ข้อเข่าเสื่อม ใช้ยารักษาอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด

ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันมีแนวโน้มพบในคนวัยทำงานมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ข้อเข่าอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการยืนนาน นั่งยอง ๆ บ่อย ๆ หรือการเล่นกีฬาหนัก ๆ โดยข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งนำไปสู่การอักเสบ ปวด บวม และการเคลื่อนไหวที่ติดขัด ทำให้คุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก

หลายคนหันมาพึ่ง “ยา” ในการบรรเทาอาการ แต่การใช้ยาอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยนั้นต้องอาศัยความเข้าใจและคำแนะนำจากแพทย์ บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ว่า การใช้ยารักษาข้อเข่าเสื่อมอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด ควรทำอย่างไร

ประเภทของยาในการรักษาข้อเข่าเสื่อม

1. ยาแก้ปวดและต้านการอักเสบ

Paracetamol (พาราเซตามอล): เป็นตัวเลือกแรก เพราะปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อย เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดไม่มาก

NSAIDs (ยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์): เช่น Ibuprofen, Naproxen, Diclofenac ช่วยลดการอักเสบและปวดได้ดี แต่อาจมีผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหาร ไต และหัวใจ

ข้อแนะนำ: ควรใช้ NSAIDs ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว

2. ยากลุ่มเสริมสร้างกระดูกอ่อน (Symptomatic Slow Acting Drugs for Osteoarthritis - SYSADOA)

Glucosamine และ Chondroitin: เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในกระดูกอ่อน ช่วยเสริมสร้างและชะลอการเสื่อมของข้อ

Avocado-soybean unsaponifiables (ASU): ลดการอักเสบและส่งเสริมการซ่อมแซมของข้อ

ข้อดี: ปลอดภัย เหมาะกับการใช้ระยะยาว

ข้อจำกัด: ต้องใช้ต่อเนื่อง 2–3 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล

3. ยาฉีดเข้าเข่า

Hyaluronic Acid Injection: ช่วยหล่อลื่นข้อ ลดแรงเสียดทาน และบรรเทาอาการปวดได้

Corticosteroid Injection: ใช้ในกรณีที่มีการอักเสบรุนแรง ฉีดแล้วอาการดีขึ้นเร็ว

ข้อควรระวัง: การฉีดสเตียรอยด์บ่อยเกินไปอาจทำให้ข้อเสื่อมเร็วขึ้น