รีไฟแนนซ์รถคืออะไร ดียังไง และใครบ้างที่เหมาะจะรีไฟแนนซ์รถ?

สำหรับใครที่กำลังหวั่นใจกับอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่ผ่อนรถมาแล้วเกือบ 3 ปี การรีไฟแนนซ์รถ เป็นตัวช่วยปรับแผนการเงินของผู้กู้ โดยช่วยให้ผู้กู้เปลี่ยนสินเชื่อเดิมเป็นสินเชื่อใหม่ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงหรือระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้นเพื่อแลกมากับยอดชำระต่อเดือนที่ถูกลง ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนลง นอกจากนี้หากมูลค่าของรถมีมูลค่าสูงกว่าหนี้คงค้าง ผู้กู้จะได้เงินส่วนต่างจากการรีไฟแนนซ์ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในเรื่องอื่น ๆ ได้ แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ควรศึกษาข้อดี ข้อเสียของแต่ละเงื่อนไขให้เข้าใจก่อน แล้วก็มาดูกันครับว่าการรีไฟแนนซ์รถแต่ละประเภทต่างกันยังไง พร้อมเทคนิคยื่นรีไฟแนนซ์ให้ผ่านได้ง่ายกันครับ

รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร

รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การกู้เงินก้อนใหม่มาปิดหนี้ก้อนเดิมแล้วผ่อนกับสถาบันการเงินที่ใหม่ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิมหรือเงื่อนไขที่เหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินของผู้กู้ในตอนนั้นนั่นเองครับ โดยเป็นการยืดระยะเวลาในการผ่อนให้นานขึ้นเพื่อให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถคืออะไร

ส่วนข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถมีอยู่หลายข้อด้วยกัน โดยจะมีข้อดีหลัก ๆ 4 ข้อด้วยกันครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวช่วยลดดอกเบี้ย ลดค่างวดต่อเดือนโดยขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ การได้เงินส่วนต่างจากการรีไฟแนนซ์ช่วยให้ผู้กู้ได้เงินสดไปหมุนเวียนใช้จ่าย และการปรับแผนการชำระเงิน โดยเลือกเงื่อนไขการชำระเงินใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพคล่องทางการเงินของผู้กู้ แถมยังสามารถมีรถขับได้ตามปกติอีกด้วยครับ

รถยังผ่อนไม่หมด รีไฟแนนซ์ได้ไหม

ในขณะที่ผู้กู้กำลังผ่อนรถอยู่ ผู้กู้สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดกับสถาบันการเงินที่ใหม่ได้ เพราะหากยื่นกู้ด้วยรถที่ผ่อนหมดไปแล้วจะถือเป็นสินเชื่อรถแลกเงินแทน โดยส่วนมากผู้กู้จะสามารถยื่นรีไฟแนนซ์ได้ต้องผ่อนรถมาแล้วเกินครึ่งหนึ่งของสัญญาถึงจะสามารถยื่นรีไฟแนนซ์ได้ ซึ่งครึ่งหนึ่งของสัญญาหมายความว่า ถ้าเราทำสัญญาผ่อนรถ 5 ปี ผู้กู้จะต้องผ่อนรถมาไม่น้อยกว่า 2 ปี 6 เดือน จึงจะสามารถขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถได้

รีไฟแนนซ์รถมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร

รีไฟแนนซ์รถ มี 2 รูปแบบหลัก ๆ ด้วย คือ แบบโอนทะเบียนและแบบไม่โอนทะเบียน เพื่อช่วยให้ผู้กู้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มาดูความแตกต่างของการรีไฟแนนซ์ทั้งสองแบบกันก่อนเลยครับ 

• สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถแบบโอนทะเบียน

คือการที่สถาบันการเงินแห่งใหม่ทำการโอนเล่มทะเบียนรถจากสถาบันการเงินเดิมมาเป็นของสถาบันการเงินใหม่ที่ผู้กู้ยื่นรีไฟแนนซ์ด้วย โดยสถาบันการเงินใหม่จะเก็บเล่มทะเบียนไว้เป็นหลักประกัน 

• สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถแบบไม่โอนทะเบียน

คือการที่สถาบันการเงินใหม่ปล่อยสินเชื่อโดยไม่ทำการโอนเล่มทะเบียนมาเก็บไว้ ซึ่งผู้กู้ยังต้องผ่อนชำระค่างวดกับสถาบันการเงินเดิม แต่จะได้วงเงินสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินใหม่ด้วย พอไม่มีการโอนเล่มขั้นตอนการดำเนินการก็ง่ายกว่า แต่ต้องแลกมากับดอกเบี้ยที่สูงกว่า

แนะนำเทคนิคยื่นรีไฟแนนซ์ยังไงให้ผ่านง่าย

เพื่อให้การยื่นรีไฟแนนซ์ให้ผ่านได้ง่ายขึ้น ผู้กู้ควรเตรียมพร้อมทั้งทำความเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ และจัดการเตรียมเอกสารให้พร้อม เพียงทำตามเทคนิคด้านล่างนี้ก็ช่วยให้โอกาสในการยื่นสินเชื่อผ่านฉลุย

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม

การเตรียมเอกสารให้ครบช่วยให้การประหยัดเวลาทั้งกับผู้กู้และทางสถาบันการเงินเองก็ไม่ต้องเสียเวลาเรียกให้ผู้กู้นำส่งเอกสารหลายรอบ

2. มีเงินเก็บรายเดือนเสมอ

การมีเงินเก็บในแต่ละเดือนเป็นส่วนหนึ่งที่ทางสถาบันการเงินมองว่าผู้กู้มีความสามารถในการเก็บออมและมีการวางแผนการใช้จ่ายที่ดี บ่งบอกถึงความสามารถในการจัดการชำระหนี้ในอนาคตได้นั่นเองครับ

3. ขอวงเงินเท่าที่จำเป็นต้องใช้

การขอวงเงินที่สูงเกินความจำเป็นทั้งจะส่งผลเสียกับสภาพคล่องทางการเงินของผู้กู้แล้ว ยังส่งผลให้โอกาสในการอนุมัติยากขึ้นตามความสูงของยอดวงเงินที่ขออีกด้วยครับ

4. เปรียบเทียบสถาบันการเงินหลาย ๆ ที่

หากสถาบันการเงินไหนติดต่อมาก่อนก็เท่ากับสิทธิ์ที่จะได้รับการอนุมัติทันที ดีกว่าติดต่อและรออนุมัติเพียงเจ้าเดียว

เทคนิคข้างต้นนี้เป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้กู้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ไวขึ้น

เลือกรีไฟแนนซ์รถที่ไหนดี ให้เหมาะกับตัวเอง

มาถึงการเลือกรีไฟแนนซ์รถที่เหมาะกับผู้กู้มี 5 ข้อที่ควรเตรียมตัวด้วยกันดังนี้ครับ

1. พิจารณาอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนชำระ

การรวมข้อมูล อัตราดอกเบี้ย และ ระยะเวลาการผ่อนชำระ ในการรีไฟแนนซ์รถจะช่วยให้คุณสามารถประเมินข้อเสนอได้ดีขึ้น อย่างถ้าคุณต้องการลดค่างวดรายเดือน เลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวขึ้น เพื่อให้ค่างวดต่อเดือนลดลง แม้ว่าดอกเบี้ยจะสะสมมากขึ้น ในทางกลับกันถ้าคุณต้องการปิดหนี้เร็ว ควรเลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่สั้นกว่าและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เพื่อช่วยประหยัดเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยในระยะยาว

2. เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย

บางสถาบันการเงินอาจมีค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าประเมินราคารถ ค่าธรรมเนียมการโอนเล่มทะเบียน ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ หรือค่าปรับสำหรับการปิดหนี้ก่อนกำหนด ควรนำมาพิจารณาด้วย 

3. ตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม

แต่ละสถาบันการเงินก็จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่แตกต่างกันไปอย่างเช่น บางสถาบันอาจให้คุณกู้เพิ่มเป็นเงินสดส่วนต่างจากมูลค่ารถ ซึ่งเป็นประโยชน์ถ้าคุณต้องการเงินสดมาใช้จ่ายเพิ่มเติม

4. พิจารณาสถานการณ์ทางการเงิน

อีกสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจคือการรู้ว่าเป้าหมายในการรีไฟแนนซ์และสถานการณ์ทางการเงินตอนนี้เป็นอย่างไร เช่น หากผู้กู้มีเครดิตดีควรเลือกสถาบันที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ หรือถ้าต้องการลดค่างวดรายเดือน ควรหาสถาบันที่ให้ระยะเวลาผ่อนยาว

5. เปรียบเทียบข้อเสนอ

แน่นอนว่าก่อนตัดสินใจยื่นรีไฟแนนซ์ ผู้กู้ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ สถาบันการเงิน เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มเปรียบเทียบโปรโมชันรีไฟแนนซ์ที่ตรงตามความต้องการทางการเงิน

รีไฟแนนซ์รถ ตัวช่วยผ่อนรถต่อเดือนให้น้อยลง

รีไฟแนนซ์รถ เป็นวิธีที่ช่วยลดภาระค่างวดรถรายเดือนให้เบาลง โดยการขอกู้เงินใหม่เพื่อชำระหนี้สินเชื่อรถเดิม ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือปรับเงื่อนไขใหม่ที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำลง หรือ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ ทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการค่าใช้จ่าย

การรีไฟแนนซ์เหมาะกับผู้ที่ยังผ่อนรถไม่หมด แต่ต้องการลดค่างวดรายเดือนหรือต้องการเงินสดส่วนต่าง หากคุณมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีและไม่มีปัญหาด้านเครดิตบูโร โอกาสที่การรีไฟแนนซ์จะผ่านก็จะสูงขึ้น และสามารถช่วยให้การยื่นรีไฟแนนซ์ผ่านได้ง่ายขึ้นอีกด้วยครับ