การเสริมความงามด้วยหัตถการต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติของสังคมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเหล่าหญิงสาวที่ต้องการให้ใบหน้างดงาม ดูเยาว์วัยอยู่ตลอดเวลา เช่นนั้นการเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาบนใบหน้านั้นย่อมเป็นเรื่องสำคัญ ในบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของ Sculptra ทั้งในเรื่องของ Sculptra มีผลเสียหรือไม่? หรือ Sculptra นั้นเหมาะกับใคร? เพื่อให้ทุกคนได้ผลลัพธ์สูงสุดอย่างที่คาดหวังไว้
Sculptra คือ การฉีดสาร poly-L-lactic acid หรือ PLLA เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนบนใบหน้า โดยหลังจากฉีด Sculptra เข้าไปแล้ว กรดโพลี-แอล-แลคติค จะทำหน้าที่ในการฟื้นความอ่อนเยาว์ให้กับผิว Sculptra นั้นเป็นกรดที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นไบโอสติมูเลเตอร์ตัวแรกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ตั้งแต่ปี 1999 ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์
Sculptra ช่วยอะไรได้บ้าง? Sculptra กี่วันเห็นผล? แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด Sculptra เข้าไปในผิวนั้นเกิดจากการกระตุ้นคอลลาเจนซึ่ง Sculptra นั้นขึ้นชื่อเรื่องการฟื้นฟูแบบระยะยาว โดยผลลัพธ์ที่สามารถคาดหวังได้มีดังข้างล่างนี้
Sculptra กระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาก่อตัวของคอลลาเจนประมาณ 2 เดือน ซึ่งผลลัพธ์สามารถเห็นได้ชัดเจนภายใน 60 ถึง 80 วัน
Sculptra ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเนื่องจากเป็นการเสริมสร้างคุณภาพจากชั้นผิวจากด้านใน ไม่ใช่การเติมเต็มสารเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังที่เห็นผลในทันที
Sculptra ช่วยเติมเต็มผิวหน้าให้กระชับ ลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้า นอกจากนี้ยังเพิ่มความสว่างกระจ่างใสให้กับผิว
ผลลัพธ์ที่คงอยู่เป็นเวลานานสูงสุดถึง 2 ปี หลังจากที่ฉีด Sculptra
หลายๆ คนอาจจะเริ่มอยากลองฉีด Sculptra กันแล้ว แต่อาจจะยังไม่แน่ใจว่าการฉีด Sculptra นั้นแตกและการฉีด Sculptra มีราคาที่ค่อนข้างสูง จึงอาจจะต้องพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียว่าต่างจากการทำหัตถการแบบอื่นอย่างไร ในหัวข้อนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน
ข้อแรกเลยนั้น Sculptra นั้นเป็นสาร poly-L-latic acid (PLLa) ซึ่งต่างจากฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารเติมเต็มชนิด Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งให้ผลลัพธ์หลังจากฉีดได้ในเวลาไม่นานเนื่องจากเป็นการฉีดสารเข้าไปโดยตรง ไม่ใช่วิธีการกระตุ้นคอลลาเจนแบบ Sculptra นอกจากนั้น ฟิลเลอร์ยังคงอยู่ได้เป็นระยะเวลาเพียง 6-12 เดือน ต่างจาก Sculptra ที่ให้ผลลัพธ์ที่สูงสุดถึง 2 ปี
ส่วนประกอบหลักของ Rejuran คือโพลีนิวคลีโอไทด์ (PN) ที่ได้มาจาก DNA ของปลาแซลมอน ซึ่งทำหน้าที่ในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ชั้นผิวหน้าแน่นขึ้น ช่วยปรับปรุงสัมผัสของผิวหน้าให้ดูเรียบเนียนเหมือนกระจก กระชับรูขุมขน ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ซึ่งผลลัพธ์จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ต้องฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจาก Sculptra ที่ฉีดเพียงไม่กี่ครั้ง สามารถให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปี
การฉีด Exosome นั้นต่างกับ Sculptra ตรงที่ Sculptra นั้นเป็นการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งให้ผลลัพธ์ในระยะยาว เป็นการบำรุงจากชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ใบหน้ามีความแน่น อิ่มฟูมากยิ่งขึ้น ส่วน Exosome นั้นมีความสามารถในการช่วยซ่อมแซมผิวหนังชั้นบน มีคุณสมบัติช่วยลดรอยดำจากสิว กระ จุดด่างดำ ๆ ต่างที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม
Radiesse เป็นสารเติมเต็มที่ประกอบด้วย Calcum Hydroxylaptite เป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นผิวจะช่วยทำหน้าที่เป็นที่ยึดเกาะให้กับเนื้อเยื่อบนใบหน้าที่จะเจริญเติบโตขึ้นมาในอนาคต เป็นสารที่อ่อนโยนไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ โดย Radiesse นั้นช่วยเรื่องริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าหรือหลุมสิวเป็นหลัก สามารถเห็นผลได้หลังจากทำเกือบจะในทันที
