โครงสร้างโครงเป็นองค์ประกอบสำคัญในด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ประกอบด้วยชิ้นส่วนตรงที่เชื่อมต่อกันที่ข้อต่อ ก่อให้เกิดโครงที่มั่นคงซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักมากได้ โครงถักมักใช้ในสะพาน หลังคา และหอคอยเพื่อให้ความแข็งแรงและความมั่นคงแก่โครงสร้าง

การออกแบบโครงสร้างโครงถักนั้นยึดหลักฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ เพื่อให้มั่นใจว่าแรงมีการกระจายอย่างมีประสิทธิภาพทั่วทั้งโครงงาน ด้วยการใช้โครงถัก วิศวกรสามารถสร้างโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถขยายระยะทางไกลได้โดยไม่ยุบตัวหรือยุบตัว

โดยรวมแล้ว โครงสร้างโครงถักมีบทบาทสำคัญในโครงการก่อสร้างสมัยใหม่ โดยนำเสนอโซลูชันที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้สำหรับการรองรับอาคารและโครงสร้างพื้นฐานประเภทต่างๆ

โครงสร้างโครงเป็นองค์ประกอบสำคัญในด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ซึ่งให้ความมั่นคงและรองรับอาคารและสะพานประเภทต่างๆ โครงสร้างโครงถักมีหลายประเภท แต่ละแบบมีการออกแบบและวัตถุประสงค์เฉพาะตัว โดยโครง truss แบบ ต่างๆ มีดังนี้

1. King Post Truss: นี่คือหนึ่งในโครงสร้างโครงถักที่ง่ายที่สุด ประกอบด้วยเสาแนวตั้ง (king post) โดยมีคานรองรับแนวทแยงยื่นออกมาจากแต่ละด้าน

2. Queen Post Truss: คล้ายกับ King Post Truss แต่มีเสาแนวตั้ง 2 เสา (เสา Queen) แทนที่จะเป็น 1 อันเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคง

3. Howe Truss: โครงถักประเภทนี้มีส่วนประกอบในแนวทแยงที่ลาดขึ้นไปตรงกลาง ทำให้เกิดรูปทรงตัว "W" ที่โดดเด่น

4. Pratt Truss: ตรงกันข้ามกับโครงถัก Howe โครงถัก Pratt มีส่วนประกอบในแนวทแยงที่ลาดลงไปตรงกลาง ก่อตัวเป็นรูปตัว "V"

5. Warren Truss: โครง Warren Truss มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่เกิดจากสมาชิกในแนวทแยงไขว้กัน

6. Bowstring Truss: โครงทรัสประเภทนี้มีคอร์ดด้านบนโค้งคล้ายส่วนโค้ง ทำให้มีการออกแบบที่สวยงามน่าพึงพอใจในขณะเดียวกันก็รองรับน้ำหนักได้มาก

การทำความเข้าใจโครงสร้างโครงถักประเภทต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับวิศวกรและสถาปนิกเมื่อออกแบบอาคารหรือสะพานเพื่อให้มั่นใจในความสมบูรณ์ของโครงสร้างและประสิทธิภาพในความสามารถในการรับน้ำหนัก