เทรนด์การดูแลสุขภาพผิวที่มาแรงในปัจจุบันคือ " การดริปวิตามินผิว " ซึ่งเป็นการนำวิตามินเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำโดยตรง โดยวิธีนี้ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพ และผิวพรรณให้ดีจากภายใน 

หลายคนอาจสงสัยว่า การดริปวิตามินคืออะไร ? มีกี่แบบ ? มีประโยชน์อย่างไร ? ใครบ้างที่ควรทำ ? หาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความ 

สารบัญ ดริปวิตามิน

• ดริปวิตามินคืออะไร ? มีข้อดีอย่างไร ? 

• รู้ก่อนฉีด! ดริปวิตามินมีกี่แบบ ?

• ประโยชน์ของการดริปวิตามิน

• ขั้นตอนการดริปวิตามินทำอย่างไรบ้าง ?

  • สรุปเรื่องการดริปวิตามิน

ดริปวิตามินคืออะไร ? มีข้อดีอย่างไร ?

การดริปวิตามิน หรือที่เรียกว่า Intravenous Vitamin Therapy (IV Therapy) คือ การฉีดวิตามินและสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางหลอดเลือดดำ โดยการดริปวิตามินนี้จะประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพผิว เช่น วิตามินซี กรดอะมิโน และวิตามินบีรวม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายและบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ดูสุขภาพดี

โดยข้อดีของการดริปวิตามินจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับการรับวิตามินแบบอื่น เพราะไม่ต้องผ่านการกระบวนการย่อยอาหารและการดูดซึม ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที

ทั้งนี้ การดริปวิตามินมีหลายสูตร ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้รับบริการว่าต้องการแก้ปัญหาด้านใด เช่น บำรุงผิวพรรณ ปรับสภาพผิวกระจ่างใส หรือฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินสูตรวิตามินที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล

รู้ก่อนฉีด! ดริปวิตามินมีกี่แบบ ? 

การดริปวิตามินหรือฉีดวิตามินเข้าสู่ร่างกายมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะและกระบวนการที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกันมาก ได้แก่

• IV Drip หรือ IV Infusion

ดริปวิตามินวิธีนี้เป็นการให้วิตามินและสารอาหารผ่านทางสายน้ำเกลือ โดยจะผสมวิตามินและสารน้ำต่าง ๆ เข้ากับน้ำเกลือ แล้วค่อย ๆ ปล่อยเข้าสู่ร่างกายอย่างช้า ๆ ในอัตราคงที่ การดริปวิตามินแบบนี้จะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ร่างกายค่อย ๆ ดูดซึมวิตามินช้าอย่างต่อเนื่องและมีความสม่ำเสมอ

• IV Bolus หรือ IV Push

ดริปวิตามินวิธีนี้เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่หลอดเลือดดำโดยตรง ซึ่งไม่ต้องผสมน้ำเกลือ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งข้อดีคือวิตามินจะถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและออกฤทธิ์ได้เร็ว แต่การทำ IV Bolus อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดเล็ก เพราะอาจเกิดอาการบวมช้ำหรือรู้สึกแสบบริเวณที่ฉีดได้ ไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย

ประโยชน์ของการดริปวิตามิน

การดริปวิตามิน มีหลายสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน หรือใช้ในด้านความงามที่เน้นการบำรุงผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว

ประโยชน์ของการดริปวิตามิน มีดังนี้

• ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูเต่งตึง และมีสุขภาพดีขึ้น

• ช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความกระจ่างใส ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำ

• ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น

• ช่วยเสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ คงความอ่อนเยาว์ไว้ให้ผิว

• ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นไม่ป่วยง่าย

• ช่วยลดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย ฟื้นฟูให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น มีความกระปรี้กระเปร่า

ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการดริปวิตามินขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และผิวเดิมของแต่ละบุคคล รวมถึงการบำรุง ผิว และพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยค่ะ 

ขั้นตอนการดริปวิตามินทำอย่างไรบ้าง ?

การดริปวิตามินเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการฟื้นฟูสุขภาพและผิวพรรณ ซึ่งกระบวนการที่มีขั้นตอนที่เรียบง่าย และมีความปลอดภัย หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยการดริปวิตามินมีขั้นตอนดังนี้

• ตรวจสุขภาพร่างกายกับแพทย์ : ก่อนเริ่มทำการดริปวิตามิน แพทย์จะทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น เช่น ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร วัดน้ำหนักและส่วนสูง รวมถึงสอบถามประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว 

• ประเมินและเลือกสูตรวิตามินให้เหมาะสม : หลังจากตรวจร่างกายเสร็จ แพทย์จะประเมินสภาพผิวและสอบถามถึงความต้องการ เพื่อให้สามารถเลือกและปรับสูตรดริปวิตามินที่เหมาะสมสมและตอบโจทย์มากที่สุด

• การดริปวิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำ : แพทย์จะทำการฉีดวิตามิน หรือให้วิตามินผ่านถุงน้ำเกลือ ตรงเส้นเลือดดำบริเวณข้อมือหรือข้อพับแขน ใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าวิตามินจะหมดหลอด ซึ่งทำให้วิตามินถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สรุปเรื่องการดริปวิตามิน

การดริปวิตามินเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ฟื้นฟูร่างกาย และบำรุงผิวพรรณให้สดใส โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการฟื้นฟูสุขภาพและผิวอย่างเร่งด่วน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำหัตถการนี้ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาที่มีส่วนผสมไม่เป็นอันตราย และฉีดโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยค่ะ