กู้ร่วม ประโยชน์ที่ได้รับและวิธีการทำให้ประสบความสำเร็จ

การวางแผนการเงินเพื่อมีบ้าน รถ คอนโดเป็นของตัวเองเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่หลายคนปรารถนา แต่การมีสิ่งเหล่านั้นได้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เนื่องจากการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมักจะต้องการรายได้และเครดิตมั่นคงเพียงพอ ในสถานการณ์ที่ต้องการเงินเพิ่มเติม กู้ร่วม จึงกลายเป็นทางเลือกหลายคนเลือกใช้ 

บทความนี้ เราจะสำรวจทุกแง่มุมของกู้ร่วม คืออะไร ทั้งประโยชน์ และวิธีเลือกผู้ร่วมกู้ที่เหมาะสม รวมทั้งข้อควรระวังในการกู้ร่วม เพื่อให้คุณมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจ เดินหน้าไปสู่โอกาสสร้างความฝันให้เป็นจริงได้อย่างมั่นใจ ไปดูพร้อมกันเลย

กู้ร่วม วิธีแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการกู้คืออะไร?

กู้ร่วมคือการขอสินเชื่อหรือเงินกู้โดยมีบุคคลมากกว่าหนึ่งคนเป็นผู้ขอสินเชื่อร่วมกัน ซึ่งแต่ละคนที่เข้าร่วมกู้ยืมจะมีความรับผิดชอบชำระหนี้ร่วมกัน ในกรณีมีกู้ร่วม ผู้กู้ร่วมทุกคนจะต้องเซ็นสัญญาและรับผิดชอบในหนี้สินอย่างเท่าเทียมกัน

บุคคลที่สามารถกู้ร่วมกันได้มักจะเป็น:

• คู่สมรส: สามีหรือภรรยา ซึ่งกู้ร่วมระหว่างคู่สมรสเป็นกรณีพบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากมีความเชื่อมั่นและมีความสามารถ แบ่งปันภาระหนี้ร่วมกัน กู้ร่วมไม่จดทะเบียนก็ทำได้

• ญาติสนิท: พ่อแม่ ลูก พี่น้อง หรือญาติใกล้ชิดอื่น ๆ ซึ่งอาจมีการตกลงช่วยกันชำระหนี้ รวมทั้งมีความเชื่อถือระหว่างกัน

• เพื่อนร่วมงาน: เพื่อนสนิท กู้ร่วม LGBTQ ที่มีความเชื่อมั่นและไว้วางใจกันในระดับสูง

• คู่รัก LGBT กู้ร่วมเพศเดียวกัน  ก็กู้ร่วมได้ โดยแสดงหลักฐานให้เห็นว่าเป็นคู่รัก 

อย่างไรก็ตาม กู้ร่วมกับบุคคลไม่ใช่คู่สมรสอาจต้องมีการตรวจสอบและพิจารณาเพิ่มเติมจากสถาบันการเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยงในการชำระหนี้อาจสูงขึ้น 

ประโยชน์จากการกู้ร่วม

กู้ร่วมมีประโยชน์หลายประการ สามารถช่วยให้ผู้กู้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน มีโอกาสได้รับสินเชื่อกู้ร่วมดีกว่า ประโยชน์หลักของกู้ร่วมมีดังนี้

• เพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อ: กู้ร่วมจะช่วยเพิ่ม ความน่าเชื่อถือของผู้กู้ต่อสถาบันการเงิน เนื่องจากมีผู้ร่วมรับผิดชอบหนี้สิน ทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินมั่นใจว่าผู้กู้จะมีความสามารถผ่อนชำระหนี้มากขึ้น ส่งผลให้โอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อกู้ร่วมสูงขึ้น

• วงเงินสินเชื่อสูงขึ้น: รายได้รวมสูงขึ้นจากผู้กู้ร่วมหลายคนทำให้สามารถขอวงเงินสินเชื่อกู้ร่วมที่สูงขึ้นได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ในกรณีต้องการกู้ยืม เพื่อซื้อสินทรัพย์มูลค่าสูง เช่น บ้านหรือรถยนต์

