วัคซีน HPV ฉีดตอนไหน ฉีดกี่ครั้งถึงช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พรากชีวิตชาวไทยมากเป็นอันดับ 2 ซึ่งแม้ว่าจะดูแลร่างกายดีมากอย่างไรแต่ก็ยังมีโอกาสเป็นได้อยู่เสมอ เมื่อเป็นมะเร็งปากมดลูกแล้วก็ไม่วิธีไหนที่รักษาโรคให้หายขาดถาวรได้ แต่ในปัจจุบันก็มีวิธีที่ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างวัคซีน HPVอยู่ โดยในบทความนี้จะมุ่งเน้นให้ข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับวัคซีนปากมดลูก HPV ให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจง่าย ๆ 

วัคซีน HPV คืออะไร ช่วยป้องกันโรคไหนได้?

วัคซีนhpvคือวัคซีนที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปากมดลูก โดยวัคซีค HPV จะช่วยไม่ให้ร่างกายติดเชื้อจากไวรัส Human Papilloma Virus-HPV) ส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อร่างกายรับเชื้อที่มีความเสี่ยงสูงก็จะทำให้เซลล์ปากมดลูกอักเสบ และมีโอกาสเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งได้

หมายเหตุ

ปัจจุบันมีวัคซีน HPV อยู่ 3 ชนิดด้วยกัน คือ ชนิด 2 สายพันธุ์ ชนิด 4 สายพันธุ์และชนิด 9 สายพันธุ์ โดยวัคซีนhpvราคาแต่ละชนิดจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ดังนี้

1. วัคซีน HPVชนิด 2 สายพันธุ์(ป้องกันสายพันธุ์ 16, 18) ราคาวัคซีนhpvจะอยู่ที่ประมาณ 5,000-9,000 บาท

2. วัคซีน HPVชนิด 4 สายพันธุ์(ป้องกันสายพันธุ์ 6, 11, 16, 18) ราคาวัคซีนhpvจะอยู่ที่ประมาณ  5,500-11,000 บาท

3. วัคซีน HPVชนิด 9 สายพันธุ์(ป้องกันสายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52, 58) ราคาวัคซีนhpvจะอยู่ที่ประมาณ  6,000-27,000 บาท

ทำไมเราถึงควรฉีดวัคซีน HPV ?

ก่อนอื่นจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าไวรัส HPV ถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ สายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ และสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง เมื่อร่างกายได้รับเชื้อ HPV แต่ละชนิดจะมีความเสี่ยงเป็นโรคดังนี้

สายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ

(สายพันธุ์ที่พบบ่อย = 6, 11)

ก่อให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ


สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง 

(สายพันธุ์ที่พบบ่อย = 16, 18, 33, 58)

ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตามอวัยวะต่าง ๆ

• ฝ่ายหญิงสามารถพบมะเร็งที่บริเวณปาดมดลูก ปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด 

• ฝ่ายชายสามารถพบมะเร็งที่บริเวณองคชาติ

• มะเร็งที่ช่องปาก คอหอย ทวารหนัก

โดยทั่วไปแล้วเมื่อร่างกายได้รับมีเชื้อหรือได้รับเชื้อ HPV จะไม่มีอาการแจ้งเตือนใด ๆ ให้รู้ล่วงหน้า ในบางครั้งอาจไม่แสดงอาการนานกว่า 10 ปี กว่าจะรู้อีกทีเชื้อก็ทำให้เซลล์เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งไปเสียแล้ว ดังนั้นการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรเพิกเฉย

เพราะแม้ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมร่วมรักกันเพียงชั่วข้ามคืน แต่มีโอกาสที่ร่างกายจะได้รับเชื้อ HVP จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นเพียงแค่ครั้งเดียว ในกรณีที่ฉีดวัคซีน HPVเตรียมไว้ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยป้องกันร่างกายจากไวรัส HPV บางสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์

เราควรเริ่มฉีดวัคซีน HPV เมื่อไหร่?

ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายก็ควรฉีดวัคซีนป้องกันhpvเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ HPV แต่เพื่อให้วัคซีน HPVสามารถแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ จึงควรเริ่มฉีดวัคซีนhpvในช่วงวัยอายุ 9-26 ปี หรือในช่วงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ 

การฉีดhpvจะต้องฉีดทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน โดยการฉีดวัคซีน HPV แต่ละเข็มควรเว้นช่วงห่าง ดังนี้

1. วันที่ฉีดวัคซีน HPV เข็มแรก

2. หลังจากฉีดวัคซีน HPV เข็มแรก 1-2 เดือน

3. หลังจากฉีดวัคซีน HPV เข็มที่สอง 6 เดือน
   
   หมายเหตุ

กรณีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน HPVหรือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกตามช่วงเวลาที่กำหนด ควรฉีดวัคซีนต่อให้ครบ 3 เข็ม โดยที่วัคซีนทั้ง 3 เข็มจะต้องเป็นชนิดเดียวกัน

ใครควรเข้ารับการฉีดวัคซีน HPV บ้าง?

วัคซีน HPVเหมาะกับการฉีดทั้งเพศหญิงและเพศชาย โดยจะมีกลุ่มผู้ที่แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกเป็นพิเศษ คือ กลุ่มเด็กหญิงและชายที่มีอายุ 11-12 ปี และกลุ่มอื่น ๆ ดังนี้
 

• ผู้ที่มีอายุ 9-15 ปี (ฉีดวัคซีน HPV 2 เข็มจะได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าการฉีด 3 เข็ม โดยควรฉีดเข็มสองหลังจากฉีดเข็มแรก 6 เดือน)

• ผู้ที่มีอายุ 15-26 ปี (ฉีดวัคซีน HPV 3 เข็ม)

• ผู้ที่มีอายุ 27-45 ปี หรือผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนแล้ว (ึกษาสามารถฉีดยามะเร็งปากมดลูกได้ แต่อาจจะได้รับประโยชน์จากวัคซีนไม่เต็มที่เพราะอาจเคยติดเชื้อ HPV มาก่อน)

• ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำควรฉีดวัคซีน HPVให้ครบทั้ง 3 เข็มแม้จะมีอายุช่วง 9-15 ปี

หมายเหตุ 

• กรณีที่ต้องการฉีดวัคซีน HPVก่อนตั้งครรภ์ควรฉีดให้ครบทั้ง 3 เข็มก่อน และคุมกำเนิดหลังจากฉีดเข็มที่ 3 อย่างน้อย 1 เดือน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเคยได้รับการฉีดวัคซีน HPVครบทั้ง 3 เข็มแล้ว แต่ควรเข้ารับการตรวจภายในเป็นประจำ เพื่อช่วยคัดกรองความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคอื่น ๆ 

สรุปเรื่องวัคซีน HPV ฉีดล่วงหน้าป้องกันมะเร็งปากมดลูกระยะยาว

HPV เป็นเชื้อไวรัสอันตรายที่มักได้รับจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเชื้อ HPV ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งปากมดลูก มะเร็งตามอวัยวะสืบพันธุ์ รวมถึงโรคหูดหงอนไก่ ดังนั้นเมื่อถึงช่วงอายุที่เหมาะสมควรเข้ารับการฉีดวัคซีน HPVเพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสนี้

สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับวัคซีน HPV หรือสอบถามราคาวัคซีนมะเร็งปากมดลูกกับสมิติเวช ไชน่าทาวน์เพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ตามช่องทางดังนี้

ช่องทางการติดต่อ

ที่อยู่ : 624 ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100

Tel : 02-118-7893

Email : info@samitivej.co.th

Facebook : https://www.facebook.com/samitivejchinatownhospital/