ในปัจจุบัน ประตูหน้าต่างแบบบานเลื่อน เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับการออกแบบบ้านและอาคาร เนื่องจากประตูและหน้าต่างบานเลื่อนมีคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดพื้นที่ การใช้งานที่สะดวกสบาย รวมถึงมีดีไซน์ที่ทันสมัยและเหมาะสมกับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ประตูหน้าต่างบานเลื่อนนั้นมีหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและสไตล์การตกแต่งที่แตกต่างกัน
ประตูหรือหน้าต่างที่มีเพียงบานเดียวที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นบานที่ไม่เลื่อน (เรียกว่าบานค้าง) ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่และเหมาะสมกับพื้นที่ที่ไม่กว้างมาก ประตูหน้าต่างประเภทนี้มักใช้ในห้องที่ไม่ต้องการการเปิด-ปิดที่กว้าง เช่น ห้องนอน หรือห้องน้ำ
แบบคู่มีสองบานที่สามารถเลื่อนไปทางซ้ายและขวา ซึ่งทำให้การเปิด-ปิดประตูหรือหน้าต่างมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ประตูบานเลื่อนแบบคู่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการการเปิดกว้างมากขึ้น เช่น ห้องนั่งเล่นที่ต้องการเชื่อมต่อกับระเบียงหรือสวน หรือห้องที่ต้องการการระบายอากาศที่ดี
ประตูหน้าต่างแบบบานเลื่อนผสม หรือที่รู้จักกันในชื่อ Lift-and-Slide เป็นระบบที่มีบานประตูหรือหน้าต่างที่สามารถยกขึ้นจากรางเลื่อน ก่อนที่จะเลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการ ข้อดีของระบบนี้คือช่วยให้การเปิด-ปิดประตูหรือลูกเล่นของหน้าต่างสะดวกขึ้น เพราะบานไม่ติดกับรางเมื่อเปิดใช้งาน เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการให้ประตูหรือหน้าต่างมีการเคลื่อนที่แบบราบรื่นและสะดวก
แบบบานซ้อน (Stacking Sliding) เป็นระบบที่เมื่อเปิดบานประตูหรือหน้าต่างแต่ละบานจะซ้อนกันไปข้างหนึ่ง หรือจะเลื่อนซ้ายขวาไปตามแนวราง เมื่อเปิดเต็มที่ประตูหรือหน้าต่างจะไม่เกะกะ ใช้พื้นที่ในการเปิดน้อย และสามารถเปิดกว้างได้มาก เหมาะสำหรับการใช้ในบ้านที่ต้องการให้พื้นที่ภายในและภายนอกเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น เช่น บ้านที่มีสวนใหญ่หรือบ้านสไตล์โมเดิร์น
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย