รวมข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์หน้าผากที่คนหน้าผากแบน บุ๋มต้องรู้ก่อนฉีดว่าหัตถการนี้เหมาะกับใคร อยู่ได้นานแค่ไหน และควรฉีดกี่ cc ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ
หัตถการความงามที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแคบแบนในปัจจุบันก็มีหลายวิธีทั้งวิธีการฉีดและการผ่าตัด แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่อยากแก้ด้วยการเสริมซิลิโคนเข้าไป จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากได้รับความนิยมอยู่ ณ ขณะนี้ เพราะการฉีด filler หน้าผากเป็นการใช้สารเติมเต็มเพื่อเพิ่มความโหนกนูน แก้ไขได้ทั้งหน้าผากแคบแบน หรือหน้าผากบุ๋มให้ดูเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังตั้งคำถามว่าฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีมั้ย ? เหมาะกับใคร ? ควรฉีดกี่ cc ? หรือฟิลเลอร์หน้าผากฉีดแล้วอันตรายหรือเปล่า บทความนี้พร้อมตอบทุกคำถามคาใจ
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก (Forehead Filler) คือการใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิก แอซิด) หรือที่หลายคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า “HA Filler” ฉีดเข้าไปที่หน้าผาก หรือเติมเต็มส่วนที่หายไปบริเวณที่มีรอยบุ๋ม รอยยุบให้กลับมาดูเรียบเนียน นูนสวยและได้สัดส่วนที่เข้ากับใบหน้า เสริมให้ใบหน้าดูมีมิติไม่แบนราบ ซึ่งการเติมฟิลเลอร์หน้าผากนี้เมื่อเวลาผ่านไปตัวสารจะค่อย ๆ สลายไปเองตามกลไกธรรมชาติ ไม่เหลือสารตกค้างในร่างกาย
ฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่ช่วยคลายข้อกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ได้
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น และมีปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับหน้าผาก ดังนี้
แม้ว่าทั้งสามหัตถการนี้จะช่วยให้หน้าผากได้รูปทรงที่ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่วิธีการรักษาและการให้ผลลัพธ์กลับแตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะกับกลุ่มคนที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากการเพิ่มความโหนกนูนให้กับหน้าผากเพื่อให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับใบหน้าแล้ว filler หน้าผากก็ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกดังนี้
หน้าผากเป็นจุดสำคัญที่เราต้องมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ดังนั้นการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการไม่มีปัญหาตามมา
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เราเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปมีประสิทธิภาพและอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีดังนี้
ปริมาณในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากขึ้นอยู่กับปัญหาที่ผู้เข้ารับบริการต้องการที่จะแก้ไข เช่น บางคนไม่ได้มีปัญหาอะไรมากเพียงแค่ต้องการเติมเต็มส่วนที่ยุบตัวลงให้หน้าผากกลับมาเรียบเนียนแพทย์จะประเมินฉีดหน้าผากอยู่ที่ 1 cc หรือ 2 cc แต่ในเคสที่ต้องการเพิ่มความนูนให้กับหน้าผากแพทย์ก็จะประเมิน 3 cc ขึ้นไปตามปริมาณที่เหมาะสม
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์ของแต่ละคนจะมีการคงสภาพในระยะเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและชนิดที่เลือกใช้ ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมันจะอยู่ได้ราว ๆ 12-24 เดือนจากนั้นก็จะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีและน่าสนใจอยู่ในขณะนี้ เพราะคุณสมบัติของสารเติมเต็มจะเข้าไปช่วยทดแทนในส่วนที่หายไปให้ผิวกลับมาเรียบเนียน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความโหนกนูนให้หน้าผากดูโค้งสวยรับกับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลังจากฉีดเติมหน้าผากเราจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ตั้งแต่ครั้งแรก
และสำหรับใครที่มีความกังวลอยู่ว่าฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายมั้ย แนะนำให้ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีแพทย์ประสบการณ์มีทักษะในการรักษา พร้อมทั้งฉีดกับผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงการดูแลตัวเองที่ดีหลังใช้บริการ หากเราปฏิบัติตนตามคำแนะนำทุกข้อตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกคลินิกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายอย่างครบถ้วน เพียงเท่านี้ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยหายห่วงอย่างแน่นอน
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย