึ้น ให้เดินไปข้างหน้าได้แบบราบรื่น

การเสริมแรงขับเคลื่อนชีวิตด้วยเบอร์โทรศัพท์ แบบเกียร์ AUTO  เปรียบเทียบได้ดังนี้

          เกียร์ N คือ Neutral  (เกียร์ว่าง)  จะเข็นไปทางไหนก็ได้ ในพื้นที่ราบ ถ้าหากจอดไม่ดีมีรถไหลได้นะครับ  ถ้าเปรียบเทียบเป็นคู่ตัวเลขในเบอร์โทรศัพท์ผมก็เปรียบเป็นคู่เลข 56 นั่นก็เพราะว่าเป็นคู่เลขที่สบายๆ ยังไงก็ได้ อยากจะเข็นตัวฉันไปทางไหนก็เข็นไปเถอะ ถ้าไม่เข็นฉันก็อยู่นิ่งๆเรื่อยๆของฉันต่อไปก็ได้... สบายดีเนอะ

          เกียร์ D คือ Drive  (เกียร์เดินหน้า)  อันนี้สำคัญครับ ถ้าไม่มีเกียร์ตัวนี้ รถไม่วิ่งแน่นอน  ถ้าให้เปรียบเป็นตัวเลขก็จะประมาณเลข 14, 15, 19 นั่นก็เพราะว่าเบอร์เหล่านี้จะมีไว้สำหรับกระตุ้น ให้คิดและทำ ไม่ใช่คิดแต่ไม่ทำการใดๆ ทำให้การทำงานนั้นๆมีความก้าวหน้า ไม่หยุดอยู่กับที่ คุณคงไม่อยากได้รถที่มีเอาไว้โชว์อย่างเดียวแล้วแล่นไม่ได้ใช่ไหมล่ะครับ

          เกียร์ P คือ Park (จอดรถ)  เหมือนใส่เบรคไว้ เข็นก็ไม่ไปเอาไว้เวลาเราจอดในทางลาดชันหรือพื้นที่ไม่ราบเรียบเป็นแนวเดียวกัน ถ้าให้เปรียบเป็นตัวเลขกคงเป็นประมาณเลข 59, 79 นั่นก็เพราะว่าเบอร์เหล่านี้มีความรอบคอบสูงลิบ เน้นความมั่นคงเป็นหลัก หากไม่จำเป็นจำไม่เคลื่อนไหวอะไรใดๆ ใครจะมาขยับมาเคลื่อนก็ไม่ไหวติง จะเรียกว่าคนเหล่านี้ทิฐิสูงด้วยก็ไม่ผิดครับ แต่จุดเด่นของเขาคือ ไม่เน้นก้าวหน้า ขอให้มั่นคงไว้ก่อน เรื่องอื่นค่อยคิดกัน

          เกียร์ R คือ Reverse  (ถอยหลัง) เกียร์ถอยนี้ ใส่ไว้ตลอดคงจะไม่ดี เพราะชีวิตเราคงไม่เดินหน้าแน่ๆ แต่บางครั้งการถอยกลับมาตั้งหลักบ้าง ก็ยังดีในบ้างครั้ง ถ้าให้ผมเปรียบเป็นตัวเลขก็คงจะประมาณเลข 24, 25, 26 ซึ่งมีความหมายในเชิง “ยอมถอยให้คนอื่น ไม่เน้นการแตกหัก” แน่นอนว่าในชีวิตของเรา เราก็ต้องเจอเรื่องของการกระทบกระทั่งกันบ้าง ขับรถสวนกันบ้าง เข้าสู่ซอยแคบแล้วมีปัญหาไปต่อไม่ได้บ้าง ตัวเลขกลุ่มนี้จะช่วยในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้