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าด้วยตัว AestheFil นั้นเป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่จึงมีราคาค่อนข้างสูงกว่า Sculptra โดย AestheFil ประกอบด้วยสาร Poly-D-L-Lactic Acid มีลักษณะคล้ายกับสารตั้งต้นของ Sculptra ซึ่งทั้งสองตัวนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเช่นเดียวกัน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ต่างกันเพียง AestheFil นั้นอาจจะต้องฉีดซ้ำน้อยครั้งกว่าตัว Sculptra ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน นอกจากนี้ผลลัพธ์ของ AestheFil ยังสามารถอยู่ได้นานกว่า 2 ปีในบางคน
จากที่เห็นข้างต้นจะพบว่าการทำหัตถการแต่ละแบบนั้นมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนการทำหัตถการทุกครั้งควรปรึกษาแพทย์ผู้มากประสบการณ์ รวมไปถึงเลือกคลินิกที่มีคุณภาพ เพื่อที่จะสามารถรักษาปัญหาผิวหน้าของคุณได้อย่างตรงจุด
ก่อนที่จะไปฉีด Sculptra แน่นอนว่าทุกคนย่อมเกิดความกังวลเช่น ฉีด Sculptra เจ็บไหม? ห้ามกินอะไรก่อนไปฉีดหรือเปล่า? แพทย์จะมีการทายาชาก่อนไหม? ในหัวข้อนี้เราจะพาทุกคนไปคลายความกังวลในข้อนี้กัน โดยปกติแล้วก่อนที่จะฉีด Sculptra ควรเตรียมตัวดังนี้
ควรนัดทำการปรึกษาแพทย์ให้ละเอียดก่อนการทำหัตถการทุกครั้ง นอกจากนี้ควรให้ข้อมูลและประวัติทางการแพทย์ที่ถูกต้อง รวมไปถึงการแพ้ยาต่าง ๆ เพื่อลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
หลีกเลี่ยงยาที่ประกอบด้วยสารลดการแข็งตัวของเลือดเช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน 2-3 วันก่อนเข้ารับการทำหัตถการ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงอาการฟกช้ำหรือเลือดออกระหว่างทำ
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ล้างออกได้อย่าง บริเวณใบหน้าที่จะเข้ารับการฉีด Sculptra
หลีกเลี่ยงการรับประทานคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนฉีด Sculptra เนื่องจากสารเหล่านี้สามารถส่งผลให้ผิวขาดน้ำได้ ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์โดยตรง
หลังจากฉีด Sculptra แล้วควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยแนวทางการดูแลตัวเองมีดังนี้
หลังจากฉีดในทันที ไม่ควรแคะแกะเกาในบริเวณที่ทำการฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคืองและอักเสบติดเชื้อ
ถ้ามีอาการเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด Sculptra สามารถใช้น้ำแข็งประคบเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
งดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการออกกำลังกายอย่างหนักหรือการซาวหน้า
หากมีอาการแทรกแซงเช่นบวมแดงเป็นระยะเวลานานควรพบแพทย์ในทันที
เลือกใช้ครีมกันแดดอย่างเหมาะสมเพื่อดูแลใบหน้าและให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
พบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อให้แพทย์ประเมินผลลัพธ์จากการฉีด Sculptra และติดตามผล
หากไม่มีอาการเจ็บปวด บวมแดง สามารถทำการนวดเบา ๆ บนใบหน้าบริเวณที่ฉีดได้ เพื่อช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน
แล้วเลือกฉีด Sculptra ที่ไหนดี อาจจะเป็นข้อสงสัยที่หลายคนกำลังพบอยู่ตอนนี้ เนื่องจากในปัจจุบันมีคลินิกและสถาบันเสริมความงามเกิดขึ้นมากมาย การเลือกสถานที่ที่ดีที่สุดเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมควรพิจารณาถึงข้อต่าง ๆ ดังนี้
เลือกแพทย์ผู้มีความชำนาญและประสบการณ์ มีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมระบุชัดเจนสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บแพทย์สภา
เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานมีเชื่องเสียง มี Sculptra รีวิวให้เห็น อย่าเสี่ยงเลือกคลินิกที่ไม่มีข้อมูลในอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดีย
เลือกจากบริการหลังการขาย พนักงานมีการโทรมาติดตามผลลัพธ์ ให้คำปรึกษาได้อย่างถี่ถ้วน
Sculptra นับได้ว่าเป็นการทำหัตถการที่ปลอดภัยสูง เนื่องจากอย่างที่เคยกล่าวไว้ในหัวข้อก่อนหน้านี้ Sculptra นั้นได้รับการรับรองจากองค์กรอาหารและยาจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ Sculptra มีผลข้างเคียงที่น้อยมาก เนื่องจากเป็นหัตถการที่ถูกคิดค้นและทำการวิจัยมามากกว่า 10 ปี
จะเห็นได้ว่าแม้ตัว Sculptra เองนั้นจะมีประโยชน์มากมายและเป็นการกู้ปัญหาผิวหน้าระยะยาว แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกคน อาจจะสรุปได้ว่าผู้ที่เหมาะกับ Sculptra นั้นคือผู้ที่สามารถรอระยะเวลาในการแสดงผลของ Sculptra ได้ รวมถึงต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่สามารถเห็นได้ในทันที หรือต้องการปรับเปลี่ยนรูปทรงใบหน้าให้แตกต่างไปจากเดิม
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจทำหัตถการตัวไหนควรศึกษาให้ข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ เลือกคลินิกที่มีแพทย์มากประสบการณ์ได้มาตรฐาน อย่าเพียงเห็นแต่ราคาที่ถูกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจจะอันตรายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย