มารู้จักกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ให้มากขึ้น

ในยุคนี้ก็ต้องบอกเลยว่าการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยมีการป้องกันที่หละหลวมอาจจะเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นสูงมากในวัยรุ่นที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และไม่ได้มีการป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์อย่างถูกวิธี บทความนี้จะเล่าถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นได้ง่ายและพบเจอได้บ่อย รวมถึงวิธีการป้องกันและความเสี่ยงต่าง ๆ 

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

แน่นอนว่าความเสี่ยงของการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้น ไม่ใช่แค่เฉพาะคนที่ไม่รักษาความสะอาดเท่านั้น โดยกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คร่าว ๆ มีดังนี้

• กลุ่มแรกคือกลุ่มผู้ที่มีคู่นอนหลายคน การมีคู่นอนหลายคนโดยไม่มีการป้องกันเพิ่มโอกาสในการสัมผัสเชื้อจากผู้ที่อาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างแน่นอน

• ถัดมาคือกลุ่มผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรคต่าง ๆ เช่น HIV, ซิฟิลิส, หรือหนองในได้ 

• ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ได้ตรวจสุขภาพ อาจส่งผลให้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ หรือถ้าไม่รู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง ความเสี่ยงในการติดโรคจะเพิ่มขึ้นอีก 

• ถัดมาคือผู้ที่ใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ร่วมกับการทำกิจกรรมทางเพศ เพราะว่าการใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์อาจลดความระมัดระวังและเพิ่มโอกาสในการมีพฤติกรรมที่เสี่ยง เช่น อาจจะส่งผลให้เกิดการไม่ใช้ถุงยางอนามัย 

• อีกกลุ่มนึงคือผู้ที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกเปลี่ยนเงินหรือสิ่งของ สำหรับบางคนที่ค้าประเวณีหรือมีเพศสัมพันธ์เพื่อผลประโยชน์มักเกี่ยวข้องกับการมีคู่นอนหลายคน 

• สุดท้ายคือผู้ที่มีพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงหรือบาดเจ็บ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ (เช่น มีแผลหรือเลือดออก) เพิ่มความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ ยิ่งถ้าเป็นผู้ที่มีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน เช่น หนองใน, เริม, หรือซิฟิลิส อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อใหม่ในอนาคตอีก

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอะไรบ้าง 

อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของโรคที่เป็น โดยส่วนมากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยจะมีดังนี้

โรคเอดส์ (HIV)

เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ชื่อเต็มคือ Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV ซึ่งเป็นโรคที่จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยมีอาการระยะแรกคือมีไข้ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมาพัฒนาสู่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าโรค เอดส์ AIDS แต่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้โดยการใช้ถุงยางอนามัย, หรือรับประทานยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ (PrEP)

โรคซิฟิลิส (Syphilis)

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ถัดมาเป็นโรคที่เจอได้บ่อย ซึ่งจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum มีอาการเริ่มต้นด้วยแผลเล็ก ๆ ที่ไม่เจ็บ จากนั้นอาจเกิดผื่นทั่วร่างกายและลุกลามสู่ระบบภายในหากไม่ได้รับการรักษา และสามารถป้องกันได้โดยใช้ถุงยางอนามัย, ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

โรคหนองใน (Gonorrhea)

ถัดมาจะเป็นโรคหนองใน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae

โดยจะมีอาการของเพศหญิงคือตกขาวผิดปกติ หรือทั้งสองเพศจะมีอาการแสบหรือเจ็บขณะปัสสาวะ ในบางกรณีอาจไม่มีอาการและสามารถป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัย รวมถึงการไม่เปลี่ยนคู่นอนจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

โรค HPV (Human Papilloma Virus)

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากไวรัส Human Papilloma Virus บางสายพันธุ์เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูกและหูดที่อวัยวะเพศ อาการคือมีหูดขนาดเล็กบริเวณอวัยวะเพศ บางรายไม่มีอาการจนพัฒนาเป็นมะเร็ง สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน HPV, และใช้ถุงยางอนามัย

โรคเริมที่อวัยวะเพศ (Genital herpes)

เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes Simplex Virus (HSV) ชนิดที่ 1 และ 2 อาการแผลพุพองเล็ก ๆ ที่เจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศ บางรายอาจไม่มีอาการ สามารถป้องกันได้โดย ใช้ถุงยางอนามัย, หลีกเลี่ยงการสัมผัสในช่วงที่มีแผล

โรคพยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis)

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากปรสิต Trichomonas vaginalis บางรายจะเป็นตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาการคันหรือแสบในช่องคลอด อาจไม่มีอาการในบางกรณี 

วิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โดยส่วนมากการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทำได้ไม่ยาก ยิ่งถ้าสามารถหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ได้จะลดโอกาสการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างแน่นอน แต่หากไม่สามารถเลี่ยงได้ นี่เป็นวิธีคร่าว ๆ ที่จะลดโอกาสในการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

• การไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ และมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ได้รับการตรวจโรคมาแล้วเท่านั้น

• การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะทางปากหรืออวัยวะเพศ

• รักษาความสะอาดของอวัยวะเพศทั้งก่อน และ หลังมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงตรวจสุขภาพทางเพศสม่ำเสมอ

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ?

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด ยิ่งถ้าเราเข้าใจและปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องแล้ว โรคเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัย การฉีดวัคซีนป้องกัน และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้หลายโรคยังสามารถรักษาให้หายขาดได้หากพบและรักษาในระยะแรก สิ่งสำคัญคือการรู้จักและการดูแลสุขภาพทางเพศของตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้มากขึ้น

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น!

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คือโรคที่สามารถแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก โรคเหล่านี้มีหลายชนิด เช่น หนองใน ซิฟิลิส เริมที่อวัยวะเพศ HIV และ HPV ในบางโรคมีอาการชัดเจน เช่น แผลหรือตกขาวผิดปกติ แต่บางโรคอาจไม่มีอาการเลยและการป้องกันที่ดีที่สุดคือการใช้ถุงยางอนามัย ตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ และฉีดวัคซีนป้องกันในโรคที่มีวัคซีนและโรคเหล่านี้หลายโรคสามารถรักษาให้หายได้หากจัดการตั้งแต่เนิ่น ๆ