หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เราสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นการติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าเอาไว้ใช้เอง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก่อนจะตัดสินใจติดตั้ง เราต้องทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์และเลือกประเภทของการติดตั้งที่เหมาะสมกับความต้องการของเราเสียก่อน เพื่อให้คุ้มค่ากับการติดตั้งและใช้งานได้อย่างยาวนาน 

ขั้นตอนการขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์

สำหรับการขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ใช้ภายในบ้านนั้น มีขั้นตอนที่ควรรู้ดังนี้  

1. ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ประเภทต่างๆ ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน และบริษัทผู้ให้บริการติดตั้งที่น่าเชื่อถือ

2. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ติดต่อบริษัทผู้ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับขนาดของระบบที่เหมาะสมกับการใช้งาน และเอกสารที่ต้องใช้ในการขออนุญาต

3. เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน ใบอนุญาตก่อสร้าง (ถ้ามี) และเอกสารอื่นๆ ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด

4. ยื่นขออนุญาต: ยื่นเอกสารขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์ต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

5. รอการพิจารณา: รอการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 7-10 วันทำการ

6. ติดตั้งระบบ: หากได้รับอนุญาตแล้ว สามารถดำเนินการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ได้เลย 

หมายเหตุ: ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการขออนุญาตอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละหน่วยงานและพื้นที่ติดตั้ง

ประเภทของการติดตั้งโซล่าเซลล์และราคา

หากขั้นตอนการขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์สำเร็จเรียบร้อย ในขั้นตอนต่อไปคือการเลือกรูปแบบการติดตั้งโซล่าเซลล์ ซึ่งในปัจจุบันรูปแบบการติดตั้งมีดังนี้ 

• โซล่าเซลล์ติดตั้งบนหลังคา: เป็นประเภทที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดทั้งวัน ราคาของระบบโซล่าเซลล์ติดตั้งบนหลังคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของระบบและประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์ โดยทั่วไปราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 50,000 บาทขึ้นไป

• โซล่าเซลล์ติดตั้งบนพื้นดิน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน หรือฟาร์ม ราคาของระบบโซล่าเซลล์ติดตั้งบนพื้นดินจะสูงกว่าระบบติดตั้งบนหลังคา เนื่องจากต้องมีโครงสร้างรองรับที่แข็งแรง

• โซล่าเซลล์แบบพกพา: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง หรือต้องการพลังงานสำรอง ราคาของระบบโซล่าเซลล์แบบพกพาจะขึ้นอยู่กับขนาดและความจุของแบตเตอรี่

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา:

• ขนาดของระบบ: ขนาดของระบบยิ่งใหญ่ ราคายิ่งสูง

• ประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์: แผงโซล่าเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะมีราคาสูงกว่า

• ประเภทของอินเวอร์เตอร์: อินเวอร์เตอร์ที่มีคุณภาพสูงและมีประสิทธิภาพสูงจะมีราคาสูงกว่า

• ค่าแรงติดตั้ง: ค่าแรงติดตั้งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงานและบริษัทผู้ให้บริการ

การเลือกติดตั้งโซล่าเซลล์ที่เหมาะสม

• ขนาดของบ้าน: พิจารณาขนาดของบ้านและปริมาณการใช้ไฟฟ้า

• พื้นที่ว่าง: พิจารณาพื้นที่ว่างบนหลังคาหรือบริเวณรอบบ้าน

• งบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่ต้องการใช้

• ความต้องการใช้ไฟฟ้า: พิจารณาว่าต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาใดบ้าง

• นโยบายส่งเสริมของรัฐ: ตรวจสอบนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ของรัฐบาล

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• เลือกบริษัทผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ: เลือกบริษัทที่มีประสบการณ์และมีการรับประกันสินค้า

• เปรียบเทียบราคา: เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ บริษัท เพื่อเลือกราคาที่เหมาะสม

• ตรวจสอบสัญญา: อ่านสัญญาอย่างละเอียดก่อนทำการติดตั้ง

ข้อควรระวัง:

• การติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

• เลือกบริษัทผู้ให้บริการที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ

• ตรวจสอบคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการติดตั้ง

การติดตั้งโซล่าเซลล์เป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า แต่ก่อนตัดสินใจติดตั้ง ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ระบบโซล่าเซลล์ที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณ