กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษีก็ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน บทความนี้จึงขอรวบรวม 5 เทคนิคที่ควรรู้ก่อนลงทุนกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษีมาฝากกัน
1. เข้าใจความแตกต่างระหว่าง SSF และ RMF
ก่อนลงทุนกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษี สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่าง SSF และ RMF ให้ดีก่อน เพราะทั้งสองกองทุนมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนี้
SSF
ลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
ซื้อหน่วยลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 200,000 บาทและเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อและไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
RMF
ลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
ซื้อหน่วยลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ
ขั้นต่ำในการซื้อครั้งแรก 5,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
2. กำหนดเป้าหมายการลงทุนและระยะเวลา
การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษีควรกำหนดเป้าหมายการลงทุนและระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมกับเป้าหมายของเราได้ เช่น หากต้องการออมเพื่อเกษียณอายุ ควรเลือกกองทุนรวม RMF ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว หากต้องการออมเพื่อใช้ในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ฯลฯ ควรเลือกกองทุนรวม SSF ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
3. เลือกกองทุนรวมให้เหมาะกับความเสี่ยง
กองทุนรวมแต่ละประเภทมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่กองทุนรวมนั้นลงทุน ดังนั้น ควรเลือกกองทุนรวมให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น หากเป็นคนที่มีความเสี่ยงต่ำ ควรเลือกกองทุนรวม SSF หรือ RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก แต่หากเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง ควรเลือกกองทุนรวม SSF หรือ RMF ที่ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก
4. ศึกษาข้อมูลกองทุนรวมอย่างรอบคอบ
ก่อนตัดสินใจลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุนรวมอย่างรอบคอบ โดยอย่างน้อย ควรศึกษาข้อมูลต่อไปนี้
- นโยบายการลงทุนของกองทุนรวม
- ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมย้อนหลัง
- ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม
- ความเสี่ยงของกองทุนรวม
5. กระจายการลงทุน
การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษีควรกระจายการลงทุนในกองทุนรวมหลายประเภท เพื่อสร้างความสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุน และลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์เพียงประเภทเดียว
การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋าและวางแผนการออมเพื่ออนาคต และเทคนิค 5 ข้อนี้ก็จะช่วยทำให้เราเข้าใจถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยง ตลอดจนลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย