ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ช่วยป้องกัน และลดการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคที่มักจะไม่ส่งสัญญาณใด ๆ บ่งบอกถึงการติดเชื้อ มารู้ตัวอีกทีก็มีอาการกำเริ่มขึ้นมา ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำ  ถ้าหากมีการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ทุกปี จะทำให้รู้สึกสาเหตุของการเกิดโรค รวมถึงแนวทางป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่แพร่เชื้อติดต่อให้กับผู้อื่น 

ทำความเข้าใจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) 

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า STD Test คือ ตรวจหาเชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรีย และ ไวรัส เป็นต้นเหตุก่อให้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งในปัจจุบันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอยู่หลายโรค เช่น โรคเอดส์ โรคหนองใน โรคซิฟิลิส และโรคภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นโรคติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่ง มาจากการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก และปาก เป็นต้น 

ตรวจ STD จะช่วยให้ผู้เข้าตรวจรับรู้ถึงการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาอย่างถูกวิธีเพื่อเพิ่มโอกาสให้หายขาดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ลดภาวะแทรกซ้อน และป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

อาการแบบไหน ที่ควรรับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเกิดขึ้น หรือมีพฤติกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการที่ควรตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่

ความผิดปกติของอวัยวะเพศ 

• มีแผล ตุ่มนูนใส หรือผื่นขึ้นที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก และปาก

• แสบ คัน ตรงบริเวณอวัยวะเพศ

• มีหนองไหลออกจากอวัยวะเพศ

• ปัสสาวะรู้สึก แสบ เจ็บ หรือติดขัด

• เจ็บ หรือมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์

• มีกลิ่นเหม็นที่อวัยวะเพศ

• ประจำเดือนมาผิดปกติ

• ตกขาวผิดปกติ มีสีเหลือง หรือมีหนอง

• มีไข้ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

• ต่อมน้ำเหลืองโต

พฤติกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงควรตรวจ STD ผู้ชายและผู้หญิง ได้แก่

• มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย

• เปลี่ยนคู่นอนบ่อย

• มีคู่นอนที่มีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่น

• ผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์

สำหรับผู้ที่มีความสนใจอยากตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือผู้ที่มีอาการข้างต้น สามารถตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้ที่โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเฉพาะทางด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และศูนย์บริการสาธารณสุข 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอะไรบ้าง?

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือโรคที่เกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และปรสิต มาจากการมีเพศสัมพันธ์ผ่านช่องทางปาก ช่องคลอด หรือทางทวารหนัก หากตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีอะไรบ้าง ทางเราได้ยกตัวอย่างของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนี้ 

• โรคหนองในแท้  ถือเป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae อาการของผู้ป่วยในผู้ชาย และผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน เช่น ผู้ชายมักจะมีอาการ เช่น มีหนองไหลออกจากปลายอวัยวะเพศ อัณฑะบวม ปัสสาวะแสบติดขัด และทวารหนักอักเสบ ในส่วนของผู้หญิงมักจะมีอาการ เช่น ตกขาวผิดปกติ เลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน และปวดท้องน้อย

• โรคหนองในเทียม เกิดจากการติดเชื้อคลามัยเดีย (Chlamydia trachomatis) อาการของโรคหนองในเทียม มักจะไม่แสดงอาการออกมา จำเป็นต้องตรวจ STD ผู้หญิง ผู้ชาย และผู้ที่มีความสุ่มเสี่ยง ถึงจะรู้ว่าเป็นโรคหนองในเทียม แต่อาการสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการจะเหมือนกับโรคหนองใน

• โรคเริมอวัยวะเพศ เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus หรือ HSV อาการของโรคเริมในผู้ป่วย เช่น คันหรือแสบร้อนที่อวัยวะเพศ เกิดตุ่มใสเป็นกลุ่ม ตุ่มอาจแตกและกลายเป็นแผล มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และต่อมน้ำเหลืองโต

• โรคซิฟิลิส เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum อาการของโรคซิฟิลิส เช่น มีแผลริมแข็งที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก มีไข้ อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลืองโต หากผู้ป่วยปล่อยไว้ไม่ได้รักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้เสียชีวิตได้

• ไวรัสตับอักเสบบี เป็นไวรัสทำลายตับโดยตรง ทำให้เกิดการอักเสบและเสียหาย ไวรัสสามารถแพร่กระจายผ่านทางเลือด น้ำเหลือง และน้ำลาย สามารถป้องกันจากไวรัสตับอักเสบบีได้โดยการสวมใส่ถุงยางทุกครั้งตอนมีเพศสัมพันธ์ และฉีดวัคซีน

• HIV คือไวรัสที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ร่างกายจะอ่อนแอตามก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น  เอดส์ มะเร็ง เป็นต้น

วิธีการเตรียมตัวก่อนตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ข้อควรปฏิบัติเตรียมตัวก่อนตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีดังนี้

• งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 -7 วัน

• งดใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ

• งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

• นอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง

• ห้ามทำความสะอาดในช่องคลอดภายใน 48 ชั่วโมงก่อนมาตรวจ

• ห้ามทาครีม หรือใส่ผ้าอนามัยแบบสอด ที่ช่องคลอดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

สรุปเรื่องการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คุณสามารถตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทั้ง 10 โรค เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม โรคเริม โรคซิฟิลิส และอื่น ๆ ยิ่งคุณรู้ว่าตนเองเป็นโรคเร็ว จะทำให้เข้าถึงการรักษาและรับประทานยาได้ไวยิ่งขึ้น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิดเพียงแค่คุณรู้จักวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง 

หากใครที่อยากตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สำหรับผู้หญิง หรือผู้ชายสามารถไปได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