          หากเจอการปะทะกันแรงๆไม่มีใครยอมใคร มุ่งแต่จะใส่เกียร์ D กันอย่างเดียว รถของทั่งสองฝ่ายก็คงจะไม่สามารถเดินหน้ากันไปได้ แม้แต่ตัว N ตัว P ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือ “ถอย” ออกมา ต้องมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งยอม ทุกๆอย่างจึงจะสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่... ถ้ารถมีแต่เกียร์ R หรือการยอมอยู่เพียงเกียร์เดียวล่ะ แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่ามันก็เดินทางไปได้อยู่นิแต่ไปแบบหันหลังไป ใช่ครับมันก็ได้อยู่ พอถูไถไป แต่มันช้านะ จะแซงอะไรคนอื่นก็ไม่ได้ แน่นอนว่าอย่าไปพูดถึงเรื่องธุรกิจที่ต้องแข่งขันกันสูงเลย ตายแน่ๆ

          และเกียร์ L คือ Low (เกียร์ต่ำ) ขึ้นเขาลงห้วย ก็ต้องเกียร์นี้ ซึ่งจะมีแรงฉุด หรือแรงกระตุ้นในระยะสั้นๆ  เพื่อส่งให้เกียร์ D เป็นตัวขับเคลื่อนต่อ ไปอย่างคล่องตัว ถ้าให้ผมเปรียบก็คงจะประมาณเลข 35, 36, 39 นั่นก็เพราะตัวเลขเหล่านี้ หากใช้ไปนานๆอาจจะทำให้เครื่องร้อนเกินขนาด ส่งผลเสียต่อบุคคล(อะไหล่)รอบข้างได้ ประมาณว่าใจร้อน และวีนแตกง่ายนั่นล่ะครับ แถมหากใส่ตัวเลขเหล่านี้เข้าไปเยอะๆอีกก็มักจะชอบทำอะไรเกินกำลังของตนเอง มีโอกาสที่จะเสียเรื่องสุขภาพของตนเอง แต่ข้อดีคือทำให้รถเคลื่อนที่ได้ไวมากๆ และชีวิตดูมีสีสัน เหมาะกับการแข่งขันสุดๆ

          คุณผู้อ่านคงเห็นแล้วนะครับว่า การเปรียบเทียบคู่ตัวเลขในเบอร์โทรเราเป็นระบบเกียร์ AUTO เหล่านี้ เราควรให้ทุกอย่างเป็นการสมดุลของระบบเกียร์ทั้งหมดเพื่อให้การขับเคลื่อนชีวิตได้อย่างเต็มรูปแบบ ถ้าหากเราใส่แต่เบอร์เกียร D ลงไป ไม่มีถอยเอาเสียเลย เมื่อไหร่ที่คุณเจอทางตันคุณก็ไม่สามารถไปไหนได้อีกนอกเสียจากว่าลงเดินหรือเข็นรถกลับซึ่งมันก็ต้องลำบากแน่นอน หรือ หากคุณใส่เกียร N ไปในเบอร์เยอะๆ ชีวิตคุณก็จะนิ่งและถูกลากจูงไปทางไหนก็ได้อีกเช่นกัน จะเดินหน้าไปได้ก้ต่อเมื่อมีคนผลักหรือจูงแบบนี้ก็ไม่ค่อยเวริคเท่าไหร่ เอาเป็นว่า ลองเลือกเอานะครับว่าเราจะใส่เกียร์แบบไหนให้ชีวิตเราบ้าง

          และสุดท้าย ท้ายสุด ส่วนที่สำคัญที่สุดของรถชีวิต คันนี้ นั่นก็คือ "น้ำมัน"  ซึ่งน้ำมัน ณ ที่นี้ผมเปรียบให้เท่ากับการทำ "บุญ" ถ้าคุณไม่เติมน้ำมัน หรือเติมบุญ  รถของคุณก็ย่อมวิ่งไม่ได้เช่นกัน เพราะฉนั้นเราควรหมั่นทำบุญ (ตามหลักศาสนาของท่าน ) หมั่นทำความดีเยอะ เพื่อให้รถชีวิตของเราราบรื่นตลอดไป ไม่มีสะดุด หรือ หมดบุญ นะครับ

บทความโดย
 

 

หมอเมท ทศวิวัฒน์  ( Horonumber )
อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลขศาสตร์ประยุกต์
www.horonumber.com