เครื่องกรองน้ำ RO ราคาเริ่มต้นในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5,000-8,000 บาท สำหรับรุ่นพื้นฐานที่มีระบบการกรองมาตรฐาน แต่หากต้องการรุ่นที่มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติม เครื่องกรองน้ำ RO อาจมีราคาสูงถึง 15,000-30,000 บาท ทั้งนี้ ราคาจะแตกต่างกันไปตามแบรนด์ คุณภาพ และฟังก์ชันการใช้งาน

ข้อดีของเครื่องกรองน้ำ RO

1. ประสิทธิภาพการกรองสูง

   • กำจัดสารปนเปื้อนได้มากถึง 99%

   • กรองแบคทีเรียและไวรัสได้

   • ลดความกระด้างของน้ำ

   • กำจัดสารเคมีตกค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ความปลอดภัยต่อสุขภาพ

   • น้ำที่ผ่านการกรองสะอาด ปลอดภัย

   • เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ

   • ปลอดภัยสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ

   • ลดความเสี่ยงจากสารพิษในน้ำ

3. ความคุ้มค่าในระยะยาว

   • ประหยัดกว่าการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด

   • ลดการใช้พลาสติก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

   • มีน้ำดื่มคุณภาพสูงตลอด 24 ชั่วโมง

   • สะดวกสบาย ไม่ต้องขนน้ำ

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อเครื่องกรองน้ำ RO ราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ควรคำนึงถึง เพราะยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาประกอบด้วย โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะส่งผลต่อต้นทุนการใช้งานในระยะยาว

ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง

• ค่าติดตั้งเริ่มต้นประมาณ 500-1,500 บาท

• ค่าอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ท่อน้ำ ข้อต่อ ประมาณ 500-2,000 บาท

• หากต้องการดัดแปลงพื้นที่ติดตั้งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1,000-3,000 บาท

ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

เครื่องกรองน้ำ RO อาจมีราคาการเปลี่ยนไส้กรองแต่ละครั้งจะอยู่ที่

• ไส้กรอง Sediment และ Carbon: 300-500 บาท/ชิ้น (เปลี่ยนทุก 6-12 เดือน)

• ไส้กรอง RO Membrane: 1,500-3,000 บาท (เปลี่ยนทุก 2-3 ปี)

• ไส้กรอง Post Carbon: 400-800 บาท (เปลี่ยนทุก 1 ปี)

ค่าไฟฟ้าและน้ำ

• ค่าไฟฟ้าประมาณ 30-50 บาทต่อเดือน

• ค่าน้ำที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50-100 บาทต่อเดือน เนื่องจากระบบ RO มีน้ำทิ้งในกระบวนการกรอง

เครื่องกรองน้ำ RO อาจมีราคาการบำรุงรักษาต่อปีโดยเฉลี่ยอยู่ที่

• ปีแรก: 1,000-2,000 บาท (เฉพาะไส้กรองพื้นฐาน)

• ปีที่ 2-3: 2,500-4,000 บาท (รวมการเปลี่ยน RO Membrane)

ค่าบริการล้างทำความสะอาดระบบ

• ค่าล้างทำความสะอาดระบบประมาณ 500-1,000 บาทต่อครั้ง (แนะนำให้ทำทุก 6-12 เดือน)

• ค่าตรวจเช็คระบบประมาณ 300-500 บาทต่อครั้ง

เครื่องกรองน้ำ RO อาจมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดในระยะเวลา 5 ปีจะอยู่ที่ประมาณ:

• รุ่นพื้นฐาน: 15,000-25,000 บาท

• รุ่นคุณภาพสูง: 30,000-50,000 บาท

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

การเลือกซื้อควรคำนึงถึง

• การรับประกันสินค้าและระยะเวลา

• ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และบริการหลังการขาย

• ความสะดวกในการหาอะไหล่และบริการซ่อม

• คุณภาพน้ำในพื้นที่ที่อาจส่งผลต่อความถี่ในการเปลี่ยนไส้กรอง

การลงทุนในเครื่องกรองน้ำ RO เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสุขภาพ แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณาหลายส่วน แต่เมื่อเทียบกับการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด จะพบว่าคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้พลาสติกจากน้ำบรรจุขวด ซึ่งเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย