รายละเอียดกระทู้
เจ้าของกระทู้
: tothemoon555
ว/ด/ป เวลา
: 25/03/24 23:41:25 PM
เลขไอพี
: 223.24.147.72
หัวข้อ
: AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
รายละเอียด
:

AI คือ

AI (Artificial Intelligence) คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมนุษย์ จากการเรียนรู้ข้อมูล (Machine Learning) มีความฉลาดและทำงานได้เทียบเท่ากับมนุษย์ 

ในยุคปัจจุบันที่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีเครื่องมือวิทยาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าทุกคนเริ่มจะคุ้นหูเกี่ยวกับคำว่า AI กันมาขึ้น AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกคิดค้นการผลิตเพื่อนำเอามาใช้ประโยชน์ในการอำนวยความสะดวก การแก้ไขปัญหา ให้คำแนะนำ และนำมาต่อยอดเป็นเครื่องมืออื่น ๆ 

ซึ่งในปัจจุบันการใช้ AI คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังแพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลก ทั้งในธุรกิจและองค์กรหลากหลายแห่ง ถือได้ว่าประโยชน์ของ AI มีมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อใช้อย่างถูกวิธีจะส่งเสริมธุรกิจและองค์กรเติบโตมากยิ่งขึ้น


AI ย่อมาจากอะไร? และมีความหมายว่าอะไร?

Ai คือ Artificial Intelligence แปลว่า ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความสามารถจากระบบคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบให้มีความสามารถในการคำนวณ และดำเนินการเชิงปัญญาเทียบเท่ากับสมองของมนุษย์ ซึ่งประกอบไปด้วยหลายองค์ประกอบเช่น การเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูล เข้าใจภาษาธรรมชาติ และการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว


เราสามารถนำ AI ไปใช้งานกับอะไรได้บ้าง?

ปัญญาประดิษฐ์ เรียกอีกอย่างว่า Ai คือ สิ่งที่เรานำเอามาประยุกต์ใช้งานในธุรกิจ องค์กร และในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งหลักการทำงานของระบบ ai สามารถใช้งานได้หลากหลายด้าน

การใช้งานระบบ Smart Home ต่าง ๆ ในบ้าน

การใช้งานระบบ Smart Home ต่าง ๆ ในบ้าน Artificial Intelligence คือการใช้งานควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างอัตโนมัติ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย อาทิ ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า ตั้งค่าเวลาเปิด - ปิดของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น แอร์ พัดลม หลอดไฟ เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน หรือควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้รีโมทในการสั่งการต่าง ๆ

AI เพื่อการดูแลรักษาความปลอดภัย

ใช้ AI ปัญญาประดิษฐ์ คืออีกหนึ่งประโยชน์ของการนำระบบ Machine Learning มาดูแลรักษาความปลอดภัยในธุรกิจ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบันที่หลาย ๆ ธุรกิจอาจเกิดการโจมตีทางไซเบอร์ AI สามารถวิเคราะห์และระบุพฤติกรรมที่ผิดปกติบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์และระบบข้อมูลอื่น ๆ แล้วทำการป้องกันการโจมตีโดยอัตโนมัติหรือแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบ

วิเคราะห์ข้อมูลตลาด

AI คือสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอย่างละเอียด เช่น ราคาสินค้าและบริการในตลาดปัจจุบัน แนวโน้มของราคา และแนวโน้มของตลาดที่กำลังเป็นไป เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกทำแคมเปญ หรือแบ่งสัดส่วนการใช้ Budget ได้อย่างเหมาะสม


ประเภทของธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบจาก AI มีอะไรบ้าง?

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า AI คืออะไร และประโยชน์ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นี้ คือการเข้ามาช่วยเหลือมนุษย์ในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาให้เทคโนโลยีสามารถอยู่คู่กับธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในทางกลับกันมีบางประเภทของธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบจาก AI เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

ธุรกิจทางการแพทย์

เทคโนโลยี AI กับการเข้ามา Disrupt ทางการแพทย์ คือ การมีบทบาทมากขึ้นในกระบวนการต่าง ๆ ทางการแพทย์ AI ช่วยในการวิจัยทางการแพทย์โดยการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อค้นหาแนวทางการรักษาใหม่ การคาดการณ์โรค หรือการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดในเรื่องขององค์ความรู้ที่จำกัด อาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดได้ ดังนั้นแล้ว เราอาจใช้ AI ควบคู่กับการทำงานของแพทย์ได้ แต่แพทย์ต้องเป็นผู้ที่คิดและตัดสินใจด้วยตนเอง

ธุรกิจงานลูกค้าสัมพันธ์

ธุรกิจงานลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management - CRM) จะได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของ AI คือ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาล ระบุรูปแบบ พฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าได้ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ตรงจุด การทำงานของ Chatbot ที่เป็น AI ประเภทหนึ่งจะสามารถตอบคำถามลูกค้า 24/7 ให้บริการได้รวดเร็ว ประหยัดต้นทุนการจ้างพนักงาน

ธุรกิจภาคประกันภัย

AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยในอนาคต ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พัฒนาระบบประกันภัยแบบอัตโนมัติ ซื้อประกันง่าย รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านตัวแทน หรือพัฒนาเป็นระบบจัดการเอกสารอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถยื่นเคลมประกันออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน 

ธุรกิจการศึกษา

AI อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจการศึกษามากขึ้น ถ้ามองในแง่ดีคือช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ บางโรงเรียน มหาวิทยาลัยใช้ AI พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาจากคลิปวิดีโออัตโนมัติ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้หลากหลาย ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตัวเอง


ประเภทของ AI มีการใช้งานในปัจจุบัน

ประเภทของ AI

Limited memory

AI ประเภท Limited Memory คือการพัฒนาต่อยอดจาก Reactive Machines มีหน่วยความจำเป็นของตัวเอง เรียนรู้จากข้อมูลชุดเก่าได้ เก็บข้อมูลได้อย่างจำกัด มีบทบาทสำคัญในปัจจุบัน ทำงานอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพ เหมาะกับงานที่ซับซ้อน พัฒนาต่อยอดได้อีกมาก อาทิเช่น 

  • รถยนต์ไร้คนขับ วิเคราะห์ข้อมูลรอบคัน ตัดสินใจขับขี่
  • ระบบแปลภาษา แปลภาษาได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ

Theory of Mind

AI ปรเภท Theory of Mind หมายถึง ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเข้าใจและคาดเดาอารมณ์ ความรู้สึก และความตั้งใจของมนุษย์ได้ด้วยความสามารถที่มีในการนำความรู้จากประสบการณ์มนุษย์ในการประมวลผลข้อมูล ปัจจุบัน Theory of Mind ยังคงเป็นการวิจัยและทดลองอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ถ้าสามารถพัฒนาต่อไปได้สำเร็จ อาจนำไปสู่การสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถให้คำแนะนำหรือช่วยในการตัดสินใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ และต่อยอดได้อีกมากมาย

Reactive Machine

AI ประเภท Reactive Machines เป็นระบบประสาทเทียมที่ถูกออกแบบให้มีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น โดยไม่มีการสร้างข้อมูลหรือเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเหมือนกับ AI ประเภทอื่น ที่มีหน่วยความจำ ทำงานตามโปรแกรมที่กำหนด อาทิเช่น

  • ระบบตรวจจับใบหน้า ระบุตัวบุคคล
  • ระบบควบคุมอุณหภูมิ ควบคุมอุณหภูมิห้อง
  • ระบบป้องกันอัคคีภัย ตรวจจับควันไฟ และส่งสัญญาณเตือน

Natural Language Processing 

เป็นประเภทหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ที่เน้นการทำงานกับภาษาธรรมชาติของมนุษย์ โดยมีจุดประสงค์ในการเข้าใจ ประมวลผล และสร้างความเข้าใจในข้อมูลที่เป็นภาษาธรรมชาติ เช่น ภาษาอังกฤษ Natural Language Processing ยังสามารถใช้สร้างระบบแปลภาษาข้ามภาษา (Machine Translation) ที่สามารถแปลข้อความหรือประโยคจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งได้

Robotics

ระบบ AI ในหุ่นยนต์มุ่งเน้นไปที่การใช้งานในสถานการณ์ที่ต่างกัน การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการพัฒนาหุ่นยนต์ยังเป็นจุดเด่นอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากสามารถทำให้หุ่นยนต์มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น สาขาในวิทยาการหุ่นยนต์แบ่งออกเป็น Soft robotics, Touch robotics และ Humanoid robots


ประสิทธิภาพการทำงานของ AI ดีและเก่งแค่ไหน? 

เทคโนโลยี ai คือ

ประสิทธิภาพการทำงานของ AI คืออะไรบ้าง? เพราะในตอนนี้ AI นั้นถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท นำมาต่อยอดกับเทคโนโลยี พัฒนาเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากมาย จึงทำให้ประสิทธิภาพการทำงาน AI ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของงานหรือปัญหาที่ต้องการแก้ไข, วัตถุประสงค์ของระบบ และความสามารถของโมเดล AI ที่ใช้ 

  • มีความแม่นยำ ในการทำงานที่มากพอที่จะใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
  • ทำงานอัตโนมัติ AI หรือปัญญาประดิษฐ์บางประเภททำงานได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมการทำงาน
  • ความสามารถในการปรับตัว มีประสิทธิภาพในการทำงานตามสถานการณ์และอัปเดตข้อมูลใหม่
  • การทำงานในสภาวะที่ซับซ้อน ด้วยความฉลาดของ AI ที่คล้ายคลึงมนุษย์ มีความสามารถในการทำงานที่ซับซ้อนและประมวลผลออกมาได้ถูกต้อง

สรุป Ai คือ ปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ 

AI สามารถทำงานได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถประมวลผลข้อมูลอย่างเร็วและแม่นยำ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลใหญ่ ๆ หรือการจำแนกข้อมูลที่ซับซ้อน ในปัจจุบันและอนาคตที่เรากำลังเข้าสู่ยุค AI ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและแน่นอนว่าจะมีผลกระทบใหญ่ในหลายด้านของชีวิตมนุษย์ มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแล้ว การรู้จักปรับตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ AI อย่างเกิดประโยชน์ก็จะช่วยให้ชีวิตของมนุษย์ง่ายและสะดวกมากขึ้น

ชื่อ*
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.