IT Outsource คืออะไร จ้างบริษัทเอาต์ซอร์สดีอย่างไร?

การจ้าง IT Outsource ช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนในการบริหารจัดการ IT ลดความซับซ้อนในการบริหารบุคลากร และยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี

ในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจ แต่การลงทุนในทรัพยากรไอที ทั้งด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน อาจเป็นภาระหนักสำหรับผู้ประกอบการ ดังนั้น การจ้าง IT Outsource จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการไอทีระดับมืออาชีพได้โดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนสูง และยังสามารถเพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกิจได้อีกด้วย 

ทำความรู้จักกับการจ้าง IT Outsource

IT Outsource คือ การว่าจ้างหรือมอบหมายงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ให้กับผู้ให้บริการภายนอกหรือบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อเข้ามาดูแลและจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับ IT ขององค์กร แทนที่จะบริหารจัดการโดยบุคลากรภายในองค์กร เช่น การดูแลระบบเครือข่าย, การพัฒนาและดูแลซอฟต์แวร์, การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือการจัดการโครงสร้างพื้นฐานของ IT

โดยสามารถแบ่งเป็นหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ เช่น การจ้างเป็นโปรเจ็กต์เฉพาะ (Project-based), การจ้างเป็นรายเดือนหรือรายปีเพื่อดูแลระบบ (Managed Services) หรือการจ้างพนักงาน IT แบบชั่วคราว เพื่อนำความเชี่ยวชาญของพนักงาน IT Outsource ข้างนอกเข้ามาช่วยในงานที่มีความเฉพาะเจาะจง 

จ้าง IT Outsource ดีกว่าจ้างพนักงานประจำยังไง?

การจ้าง IT Outsource มีข้อดีหลายอย่างเมื่อเทียบกับการจ้างพนักงาน IT ประจำ โดยเฉพาะในแง่ของการลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการธุรกิจ มาดูกันว่าสาเหตุที่หลายองค์กรถึงนิยมจ้างบริษัท IT Outsource กัน!

1. ลดต้นทุนทางทรัพยากรบุคคล

การจ้างพนักงานประจำหมายถึงต้นทุนที่ต้องจ่ายต่อเนื่อง เช่น เงินเดือน, สวัสดิการ, การฝึกอบรม และสวัสดิการด้านสุขภาพ ซึ่งอาจเป็นภาระทางการเงินระยะยาวสำหรับธุรกิจ ในทางตรงกันข้าม การจ้าง IT Outsource ให้บริการเพียงเฉพาะที่ต้องการหรือเป็นโครงการเฉพาะ ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ

2. เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญในหลายด้าน

บริษัท IT Outsource มักมีผู้เชี่ยวชาญหลากหลายที่เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์, การจัดการเครือข่าย, และการพัฒนาแอปพลิเคชัน จึงสามารถดึงความรู้และประสบการณ์จากทีมผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มาใช้งานได้ทันที ทำให้ธุรกิจได้รับบริการที่มีคุณภาพสูงโดยไม่ต้องเสียเวลาในการฝึกอบรมพนักงานใหม่

3. การควบคุมงบประมาณ

การจ้าง IT Outsource ทำให้ธุรกิจสามารถควบคุมงบประมาณได้ง่ายขึ้น เช่น การจ้างเฉพาะช่วงที่ต้องการงานพิเศษ การใช้บริการในรูปแบบจ่ายตามการใช้งาน หรือสัญญาจ้าง Outsource แบบระยะสั้น เพื่อลดภาระผูกพันระยะยาว ช่วยให้การวางแผนทางการเงินของธุรกิจคล่องตัวมากขึ้น

4. สามารถลดเวลาในการทำงานส่วนนี้

การดูแลระบบ IT ที่มีความซับซ้อนอาจทำให้ธุรกิจต้องแบ่งเวลาและทรัพยากรจากกิจกรรมหลักของธุรกิจ แต่การใช้บริการ IT Outsource จะช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นการพัฒนาและขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแลและซ่อมบำรุงระบบ IT

5. ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนบุคลากร

เมื่อจ้างพนักงานประจำ มีความเสี่ยงที่พนักงานจะลาออกหรือขาดแคลนทักษะที่ทันสมัยในบางเรื่อง การจ้าง IT Outsource จึงช่วยลดปัญหานี้ได้ เพราะผู้ให้บริการมีความรับผิดชอบในการจัดหาบุคลากรที่มีทักษะและความรู้ที่ทันสมัยอยู่เสมอ

6. มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า

บริษัท IT Outsource มักมีการลงทุนในเทคโนโลยีและการฝึกอบรมบุคลากรให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งช่วยให้องค์กรได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพสูงและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่า โดยที่ไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอง

วิธีการเลือกบริษัท IT Outsource ที่ไว้ใจได้

การเลือกบริษัท IT Outsource ที่เชื่อถือได้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยของข้อมูลของธุรกิจ โดยการจ้างบริษัท IT Outsource ควรพิจารณาจาก

• ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: ตรวจสอบประวัติและประสบการณ์ของบริษัทในอุตสาหกรรม IT Outsource ดูว่าบริษัทเคยทำงานร่วมกับลูกค้าหรือโครงการใดบ้าง และมีความเชี่ยวชาญในด้านที่ธุรกิจของคุณต้องการหรือไม่ 
• รีวิวและคำแนะนำจากลูกค้าเดิม: ค้นหารีวิวจากลูกค้าเก่าหรือพาร์ตเนอร์ที่ผ่านมา เพื่อประเมินว่าบริษัทนั้นมีการบริการที่น่าเชื่อถือ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
• ความโปร่งใสและนโยบายการรักษาความปลอดภัยข้อมูล: เนื่องจากข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในธุรกิจ ควรเลือกบริษัทที่มีนโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เข้มงวด และมีการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ISO 27001 หรือ GDPR เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและการละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
• ความยืดหยุ่นในการบริการ: IT Support Outsource ที่ดีควรมีความยืดหยุ่นในการให้บริการ ที่สามารถปรับเปลี่ยนบริการให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้บริการแบบรายเดือน รายโปรเจ็กต์ หรือการขยายขอบเขตงานตามที่ธุรกิจเติบโตขึ้น
• ความสามารถในการสื่อสารและการตอบสนอง: การสื่อสารที่ดีและความสามารถในการตอบสนองปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้น ควรเลือกบริษัทที่มีช่องทางการติดต่อชัดเจน มีทีมสนับสนุนที่พร้อมตอบคำถาม และช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาทุกครั้ง
• การให้ทดลองใช้บริการ: หลายบริษัท IT Outsource จะมีการให้ทดลองใช้บริการหรือรับงานในขนาดเล็กก่อนที่จะทำสัญญาฉบับใหญ่ ลองขอทดลองบริการจากบริษัท เพื่อประเมินคุณภาพและความเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
• การตกลงเงื่อนไขสัญญาและ SLA (Service Level Agreement): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทมีข้อตกลง SLA ที่ชัดเจน ครอบคลุมถึงความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา การตอบสนองในระยะเวลาที่กำหนด และรายละเอียดการให้บริการที่ชัดเจน หากเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาด จะสามารถขอรับการชดเชย หรือบริการเสริมได้ตามข้อตกลง
• ค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่า: แม้ราคาจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ไม่ควรเลือกบริษัท IT Outsource โดยพิจารณาจากราคาถูกเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาถึงคุณภาพของบริการ ความคุ้มค่าในระยะยาว และการบริการหลังการขาย เพราะการเลือก IT Outsource ที่มีราคาถูกแต่ขาดประสิทธิภาพอาจนำไปสู่ปัญหาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอนาคต

สรุป IT Outsource แหล่งให้บริการด้านไอที

การเลือกบริษัท IT Outsource ที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ ให้ธุรกิจของคุณได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพและลดความเสี่ยงจากการบริหารจัดการ IT ประโยชน์ของ Outsource คือ การให้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาดูแลด้านไอที ทำให้ผู้ประกอบการสามารถมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจหลัก โดยไม่ต้องกังวลกับการดูแลระบบไอทีที่ซับซ้อน 

ทั้งนี้ IT Outsource ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนบุคลากรหรือปัญหาทางเทคนิคที่อาจเกิดขึ้นได้ การตัดสินใจเลือกจ้าง IT Outsource จะช่วยให้ธุรกิจไม่เพียงแต่ลดต้นทุน แต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่น ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้สามารถขยายการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น