• แบ่งเบาภาระการชำระหนี้: ผู้กู้ร่วมสามารถแบ่งภาระชำระหนี้ระหว่างกัน ทำให้แต่ละคนมีภาระชำระหนี้น้อยลง ซึ่งช่วยให้จัดการการเงินส่วนตัวมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• เพิ่มคะแนนเครดิต: หากชำระหนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นเป็นไปตามกำหนด ผู้กู้ร่วมทุกคนจะได้รับผลบวกในประวัติเครดิต ซึ่งช่วยเพิ่มคะแนนเครดิตทำให้มีโอกาสได้รับสินเชื่อกู้ร่วมในอนาคตดีขึ้น

• ช่วยในกรณีผู้กู้คนใดคนหนึ่งมีประวัติเครดิตไม่ดี: หากผู้กู้คนใดคนหนึ่งมีประวัติเครดิตไม่ดี กู้ร่วมกับผู้มีประวัติเครดิตดีสามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอสินเชื่อได้

• เงื่อนไขสินเชื่อดีกว่า: ผู้กู้ร่วมมีรายได้ เครดิตดี สามารถช่วยให้ได้รับเงื่อนไขสินเชื่อดีกว่า เช่น ดอกเบี้ยต่ำลง ดอกเบี้ยบ้าน กู้ร่วมลดลง หรือระยะเวลาชำระหนี้ยืดหยุ่นมากขึ้น

กู้ร่วมมีข้อดีมากมาย แต่ควรพิจารณา ทำความเข้าใจในข้อผูกพัน ความรับผิดชอบร่วมกันอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เนื่องจากกู้ร่วมหมายความว่าผู้กู้ทุกคนจะต้องรับผิดชอบต่อหนี้สินร่วมกันอย่างเท่าเทียมกัน

หากต้องการกู้ร่วม เอกสารจำเป็นสำหรับกู้ร่วม ประกอบด้วย บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, ใบสมรสหรือใบ,สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน, บัญชีธนาคารย้อนหลัง, เอกสารเกี่ยวกับหนี้สินอื่น ๆ, หนังสือรับรองการทำงาน เตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วน ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญจะช่วยให้กระบวนกู้ร่วมเป็นไปอย่างราบรื่นและมีโอกาสได้รับอนุมัติสูงขึ้น

ข้อควรระวังในการกู้ร่วม

กู้ร่วมคือการขอสินเชื่อหรือเงินกู้มีผู้กู้มากกว่าหนึ่งคน โดยผู้กู้ร่วมทั้งหมดต้องรับผิดชอบต่อชำระหนี้ทั้งหมดร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตามควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ กู้ร่วมมีข้อควรระวัง คือ

แยกทางกับผู้ที่ทำการกู้ร่วมด้วย

การแยกทางหรือหย่าร้างกับผู้กู้ร่วมสามารถสร้างความซับซ้อนในเรื่องของการชำระหนี้ หากไม่ทำข้อตกลงชัดเจนว่าใครจะรับผิดชอบชำระหนี้ต่อจากนี้ อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินและความขัดแย้งทางกฎหมาย นอกจากนี้ หากผู้กู้ร่วมคนใดคนหนึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามข้อตกลง ผู้กู้ที่เหลือก็ต้องรับผิดชอบต่อหนี้ทั้งหมด

ผิดชำระหนี้

ผิดชำระหนี้จากผู้กู้ร่วมแม้เพียงคนเดียวก็สามารถส่งผลกระทบต่อเครดิตของผู้กู้ร่วมคนอื่น ๆ การผิดชำระหนี้อาจทำให้เกิดค่าปรับ ดอกเบี้ยเพิ่มเติม และส่งผลต่อคะแนนเครดิต ทำให้เกิดปัญหาขอสินเชื่อใหม่ในอนาคต การตรวจสอบประวัติชำระหนี้ของผู้กู้ร่วมแต่ละคนและทำข้อตกลงชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว

การขอสินเชื่อใหม่ในอนาคต

กู้ร่วมสามารถมีผลกระทบต่อการขอสินเชื่อใหม่ในอนาคต เนื่องจากหนี้มีอยู่จะถูกนับรวมในภาระหนี้สินรวมของผู้กู้ร่วมแต่ละคน ซึ่งอาจทำให้ผู้กู้มีภาระหนี้สินสูงเกินกว่าธนาคารหรือสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อใหม่ได้ นอกจากนี้ คะแนนเครดิตได้รับผลกระทบจากผิดชำระหนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญทำให้การขอสินเชื่อใหม่ยากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีกู้ร่วมลดหย่อนภาษี ทำให้สิทธิการลดหย่อนภาษีจะถูกหารเฉลี่ย เช่นซื้อบ้าน กู้ร่วม หรือซื้อรถกู้ร่วม ซึ่งปกติเราจะสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท แต่ถ้าเรากู้ร่วมเกิน 2 คน ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน กู้ร่วม ค่าลดหย่อนก็จะถูกหารไปด้วย 

การกู้ร่วมมีทั้งข้อดี ข้อเสีย ควรพิจารณาหรือวางแผนอย่างรอบคอบ รวมถึงทำข้อตกลงชัดเจนระหว่างผู้กู้ร่วม จะช่วยลดความเสี่ยงและปัญหาอาจเกิดขึ้นในอนาคต 

กู้ร่วมแล้วยกเลิกกลางคันได้ไหม?

กู้ร่วมแล้วต้องการยกเลิกกลางคันหรือถอนตัวจากเป็นผู้กู้ร่วมไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะสัญญาเงินกู้มีความผูกพันทางกฎหมายและความรับผิดชอบในการชำระหนี้ของผู้กู้ร่วมทุกคน แต่การยกเลิกการกู้ร่วมกลางคันสามารถทำได้โดยวิธีการ ดังนี้

• การรีไฟแนนซ์ หนึ่งในวิธีใช้กันบ่อยคือรีไฟแนนซ์สินเชื่อ โดยผู้กู้หลักหรือผู้กู้ร่วมที่เหลือทำการขอสินเชื่อใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมทั้งหมด แต่ต้องให้สถาบันการเงินยินยอมให้ผู้กู้ร่วมคนหนึ่งถอนตัวจากสัญญาเดิมและทำการกู้ใหม่เพียงคนเดียวหรือกับผู้กู้ร่วมคนใหม่

• โอนหนี้ให้ผู้กู้ร่วมคนหนึ่งรับผิดชอบหนี้ทั้งหมดแทนผู้กู้ร่วมคนอื่น ๆ ในกรณีนี้ต้องได้รับความยินยอมจากสถาบันการเงินด้วย สถาบันการเงินจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้คนที่จะรับหนี้ทั้งหมดว่าเพียงพอหรือไม่

• ขายทรัพย์สิน หากสินเชื่อกู้ร่วมใช้ซื้อทรัพย์สิน เช่น กู้ร่วมซื้อบ้านหรือกู้ร่วมซื้อรถ ขายทรัพย์สินนั้นและใช้เงินที่ได้มาชำระหนี้ก็เป็นทางออกหนึ่ง แต่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้กู้ร่วมทุกคน

• เจรจากับสถาบันการเงินโดยตรงเพื่อหาแนวทางในการถอนตัวจากกู้ร่วม บางครั้งสถาบันการเงินอาจมีเงื่อนไขหรือโปรแกรมเฉพาะสามารถช่วยในกรณีนี้ได้

สรุปเกี่ยวกับกู้ร่วม

กู้ร่วมเป็นวิธีการขอสินเชื่อมีผู้กู้มากกว่าหนึ่งคนเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติและเงื่อนไขที่ดีกว่า แต่การกู้ร่วมมีข้อควรระวังที่สำคัญควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ หากใครมีปัญหาเรื่องเงิน เราขอแนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD ช่วยให้คุณมีทางเลือกในการจัดการเงินและสามารถเป็นแหล่งเงินสำรองในกรณีฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาการกู้ร่วมที่อาจมีความซับซ้อนและความเสี่ยงในระยะยาว