สายไฟฟ้าแรงสูงคือส่วนหนึ่งของระบบส่งพลังงานที่มีหน้าที่นำกระแสไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไปยังสถานีหรือพื้นที่ใช้งานต่างๆ โดยมักใช้ในระยะทางไกล เช่น จากโรงไฟฟ้าไปยังเมืองหรือชุมชนที่ต้องการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้สายไฟฟ้าแรงสูงจึงถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อความมั่นคงของระบบพลังงานในระดับประเทศ
สายไฟฟ้าแรงสูงหมายถึงสายไฟที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงดันไฟฟ้าสูงกว่าระดับปกติทั่วไป โดยทั่วไปแรงดันของสายไฟประเภทนี้จะเริ่มตั้งแต่ 33 กิโลโวลต์ขึ้นไป จนถึงระดับหลายร้อยกิโลโวลต์ขึ้นอยู่กับลักษณะของระบบและพื้นที่ที่ต้องการส่งกระแสไฟฟ้า
แรงดันที่สูงขึ้นมีประโยชน์ตรงที่สามารถลดการสูญเสียพลังงานระหว่างทางได้มาก จึงเหมาะกับการส่งไฟฟ้าในระยะทางไกลหรือระหว่างจังหวัด
สายไฟฟ้าแรงสูงมักทำจากวัสดุที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดี เช่น อะลูมิเนียมหรือทองแดง ซึ่งมีน้ำหนักเบาและทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก สายจะถูกพันเป็นเกลียวเพื่อเพิ่มความแข็งแรงต่อแรงลมและแรงตึง
นอกจากนี้ยังต้องติดตั้งบนเสาไฟที่มีความสูงและระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอันตรายต่อประชาชน รวมถึงอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ เช่น ลูกถ้วยไฟฟ้า ฉนวน และระบบป้องกันฟ้าผ่า ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยในการใช้งาน
การแบ่งประเภทของสายไฟฟ้าแรงสูงสามารถดูจากระดับแรงดันที่ใช้งานได้ดังนี้
ใช้ในระดับเมืองหรืออุตสาหกรรมขนาดกลาง แรงดันมักอยู่ระหว่าง 33 ถึง 115 กิโลโวลต์ นิยมใช้ในการส่งไฟจากสถานีใหญ่ไปยังสถานีย่อย
เหมาะกับการส่งไฟฟ้าข้ามจังหวัดหรือในระยะทางไกล แรงดันอยู่ระหว่าง 115 ถึง 230 กิโลโวลต์ และอาจสูงกว่านั้นในบางระบบ
ใช้ในระบบส่งพลังงานที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงมาก เช่น สำหรับเขตอุตสาหกรรมหรือโครงข่ายหลักของประเทศ มีแรงดันมากกว่า 230 กิโลโวลต์ขึ้นไป
สายไฟฟ้าแรงสูงเป็นองค์ประกอบหลักในการส่งพลังงานจากแหล่งผลิตไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดการสูญเสียพลังงานและรองรับปริมาณไฟฟ้าจำนวนมาก จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ การเลือกใช้งานและดูแลรักษาอย่างถูกต้องจะช่วยให้ระบบพลังงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อผู้ใช้งานในระยะยาว
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย