การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อสิทธิประโยชน์ของผู้ส่งและผู้รับ มีข้อตกลงสำหรับการส่งสินค้าระหว่างประเทศ เรียกว่า Incoterm เพื่อเป็นข้อกำหนดที่จะทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทราบได้ว่า สินค้าที่ถูกส่งมอบไปนั้นจะสามารถส่งได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย Incoterm จึงเป็นข้อตกลงที่สำคัญโดยเฉพาะกับผู้ขายของออนไลน์ หรือผู้ซื้อของออนไลน์ระหว่างประเทศ สำหรับวันนี้เราจะไปดูกันว่า Incoterms คืออะไร มีข้อตกลงอะไรบ้าง บทบาทสำคัญของ Incoterms และวิธีเลือกใช้งานเป็นอย่างไร
ข้อตกลง Incoterm อย่างที่เราทราบกันคร่าว ๆ แล้วว่าคือ ข้อตกลงที่ใช้สำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งจริง ๆ แล้ว Incoterm ย่อมาจาก International Commercial Terms มาตรฐานเงื่อนไขทางโลจิสติกส์ในการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยสภาหอการค้านานาชาติ (ICC: International Chamber of Commercial)
Incoterm คือ เงื่อนไขในการส่งมอบสินค้าระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ เป็นเงื่อนไขที่จะทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายทราบถึงขอบเขตความรับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการซื้อขาย เรียกได้ว่า Incoterm เป็นข้อตกลงสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าระหว่างประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 11 ประเภทด้วยกัน
ข้อตกลง Incoterm นับว่ามีบทบาทสำคัญกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าระหว่างประเทศ เป็นตัวกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบสำหรับการซื้อขายสินค้า และยังเป็นเครื่องมือสำคัญในแง่ของการทำธุรกิจระหว่างประเทศอีกด้วย เพื่อให้คู่ค้าได้เข้าใจและตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเองในแต่ละขั้นตอน Incoterms จึงถูกเลือกมาใช้งานเพื่อลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจหรือการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ
ข้อตกลงของ Incoterm แบ่งออกเป็น 11 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
EXW (Ex Works) เงื่อนไข Incoterm ที่กำหนดขอบเขตภาระความรับผิดชอบของผู้ขายให้โดยความรับผิดชอบของผู้ขายจะสิ้นสุดหลังจากการส่งมอบให้ผู้ซื้อ ณ สถานที่ตามที่กำหนด และผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ สำหรับการส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าของผู้ซื้อเอง
FCA (Free Carrier) เงื่อนไข Incoterm คือ ผู้ขายจะสิ้นสุดภาระการส่งมอบสินค้าเมื่อผู้ขายได้ส่งมอบสินค้านั้นให้กับผู้รับขนส่งที่ระบุโดยผู้ซื้อ ณ สถานที่ที่กำหนด นอกจากนี้ผู้ขายจะต้องช่วยเหลือด้านข้อมูลเอกสารการผ่านแดนและการนำเข้า
CPT (Carriage Paid To) เงื่อนไข Incoterm โดยผู้ขายจะสิ้นสุดภาระการส่งมอบสินค้าเมื่อสินค้านั้นถูกส่งมอบให้กับผู้ซื้อโดยขนส่งจากผู้รับขน และผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อนสิ้นสุดการส่งมอบ และเป็นผู้ดำเนินวิธีการส่งออก ในส่วนของผู้ซื้อจะเป็นผู้รับความเสี่ยงหลังจากนั้น โดยจะต้องชำระค่าใช้จ่ายที่เหลือทั้งหมด รวมถึงดำเนินพิธีการผ่านแดนและนำเข้าด้วยตนเอง
CIP Term (Carriage and Insurance Paid To) คือ ประเภทของ Incoterm ส่วนของผู้ขายที่จะต้องรับผิดชอบส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อรวมถึงทำสัญญาประกันภัยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้า โดยการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบจนกว่าจะสิ้นสุดการส่งมอบ
DAP (Delivered at Place) ประเภทของ Incoterm ที่บอกถึงความรับผิดชอบของผู้ขายที่จะต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ยกเว้นค่าภาษีและพิธีการนำเข้า นอกจากนี้ต้องรับความเสี่ยงภัยจนสินค้าถึงจุดหมายปลายทาง
DPU (Delivered at Place Unloaded) การรับผิดชอบของผู้ขายเมื่อส่งมอบสินค้าโดยรับผิดชอบในส่วนของค่าใช้จ่าย และความเสี่ยงทั้งหมดไปจนถึงการขนถ่ายสินค้าลงจากยานพาหนะไปยังอาคารขนถ่ายสินค้าปลายทาง ในส่วนของผู้ซื้อจะต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดของสินค้าเมื่อได้รับมอบสินค้าแล้ว
DDP Term (Delivered Duty Paid) คือ เงื่อนไขการส่งมอบที่ผู้ขายจะสิ้นสุดความรับผิดชอบ เมื่อทำการจัดส่งสินค้าพร้อมส่งมอบให้กับสถานที่ปลายทางตามกำหนด ผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของพิธีการส่งออก ค่าใช้จ่ายระหว่างการขนส่งสินค้า ค่าประกันภัย รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการนําของลงจากเรือและค่าขนส่งสินค้าไปยังสถานที่ปลายทาง
FAS (Free Alongside Ship) หนึ่งในประเภทของ Incoterm ที่ระบุว่า ผู้ขายจะสิ้นสุดภาระการส่งมอบสินค้า เมื่อผู้ขายได้นําสินค้าไปยังท่าเรือต้นทางที่ระบุไว้ โดยผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการขนส่งสินค้า ความเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบการทําพิธีการนำเข้าด้วย
FOB (Free on Board) หนึ่งในประเภทของ Incoterm ที่ระบุว่า ผู้ขายจะสิ้นสุดภาระการส่งมอบสินค้า เมื่อผู้ขายได้นําสินค้าไปยังท่าเรือต้นทางที่ระบุไว้ โดยที่ผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบพิธีการส่งออก ส่วนผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบการทําพิธีการนำเข้า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ความเสี่ยงภัยต่าง ๆ ผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
CFR (Cost and Freight) หนึ่งในประเภทของ Incoterm ที่ระบุว่า ผู้ขายจะต้องเป็นผู้ส่งมอบสินค้าไปยังท่าเรือปลายทางตามกำหนด และต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการทำพิธีการส่งออก รวมถึงค่าใช้จ่ายระหว่างการขนสินค้า ส่วนผู้ซื้อจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นในการขนส่งสินค้า
CIF (Cost Insurance and Freight) หนึ่งในประเภทของ Incoterm ที่ระบุว่า ผู้ขายจะต้องเป็นผู้ส่งมอบสินค้าไปยังท่าเรือปลายทางตามกำหนด และต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการทำพิธีการส่งออก รวมถึงค่าใช้จ่าย เช่น ค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยขนส่งสินค้า เพื่อเป็นการคุ้มครองความเสี่ยงภัยในการขนส่งสินค้าจนไปถึงมือผู้ซื้อ
จะเห็นว่า Inoterm มีหลากหลายประเภทให้คุณเลือกตามเงื่อนไขของแต่ละประเภทนั้น มีขอบเขตการรับผิดชอบที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือก Incoterm ควรพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้ เพื่อให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเอง
ควรพิจารณาลักษณะสินค้าที่ต้องการขนส่งทั้งขนาดและจำนวน เพื่อไปดูว่าเหมาะกับเงื่อนไขของ Incoterm ในประเภทใด
พิจารณาวิธีการขนส่งที่เหมาะกับคุณ และสินค้าของคุณ
ปลายทางการรับสินค้าที่สะดวกต่อทั้งผู้รับและผู้ขาย
ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งที่คุณจะยอมรับได้
อัตราค่าบริการ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
Incoterm เป็นข้อตกลงที่มีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะธุรกิจส่งออก หรือนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เป็นตัวกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และเพื่อเป็นการทำความเข้าใจการขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขอย่างไรบ้าง Incoterm จะช่วยลดความเสี่ยง ความสับสน และช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจได้อีกด้วย
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย