ใต้ตาคล้ำ ใบหน้าดูโทรมไม่สดใสเหมือนที่เคย หน้าดูเหนื่อยตลอดเวลา ที่สำคัญคือดูแก่กว่าวัย ปัญหาเหล่านี้คงเป็นที่กังวลใจของใครหลายคน เพราะใต้ตามีร่องลึก ดำคล้ำ แต่งหน้าช่วยก็เอาไม่อยู่ อย่างที่ทราบกันดีว่าฟิลเลอร์นั้นสามารถเข้าไปเติมร่องลึกบนใบหน้า หรือเติมเต็มรูปหน้าให้ดูเข้ารูปมากขึ้น ฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์เพราะสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกได้อย่างรวดเร็วทันใจ การเติมฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจะสามารถเติมเต็มร่องใต้ตาลึกและช่วยอำพรางรอยคล้ำใต้ตาได้ดี จนแทบไม่ต้องใช้รองพื้นคอยปกปิดอำพรางอีกต่อไป หน้าจะสามารถกลับมาดูสดใส ไม่โทรม และดูละมุนขึ้นได้แน่นอน
สารบัญบทความ
และสำหรับสาวๆ ที่อยากฉีดถุงใต้ตาให้หน้าดูหวานละมุนหรือที่นิยมเรียกกันว่าดอลลี่อาย โดยทั่วไปแล้วถุงใต้ตาจะแตกต่างกับดอลลี่อาย แล้วดอลลี่อายกับถุงใต้ตาต่างกันอย่างไร?
ดอลลี่อาย️คือ มัดกล้ามเนื้อบริเวณขอบตาล่าง เห็นชัดเมื่อยิ้มหรือหัวเราะส่วนถุงใต้ตาคือ ถุงไขมันใต้ตา พบในวัย 30-40 ปีขึ้นไป โดยการมีดอลลี่อายจะทำให้ใบหน้าเด็กลง ดูหวานละมุน แต่ถุงใต้ตาจะทำให้ใบหน้าโทรมแลดูมีอายุ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ แต่จะสามารถเติมเต็มร่องใต้ตาลึกและสร้างดอลลี่อายได้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มความอ่อนเยาว์ให้ดวงตาได้จริง เพราะดวงตาที่ดูหมองคล้ำ อ่อนเพลีย อาจทำให้คุณดูมีอายุมากกว่าวัย โชคดีที่ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ช่วยให้ดวงตากลับมาสดใส อ่อนเยาว์ และดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ทำให้ร่องลึกใต้ตาตื้นขึ้น ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น รอยคล้ำใต้ตาแลดูจางลงเพราะแสงจะสามารถตกกระทบผิวได้มากขึ้นทำให้รอยคล้ำหรือรอยเส้นเลือดใต้ตาดูจางลง นอกจากนี้ฟิลเลอร์ใต้ตายังสามารถลดเลือนริ้วรอยใต้ตา ช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาแลดูจางลง ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตา เพราะฟิลเลอร์มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวบริเวณใต้ตาดูอิ่มฟู สุขภาพดีและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้อีกด้วย การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาจีงเป็นหัตถการที่คุ้มค่าที่จะลงทุนเพราะ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและสามารถเสริมความมั่นใจให้คุณได้ทันที
ก่อนที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อควรปฏิบัติบางประการที่ควรทำ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังต่อไปนี้
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านความงามหรือศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความต้องการของคุณ
แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว และการแพ้ยาต่างๆ แก่แพทย์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
งดใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวบอบบางอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและการใช้ครีมกันแดดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการรักษาที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังการรักษา คุณต้องดูแลบริเวณที่ได้รับการฉีดอย่างถูกต้อง เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ใต้ตา ได้แก่
หลีกเลี่ยงการสัมผัสแรงๆ บริเวณใต้ตา ไม่ควรขยี้ตา นวดหน้า หรือเช็ดหน้าแรงๆ
ใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดการบวม
ใช้ยาทาหรือรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
ดื่มน้ำมากๆ ประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน
นอนหงาย
งดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
งดการทำเลเซอร์ ทรีทเมนต์ หรือผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นอาจเกิดผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะผลข้างเคียงเหล่านี้เป็นเรื่องปกติและจะค่อยๆ หายไปเอง เช่น บวมเล็กน้อยหรือมีรอยช้ำชั่วคราว ซึ่งเป็นเพียงสัญญาณแสดงว่าร่างกายกำลังปรับตัวเท่านั้น เพราะในที่สุดผิวหน้าของคุณก็จะมีความสดใสและเปล่งปลั่งขึ้นอย่างแน่นอน การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้ดูอ่อนเยาว์และสดชื่นขึ้น โดยผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่
รอยบวมอาจเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังฉีด และจะค่อยๆ ยุบลงภายใน 1-2 สัปดาห์
รอยแดงอาจเกิดขึ้นบริเวณที่ฉีด และจะค่อยๆ จางลง
รอยช้ำอาจเกิดขึ้นภายใน 2-3 วันหลังฉีด
อาการคันอาจเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังฉีด
ความรู้สึกชาอาจเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน อาจเกิดจากการกระจายตัวของฟิลเลอร์ที่ไม่สม่ำเสมอ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไข
โดยทั่วไปจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 14 วัน ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ชนิดของฟิลเลอร์ ปริมาณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด ส่วนระยะเวลาการคงผลลัพธ์ ฟิลเลอร์ใต้ตาโดยทั่วไปจะคงอยู่ประมาณ 6-24 เดือน
หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่เห็นผล สาเหตุ วิธีแก้ และคำแนะนำ สาเหตุหลักๆ มาจาก 3 ประการดังนี้
1. เทคนิคการฉีด หากแพทย์ขาดประสบการณ์ วิเคราะห์และแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เลือกตำแหน่งฉีดที่ไม่เหมาะสม ฉีดฟิลเลอร์ไม่ลึกพอ กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ หรือใช้ปริมาณฟิลเลอร์น้อยเกินไป
2. ชนิดและปริมาณฟิลเลอร์ เลือกชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับปัญหาใต้ตา ใช้ปริมาณฟิลเลอร์น้อยเกินไป ไม่เพียงพอต่อการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอย
3. การดูแลหลังฉีด ไม่ดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ประคบร้อน ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด
วิธีแก้ไขเมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่เห็นผลคือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินผลลัพธ์ วิเคราะห์สาเหตุ และหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม หรือฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติมในกรณีใช้ฟิลเลอร์ปริมาณน้อยเกินไป แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติม และรอให้ฟิลเลอร์ค่อยๆ แสดงผล ในบางกรณี ฟิลเลอร์อาจใช้เวลาในการกระจายตัวและแสดงผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 1-2 เดือน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความนิยมและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้คนที่ต้องการลดรอยย่นหรือเสริมปรับรูปทรงใบหน้า แต่การตัดสินใจในการทำฟิลเลอร์ควรพิจารณาด้านความปลอดภัยและคุณภาพของสารฟิลเลอร์ที่ใช้ด้วย การเลือกคลินิกที่มีความเชื่อถือและมีประสบการณ์ในการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การศึกษาและการเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการฉีดฟิลเลอร์ที่ต้องการทำเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย