ท่อ HDPE นวัตกรรมแห่งโลกยุคใหม่ เป็นที่นิยมในงานโครงสร้างพื้นฐาน 

เบื้องหลังโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและยั่งยืน คือ นวัตกรรมวัสดุที่พลิกโฉมวงการระบบท่อ อย่างท่อ HDPE ผนัง 2 ชั้น ชนิดกันลามไฟ หรือท่อ FRPE ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ทั้งมีคุณสมบัติหน่วงไฟ ไม่ลามไฟ ความทนทานต่อแรงกระแทก แรงดันสูง และสารเคมี ไม่มีสารปนเปื้อน อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้วัสดุชนิดนี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในงานหลากหลายประเภท ท่อ HDPE นี้ จึงเป็นคำตอบสำหรับทุกความท้าทายในงานระบบท่อ

ท่อ HDPE จึงไม่ได้เป็นแค่ท่อพลาสติกธรรมดา แต่เป็นวัสดุวิศวกรรมที่ปฏิวัติวงการระบบท่อ ด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าเหล็ก ความยืดหยุ่นที่ทนทานต่อทุกสภาพพื้นผิว และความสามารถในการต้านทานสารเคมีที่หลากหลาย ท่อ HDPE หรือท่อ FRPE จึงเป็นเหมือนเบื้องหลังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับงานที่ต้องการความทนทานและความปลอดภัยสูงสุด

มาทำความรู้จักท่อ HDPE กัน

ท่อ HDPE (High-Density Polyethylene) คือ ท่อที่ผลิตจากพลาสติกโพลีเอทิลีนที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ เช่น ทนทานต่อแรงกระแทก แรงกดทับ และการขีดข่วนได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยเฉลี่ย 50-100 ปี สามารถโค้งงอได้ ทำให้ติดตั้งได้ง่ายในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด ทนทานต่อสารเคมีหลากหลายชนิด รวมถึงกรด ด่าง และเกลือ อีกทั้งยังมีหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นท่อ HDPE PN6 หรือ ท่อ HDPE PN10

นอกจากนี้ ท่อ HDPE ถูกนำไปใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นระบบประปา, ระบบชลประทาน, อุตสาหกรรม และงานโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อีกทั้งขนาดท่อ HDPE มีให้เลือกใช้หลากหลาย สามารถเชื่อมต่อได้หลายวิธี เช่น การเชื่อมด้วยความร้อน (Butt Fusion) ที่สำคัญ คือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสามารถรีไซเคิลได้

ท่อ HDPE กับท่อ PE มีความแตกต่างกันอย่างไร?

ท่อ HDPE (High-Density Polyethylene) กับท่อ PE (Polyethylene) มีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีความแตกต่างกันในด้านความหนาแน่นและคุณสมบัติบางประการ ดังนี้

1. ท่อ PE คือ ท่อที่ผลิตจากพลาสติกโพลีเอทิลีน ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความหลากหลาย และสามารถแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ตามความหนาแน่น ท่อ PE เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น ระบบน้ำหยดในการเกษตร และงานท่อขนาดเล็ก

2. ท่อ HDPE คือ ท่อที่ผลิตจากโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (High-Density Polyethylene) ซึ่งเป็นหนึ่งในชนิดของท่อ PE เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานสูง เช่น ระบบประปา ระบบชลประทาน และงานอุตสาหกรรม

โดยสามารถสรุปประเด็นความแตกต่างระหว่างท่อ HDPE และท่อ PE เพิ่มเติมได้ ดังนี้

• ท่อ HDPE มีความหนาแน่นสูงกว่าท่อ PE ชนิดอื่น ๆ ทำให้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

• ท่อ HDPE มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก แรงกดทับ และการขีดข่วนได้ดีกว่าท่อ PE ชนิดอื่น ๆ

• ท่อ HDPE ทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อนได้ดีกว่า

• ท่อ PE ชนิดอื่น ๆ (เช่น LDPE) มีความยืดหยุ่นมากกว่าท่อ HDPE ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความโค้งงอ

กล่าวได้ว่า ท่อ HDPE เป็นท่อชนิดหนึ่งของท่อ PE ที่มีความหนาแน่นสูงกว่า ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าท่อ PE ชนิดอื่น ๆ 

คุณสมบัติเด่นของท่อ HDPE

ท่อ HDPE (High-Density Polyethylene) มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมในการใช้งานหลากหลายประเภท ดังนี้

• ทนทานต่อแรงกระแทก แรงกดทับ และการขีดข่วนได้ดีเยี่ยม

• สามารถทนต่อแรงดันได้สูง ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง

• มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยทั่วไปมากกว่า 50 ปี

• สามารถโค้งงอได้ ทำให้ติดตั้งได้ง่ายในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด

• ทนทานต่อการทรุดตัวของดินและการเคลื่อนตัวของพื้นผิว ทำให้ลดความเสี่ยงของการแตกหัก

• ทนทานต่อสารเคมีหลากหลายชนิด รวมถึงกรด ด่าง และเกลือ เหมาะสำหรับใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสารเคมี

• ไม่เป็นสนิมและไม่ผุกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในงานที่สัมผัสกับน้ำและความชื้น เหมาะสำหรับใช้ในระบบประปาและระบบระบายน้ำ

• ผิวภายในท่อเรียบลื่น ทำให้ของเหลวไหลผ่านได้สะดวก ลดการสะสมของตะกอนและสิ่งสกปรก ทำให้รักษาประสิทธิภาพการไหลได้ดี

• มีน้ำหนักเบา ทำให้ขนส่งและติดตั้งได้ง่าย ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งและติดตั้ง

• สามารถเชื่อมต่อได้หลายวิธี เช่น การเชื่อมด้วยความร้อน (Heat Fusion) ทำให้ได้รอยต่อที่แข็งแรงและทนทาน

• ลดความเสี่ยงของการรั่วซึม

• สามารถรีไซเคิลได้ ทำให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

• มีตารางท่อ HDPE ทำให้ขนาดท่อ HDPE ที่หลากหลาย 

• ท่อ HDPE ราคาไม่แพง มีความคุ้มค่ากับคุณภาพที่ได้รับ

ท่อ HDPE เหมาะกับการใช้งานแบบใด?

ท่อ HDPE เป็นท่อพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ เช่น ความแข็งแรงทนทาน ความยืดหยุ่น ทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน อีกทั้งท่อ HDPE ขนาดหลากหลาย ทำให้ท่อชนิดนี้เหมาะสำหรับงานหลายประเภท ดังนี้

1. ระบบประปา

• ท่อส่งน้ำประปา: ท่อ HDPE มีความทนทานต่อแรงดันและสารเคมีในน้ำประปา ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบประปา

• ท่อระบายน้ำ: ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเสียและสารเคมี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบระบายน้ำเสีย

2. ระบบชลประทาน

• ท่อส่งน้ำเพื่อการเกษตร: มีความยืดหยุ่นและทนทานต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบชลประทาน

• ท่อระบบน้ำหยด: ท่อ HDPE สามารถโค้งงอได้ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบน้ำหยด

3. อุตสาหกรรม

• ท่อส่งสารเคมี: ทนทานต่อสารเคมีหลากหลายชนิด ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมเคมี

• ท่อส่งก๊าซ: มีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงดัน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบส่งก๊าซ

• ท่อร้อยสายไฟฟ้า: ท่อ HDPE มีความทนทานต่อความชื้นและสารเคมี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในการร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน

4. งานโครงสร้างพื้นฐาน

• ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน: ช่วยป้องกันสายไฟฟ้าจากความเสียหายจากความชื้นและสารเคมี

• ท่อร้อยสายเคเบิลโทรคมนาคม: ช่วยป้องกันสายเคเบิลโทรคมนาคมจากความเสียหาย

5. งานเหมืองแร่ โดยท่อลำเลียงแร่: ท่อ HDPE มีความทนทานต่อการขีดข่วนและการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับการลำเลียงแร่

HDPE และท่อ FRPE วัสดุอัจฉริยะแห่งโลกยุคใหม่

ท่อ HDPE (High-Density Polyethylene) คือ ท่อที่ผลิตจากพลาสติกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง หรือท่อพีอีผนัง 2 ชั้น ชนิดกันลามไฟ (ท่อ FRPE) ที่มีคุณสมบัติเด่น คือ การหน่วงไฟ ทนทานต่อแรงดันและสารเคมี มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และอายุการใช้งานยาวนาน ขนาดท่อ HDPE และราคาท่อ HDPE มีหลากหลาย ทำให้เหมาะสำหรับงานหลากหลายประเภท และโครงสร้างพื้นฐาน โดยท่อ HDPE และท่อ FRPE แตกต่างจากท่อ PE ชนิดอื่น ๆ ตรงที่หน่วงไฟได้ถึง 60 วินาที ตามคลาส V2 ทดสอบตามมาตรฐาน Ul94  จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้งด้านอัคคีภัยและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม