“การ “เก็บไข่” คืออะไร และขั้นตอนการเก็บไข่มีอะไรบ้าง?”

การ “เก็บไข่” หรือ “Egg Freezing” เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สุดก้าวล้ำที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะทำให้ผู้หญิงสามารถมีลูกเมื่อไรก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอายุ การเก็บไข่ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถควบคุมการมีบุตรของตนเอง และวางแผนอนาคตครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย!

การเก็บไข่สำคัญอย่างไร แล้ว ขั้นตอนการเก็บไข่มีอะไรที่ผู้หญิงยุคใหม่ควรต้องรู้บ้าง วันนี้เราขอรวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการเก็บไข่มาฝากแล้วในบทความนี้

การ “เก็บไข่” คืออะไร?

การเก็บไข่ หรือ Egg Freezing เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้หญิงเก็บรักษาเซลล์ไข่ไว้เพื่อใช้ในอนาคต โดยแพทย์จะทำการกระตุ้นรังไข่ เพื่อให้รังไข่ผลิตไข่จำนวนมาก เก็บไข่ที่เจริญเติบโตแล้ว โดยใช้เข็มดูดไข่ผ่านช่องคลอด และแช่แข็งไข่ ด้วยเทคนิคพิเศษที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียล และเมื่อต้องการใช้ไข่ แพทย์จะนำไข่ที่แช่แข็งไว้มาละลาย ผสมกับอสุจิด้วยเทคนิค ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) และนำตัวอ่อนที่ได้ไปฝังตัวในโพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนสามารถพัฒนาและเจริญเติบโต

การเก็บไข่ เหมาะสำหรับใครบ้าง?

• ผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป

• ผู้หญิงที่ต้องการมุ่งเน้นการศึกษา การทำงาน หรือไลฟ์สไตล์ก่อน จนไม่สามารถมีบุตรในช่วงอายุก่อน 35 ปี

• ผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก

• ผู้หญิงที่เข้ารับการรักษาโรคบางชนิด เช่น มะเร็ง

• ผู้หญิงที่ต้องการเก็บไข่เพื่อบริจาค

ขั้นตอนการเก็บไข่มีอะไรบ้าง?

              โดยทั่วไป ขั้นตอนการเก็บไข่ มีดังนี้

1. การเตรียมตัวก่อนเก็บไข่

เริ่มแรก คือขั้นตอนของการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย ทั้งในแง่ของการตรวจสุขภาพโดยละเอียด เช่น ตรวจเลือด อัลตราซาวด์ ปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย เตรียมเอกสารและค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการเตรียมตัวด้านอารมณ์

2. การกระตุ้นรังไข่

แพทย์จะจ่ายยาฉีดเพื่อกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่จำนวนมาก ทั้งนี้ยาที่ใช้ก็อย่างเช่น Clomiphene citrate (Clomid) Letrozole (Femara) Gonadotropins (FSH, LH) จากนั้นแพทย์จะติดตามผลการกระตุ้นรังไข่ด้วยอัลตราซาวด์และตรวจเลือด

3. การเก็บไข่

แพทย์จะทำการเก็บไข่โดยใช้เข็มดูดไข่ผ่านช่องคลอด ทั้งนี้ผู้รับบริการจะได้รับยาสลบแบบ IV เพื่อผ่อนคลาย ขั้นตอนจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที

4. การดูแลหลังเก็บไข่

หลังทำการเก็บไข่เรียบร้อย ผู้รับบริการจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ สังเกตอาการผิดปกติ ปรับการกินอาหารตามที่แพทย์แนะนำและหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักที่อาจส่งผลต่อร่างกาย

5. การปฏิสนธิและฝังตัวอ่อน

ไข่ที่เก็บได้จะถูกนำไปผสมกับอสุจิในห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ตัวอ่อนที่ได้จะถูกแช่แข็งไว้ เมื่อต้องการตั้งครรภ์ แพทย์จะนำตัวอ่อนมาละลายและฝังตัวในโพรงมดลูก ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดจะครอบคลุมประมาณ 2-4 อาทิตย์

              การเก็บไข่ เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้หญิงเก็บรักษาเซลล์ไข่ไว้เพื่อใช้ในอนาคต อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะเข้ารับบริการเก็บไข่ แนะนำให้ศึกษาขั้นตอนการเก็บไข่อย่างละเอียด และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้กระบวนการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้