วิธีปลูกกัญชาอย่างถูกกฎหมาย ที่มือใหม่ควรรู้

การปลูกกัญชาเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ และความเอาใจใส่ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงอย่างยั่งยืนและปลอดภัย โดยจะมีการปลูกทั้ง Indoor และ Outdoor

สำหรับใครที่สนใจอยากทดลองปลูกกัญชา กฎหมายการปลูกกัญชาในประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลได้อนุญาตให้ปลูกกัญชาเพื่อการใช้ทางการแพทย์และการวิจัยได้อย่างถูกกฎหมาย การปลูกกัญชาสามารถทำได้โดยต้องขออนุญาตและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการลงทะเบียนและการรายงานผลการปลูกกัญชาต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดและการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิดและเพื่อความปลอดภัยของสังคมโดยรวม

ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับการปลูกกัญชาว่ามีวิธีในการปลูกอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งอธิบายประโยชน์ของการปลูกกัญชา ข้อดีข้อเสียของการปลูกกัญชาทั้งในที่ร่มและที่แจ้ง รวมไปถึงแนะนำสายพันธุ์กัญชาที่นิยมปลูกทั้งในและต่างประเทศ

วิธีการปลูกกัญชาแบบพื้นฐาน ควรเตรียมอะไรบ้าง

การปลูกกัญชาขั้นพื้นฐานเริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ที่เหมาะสม สำหรับการปลูกกัญชาแบบ Indoor จะต้องจัดเตรียมห้องหรือพื้นที่ที่สามารถควบคุมแสง อุณหภูมิ และความชื้นได้ โดยอุปกรณ์ที่จำเป็นประกอบด้วยโคมไฟสำหรับปลูกพืช ระบบระบายอากาศ กระถางหรือภาชนะปลูก ดินหรือวัสดุปลูกคุณภาพดี และระบบให้น้ำ สำหรับการปลูกกัญชาแบบ Outdoor ต้องเลือกพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ มีการระบายน้ำที่ดี และมีการป้องกันจากสภาพอากาศรุนแรงหรือสัตว์รบกวน

ขั้นตอนการปลูกกัญชาตั้งแต่การเพาะเมล็ดจนถึงการเก็บเกี่ยวจะมีดังนี้

• เริ่มต้นด้วยการเพาะเมล็ดในวัสดุเพาะที่ชุ่มชื้น เก็บไว้ในที่อุ่นและมืดจนกว่าจะงอก
• เมื่อต้นกล้างอก ย้ายลงปลูกในกระถางหรือแปลงที่เตรียมไว้ โดยใช้ดินผสมที่มีการระบายน้ำดี
• จัดการแสงให้เหมาะสม โดยค่า PPFD สำหรับปลูกกัญชาจะอยู่ที่ 200-400 μmol ในการเพาะเมล็ด
• รดน้ำและให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ระวังอย่าให้น้ำมากเกินไป
• ตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ต้นแข็งแรงและมีรูปทรงที่ดี
• เมื่อต้นโตเต็มที่ ให้แสงให้เหมาะสมโดยค่า PPFD สำหรับปลูกกัญชาจะอยู่ที่ 400-700 μmol เพื่อกระตุ้นการออกดอก
• ตรวจสอบเพศของต้นและกำจัดต้นเพศผู้ออกเพื่อป้องกันการผสมเกสร
• ดูแลช่อดอกอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอ
• เก็บเกี่ยวเมื่อช่อดอกสุกเต็มที่ โดยสังเกตจากสีของเกสรตัวเมียที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
• ตัดช่อดอก ทำความสะอาด และนำไปตากหรืออบแห้งในที่มืดและเย็น
• เก็บผลผลิตที่แห้งสนิทแล้วในภาชนะปิดสนิทในที่เย็นและมืด

ประโยชน์ของการปลูกกัญชา

การปลูกกัญชามีประโยชน์มากมายในหลาย ๆ ด้าน อย่างในด้านทางการแพทย์ สารสกัดจากกัญชาจะถูกนำมาใช้ในการบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง ลดอาการคลื่นไส้และอาเจียนในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด ช่วยควบคุมอาการชักในโรคลมชัก และบรรเทาอาการกล้ามเนื้อเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาวิจัยการใช้กัญชาในการรักษาโรคพาร์กินสัน อัลไซเมอร์ และโรคทางจิตเวชบางชนิดอีกด้วย 

ในด้านอุตสาหกรรม เส้นใยกัญชงจากต้นกัญชาสามารถนำมาใช้ผลิตเสื้อผ้า กระดาษ และวัสดุก่อสร้าง เมล็ดกัญชาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอาง ส่วนน้ำมันจากเมล็ดกัญชาใช้ในการผลิตสีและน้ำมันหล่อลื่น การใช้ประโยชน์จากการปลูกกัญชาในด้านต่าง ๆ นี้ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและเปิดโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้น

การปลูกกัญชาในร่มและกลางแจ้ง มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

หลังจากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่าการปลูกกัญชาสามารถทำได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งในแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกวิธีปลูกจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างทั้ง สภาพภูมิอากาศ งบประมาณ พื้นที่ที่มี และเป้าหมายในการปลูก เราลองมาดูรายละเอียดการปลูกกัญชาของแต่ละวิธีกัน

ปลูกกัญชากลางแจ้ง (Outdoor)

การปลูกกัญชาแบบ Outdoor เป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด โดยอาศัยแสงแดดและสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติในการเจริญเติบโต

ข้อดี:

• ต้นทุนต่ำกว่าการปลูกกัญชาแบบ Indoor
• ได้ผลผลิตมากกว่าเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่เท่ากัน
• ประหยัดพลังงานเพราะใช้แสงแดดธรรมชาติ
• ต้นกัญชามีโอกาสเติบโตเต็มที่ตามธรรมชาติ

ข้อเสีย:

• ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ยาก เช่น อุณหภูมิ หรือความชื้น
• มีความเสี่ยงจากศัตรูพืชและโรคพืชสูงกว่า
• อาจมีปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
• ผลผลิตขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและฤดูกาล

ปลูกกัญชาในร่ม (Indoor)

การปลูกกัญชาแบบ Indoor จะให้อิสระในการควบคุมสภาพแวดล้อมทั้งหมด ทำให้สามารถปลูกได้ตลอดปีโดยไม่ขึ้นกับสภาพอากาศภายนอก

ข้อดี:

• ควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ
• ปลูกได้ตลอดปี ไม่จำกัดฤดูกาล
• ลดความเสี่ยงจากศัตรูพืชและโรคพืช
• มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยสูง

ข้อเสีย:

• ต้นทุนสูงกว่าการปลูกกัญชาแบบ Outdoor เนื่องจากต้องลงทุนอุปกรณ์
• ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก โดยเฉพาะระบบแสงและระบายอากาศ
• จำกัดขนาดของต้นและผลผลิตต่อต้น
• ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ

การเลือกวิธีปลูกกัญชาอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนตัว หากมีพื้นที่กลางแจ้งที่เหมาะสมและอยู่ในภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย การปลูกกัญชาแบบ Outdoor อาจเป็นตัวเลือกที่ประหยัดและให้ผลผลิตสูง แต่หากต้องการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดหรือมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ การปลูกกัญชาแบบ Indoor อาจเหมาะสมกว่า ทั้งนี้ผู้ปลูกควรพิจารณาข้อดีข้อเสียให้รอบคอบและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเองมากที่สุด โดยก่อนปลูกกัญชาควรลงทะเบียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย

ประเภทของกัญชาที่นิยมปลูกมีอะไรบ้าง

ประเภทของกัญชานั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งสายพันธุ์ไทยและต่างประเทศ โดยสายพันธุ์ที่นิยมนำมาปลูกกัญชาจะมีดังนี้

สายพันธุ์ไทย:

• Thai Stick: ให้ผลกระตุ้นสูง 
• Squirrel Tail: มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
• Mekong High: ให้ผลกระตุ้นและความคิดสร้างสรรค์

สายพันธุ์ต่างประเทศ:

• OG Kush: กลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยลดความเครียดและปวด
• Blue Dream: ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและกระปรี้กระเปร่า
• Girl Scout Cookies: รสชาติหวาน ช่วยบรรเทาอาการปวด

โดยคุณสมบัติของการปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่าง ๆ จะมีดังนี้

• Sativa
  • ให้พลังงานและความกระปรี้กระเปร่า
  • กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
  • เหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางวัน
• Indica
  • ให้ความรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
  • ช่วยบรรเทาอาการปวด
  • เหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืน
• Hybrid
  • ผสมผสานคุณสมบัติของ Sativa และ Indica
  • มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับสัดส่วนการผสม

การเลือกสายพันธุ์กัญชาที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการปลูกกัญชาและการนำมาใช้ประโยชน์ ควรเริ่มจากการพิจารณาวัตถุประสงค์หลักในการปลูกกัญชา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการรักษาโรค การผ่อนคลาย หรือการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ จากนั้นควรศึกษาระดับของสาร THC และ CBD ในแต่ละสายพันธุ์ให้ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการปลูกกัญชาก็มีความสำคัญ โดยควรเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ที่มี รวมถึงพิจารณาความทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ระยะเวลาในการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิต

สรุปเกี่ยวกับการปลูกกัญชา

การปลูกกัญชาต้องอาศัยทั้งความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกกัญชาแบบ Indoor, Outdoor หรือแบบ Greenhouse ซึ่งเป็นวิธีที่ผสมผสานข้อดีของทั้งสองแบบการปลูกกัญชาแบบ Greenhouse จะช่วยให้ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าการปลูกกลางแจ้ง แต่ประหยัดพลังงานกว่าการปลูกในร่ม อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มปลูก สิ่งสำคัญที่สุดคือการขอใบอนุญาตปลูกกัญชาให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต 

เทคนิคสำคัญในการปลูกกัญชาให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม การควบคุมแสง อุณหภูมิ และความชื้นอย่างเหมาะสม การให้ปุ๋ยและน้ำอย่างพอดี และการป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่องและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ปลูกคนอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มทักษะการปลูกกัญชาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น