Juvelook เป็นวิธีการฟื้นฟูผิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้ครบทุกด้าน ทั้งลดความหมองคล้ำ เติมความอิ่มฟู และทำให้ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวพร้อมรับมือกับมลภาวะในทุกวัน สำหรับผู้ที่สงสัยเกี่ยวกับจำนวนครั้งที่ต้องฉีดเพื่อให้เห็นผล ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน เหมาะกับใคร แตกต่างจากสกินบูสเตอร์ตัวอื่นอย่างไร สามารถติดตามอ่านรายละเอียดได้ในบทความนี้ค่ะ
Juvelook เป็นสารที่จัดอยู่ในกลุ่ม Hybrid Biostimulator ซึ่งผสมผสานสารสำคัญ 2 ชนิด ได้แก่ Poly D,L-Lactic Acid (PDLLA) และ Hyaluronic Acid ที่ไม่ผ่านกระบวนการ crosslink (Non-crosslinked Hyaluronic Acid) โดย Hyaluronic Acid จะช่วยเติมเต็มและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ส่วน PDLLA จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับผิว เมื่อสองสารนี้ทำงานร่วมกัน ก็จะช่วยกระตุ้นการผลิตเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ผิวจึงดูอิ่มฟู เรียบเนียน มีความชุ่มชื้นและฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ
การ ฉีด Juvelook ไม่เพียงแค่ช่วยเติมเต็มผิว แต่ยังมีการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์คงทนและดูเป็นธรรมชาติเมื่อเทียบกับการใช้สารเติมเต็ม (Filler) อื่น ๆ
Juvelook เป็นหนึ่งในตัวเลือกของสกินบูสเตอร์ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ซึ่งมีผลดีหลายประการ โดยที่ผลลัพธ์หลังการใช้จะเห็นได้ชัดเจนในหลายๆ ปัญหาผิว เช่น
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว Juvelook ช่วยเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูอิ่มฟู ใส เด้ง และมีความกระจ่างใส
กระชับรูขุมขน สามารถช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวจะดูเรียบเนียน
ลดเลือนริ้วรอย Juvelook ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น
ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ โดยเฉพาะที่บริเวณใต้ตา ช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำดูสดใสขึ้น
หลุมสิวตื้นขึ้น การกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น และปัญหาผิวที่มีการบาดเจ็บก็ได้รับการฟื้นฟู
ลดจุดด่างดำ ช่วยให้จุดด่างดำและรอยสิวจางลง
ช่วยลดรอยแตกลาย Juvelook ช่วยให้รอยแตกลายที่เกิดขึ้นบนผิวดูจางลง
Juvelook สามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งบนร่างกาย โดยที่ตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการฉีดบริเวณใบหน้าเพื่อช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและมีความสดใสขึ้น การฉีด Juvelook สามารถทำได้ที่หลายตำแหน่ง เช่น
ใบหน้า การฉีดทั่วใบหน้าช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวดูอิ่มฟู
หน้าผาก ลดริ้วรอยที่หน้าผากและทำให้รอยยับดูจางลง
แก้ม ช่วยกระชับรูขุมขนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ใต้ตา ช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาจะจางลง
หลุมสิว การกระตุ้นคอลลาเจนที่บริเวณหลุมสิวจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น
รอบดวงตา (ตีนกา) ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดริ้วรอยที่มุมปากและรอบดวงตา
Juvelook เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้นจากภายใน ด้วยประสิทธิภาพในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและการเพิ่มความชุ่มชื้นที่มีอยู่ในตัว ทำให้สามารถแก้ปัญหาผิวได้หลากหลายกลุ่ม ดังนี้
คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง โดยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนจะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงและผิวดูเรียบเนียน
คนที่มีปัญหาหลุมสิว การกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น
คนที่ต้องการเพิ่มความอิ่มฟูให้ผิว ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียนและฉ่ำวาว
คนที่มีผิวหมองคล้ำ โดยเฉพาะใต้ตา Juvelook ช่วยให้ผิวดูสดใสและลดความหมองคล้ำได้
คนที่มีปัญหาริ้วรอย ช่วยลดริ้วรอย เช่น รอยตีนกาและริ้วรอยบนคอ
คนที่ผิวแห้งและแต่งหน้าไม่ติด การฉีด Juvelook ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า
ราคาของการฉีด Juvelook จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการรักษา โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับผู้รับบริการ ค่ารักษาจะเป็นไปตามปัญหาผิวและจำนวนครั้งในการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล การปรึกษากับแพทย์โดยตรงจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการประเมินค่าใช้จ่าย โดยราคาทั่วไปเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 – 25,000 บาท
หลังจากฉีด Juvelook ครั้งแรก ผู้รับบริการจะเห็นผลลัพธ์ของผิวที่ดีขึ้น โดยผิวจะมีความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ จะเริ่มจางลงทันที สำหรับคนที่มีปัญหาผิวมาก เช่น มีหลุมสิวหรือริ้วรอยลึก ๆ ควรฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง โดยให้ฉีดทุก ๆ 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลังจากการฉีดครั้งแรก ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ถึง 1 ปี โดยจะมีการเสริมผลลัพธ์ทุก ๆ 6-12 เดือน เพื่อให้ผิวยังคงอิ่มฟูและดูเรียบเนียนอย่างต่อเนื่อง
Juvelook และ Sculptra มีความแตกต่างกันในเรื่องของส่วนผสมและการทำงานดังนี้
Juvelook เป็น Hybrid Biostimulator ที่ผสมผสาน PDLLA และ Non-crosslinked Hyaluronic Acid โดยทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและลดเลือนริ้วรอย
Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ที่ใช้สาร PLLA ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวและช่วยยกกระชับผิวให้ดูยืดหยุ่นมากขึ้น แต่หลังจากการฉีดต้องมีการนวดเพื่อกระจายตัวยา
Juvelook และ Rejuran เป็นสกินบูสเตอร์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน
Juvelook ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว เพิ่มความยืดหยุ่นและเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู
Rejuran ช่วยซ่อมแซมผิวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ เพิ่มความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน
แม้ว่า Juvelook และ Filler จะใช้ในการเติมเต็มผิว แต่มีการทำงานที่แตกต่างกัน
Juvelook เน้นการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ซึ่งช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียน
Filler ใช้เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เช่น ร่องลึกหรือการปรับรูปหน้าให้ดูสมดุล
หลังการฉีด Juvelook ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือสารระคายเคือง เพื่อลดการระคายเคือง
งดการนวดหรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีด
งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ผิวฟื้นฟู
ใช้ครีมกันแดด และ มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อล็อกความชุ่มชื้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
Juvelook เป็นตัวช่วยฟื้นฟูผิวที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู กระจ่างใส ลดริ้วรอยและหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องใช้การผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและเป็นธรรมชาติ หากใครที่ต้องการดูแลผิวพรรณหรือฟื้นฟูผิวให้กลับมาสุขภาพดีและแข็งแรงมากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์มากประสบการณ์ด้านหัตถการสกินของ Vincent Clinic ได้เลย
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย