ในยุคปัจจุบัน เกษตรกรมักเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยธรรมชาติน้อยลงอย่างมาก บางคนไม่ทราบถึงความแตกต่างระหว่างปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ บางคนเชื่อว่าปุ๋ยเคมีไม่ดีเนื่องจากอาจทำให้เกิดสารตกค้างและทำให้ดินเสื่อมสภาพ ในขณะที่บางคนเชื่อว่าปุ๋ยอินทรีย์มีธาตุอาหารสูงและช่วยบำรุงดินได้ดี
ปุ๋ยเคมีคือสารที่ใส่ลงในดินเพื่อให้พืชได้รับสารอาหารครบถ้วน พืชต้องการสารอาหาร 16 ชนิด ปุ๋ยเคมีมีหลายชนิด เช่น ปุ๋ยเชิงเดียว ปุ๋ยเชิงผสม และปุ๋ยเชิงประกอบ มีสูตรการใช้ที่แตกต่างกันตามสภาพของพืช
การใช้ปุ๋ยเคมีไม่จำเป็นต้องใช้เยอะ ใช้แค่พอดีหรือน้อย ๆ พอ หากใช้มากเกินไปอาจทำลายพืชและระบบนิเวศในดิน ค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีอาจจะถูกกว่า แต่จริง ๆ แล้วราคาก็สูงอยู่เหมือนกัน ข้อเสียของการใช้ปุ๋ยเคมีคืออาจทำให้ดินเสื่อมสภาพและไม่สามารถรับสารอาหารได้ดีเท่าที่ควร
ปุ๋ยอินทรีย์ได้มาจากการย่อยสลายของอินทรีย์วัตถุโดยใช้ออกซิเจน ผลิตจากขี้วัว ขี้ควาย ขี้ไก่ ใบไม้ แร่ธาตุ และจุลินทรีย์ ซึ่งสามารถผลิตได้เองตามระบบนิเวศของแต่ละท้องถิ่น
เกษตรกรต้องมีความรู้ในการผลิต ดูแลรักษา และใช้ปุ๋ยอินทรีย์อย่างถูกวิธี ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยให้ระบบนิเวศในเกษตรกรรมมีความสมบูรณ์และอุ้มสารอาหารไว้ให้พืชดูดซึมได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม การใช้ปุ๋ยอินทรีย์อาจไม่เห็นผลทันที ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาสอนและหมักปุ๋ยเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
การใช้ปุ๋ยเคมีอาจทำให้ระบบนิเวศในดินเสื่อมสภาพ แม้ว่าจะเห็นผลได้รวดเร็ว แต่ในระยะยาว การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยฟื้นฟูดินและทำให้พืชเจริญเติบโตดี ปลอดสารพิษ และส่งผลดีต่อผู้บริโภค การจำหน่ายผักปลอดสารพิษมีความนิยมและราคาสูง ทำให้เรามีรายได้เพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น แนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แม้ต้องใช้เวลานานแต่ผลที่ได้คุ้มค่า ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการบริโภคผักปลอดสารพิษ
ซึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ : numismaticliteraryguild.org
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย