ในยุคสมัยที่การใช้ชีวิตมีค่าใช้จ่ายสูง  หลายคนก็เริ่มกังวลเรื่องเงินออมหลังเกษียณอายุ กองทุน RMF จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคงแล้ว กองทุน RMF ยังลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย !

กองทุน RMF คืออะไร ?

กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่รัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอายุ โดยเสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้

• ลดหย่อนภาษี - ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนในกองทุน RMF ไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้สุทธิ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กบข.) ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

• ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้จากเงินปันผล - เงินปันผลที่ได้รับจากกองทุน RMF ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้

• ไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการขายหน่วยลงทุน - โดยทั่วไป ผู้ลงทุนต้องเสียภาษี 15% จากกำไรที่ได้จากการขายหน่วยลงทุน แต่สำหรับกองทุน RMF  ผู้ลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีนี้  แต่มีเงื่อนไขว่าต้องถือหน่วยลงทุนครบ 5 ปี

ข้อควรรู้ก่อนลงทุนในกองทุน RMF เพื่อลดหย่อนภาษี

• วัตถุประสงค์ - กองทุน RMF ออกแบบมาเพื่อการออมระยะยาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณอายุ

• ความเสี่ยง - กองทุน RMF ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และเงินฝาก ซึ่งแต่ละประเภทมีความเสี่ยงแตกต่างกัน

• ระยะเวลาการลงทุน - ควรลงทุนอย่างน้อย 5 ปี  เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเต็มจำนวน

• เงินลงทุน – ควรลงทุนเป็นประจำทุกปี

• ผลตอบแทน - ผลตอบแทนของ RMF  ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุน

• ค่าธรรมเนียม - กองทุน RMF แต่ละกองมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน ควรเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อควรระวังในการลงทุนในกองทุน RMF เพื่อลดหย่อนภาษี

• ไม่ควรลงทุนใน RMF เกินกว่า 15% ของเงินได้สุทธิ เช่น มีเงินได้สุทธิ 500,000 บาท สามารถซื้อกองทุน RMF เพื่อลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 75,000 บาท (15% x 500,000 บาท)

• ไม่ควรนำเงินที่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้นมาลงทุน

• ควรศึกษาข้อมูลกองทุน RMF แต่ละกองก่อนตัดสินใจลงทุน

นอกจากจะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอายุแล้ว กองทุน RMF ยังช่วยลดหย่อนภาษี และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูง โดยผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและลงทุนอย่างชาญฉลาดเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์