การซื้อแบรนด์นาฬิกาหรูเป็นการลงทุนสินทรัพย์อีกประเภทที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยนอกจากคุณสมบัติเด่นว่าด้วยมูลค่าที่ไต่ระดับสูงขึ้นตามระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป การถือนาฬิกาหรูเอาไว้ ก็ยังมีความเสี่ยงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ที่สำคัญ นักลงทุนยังสามารถสวมใส่นาฬิกาหรูนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมได้ด้วย!
ทว่า แม้จะเซฟกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่การซื้อนาฬิกาหรูก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการลงทุนสินทรัพย์ประเภทนี้ ว่าแล้วก็กำเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วมาส่องเทคนิคดี ๆ ข้างล่างนี้เลย!
1. แบรนด์ต้องมีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในตลาด
แม้จะเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูเหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าทุกแบรนด์จะเหมาะกับการลงทุนไปเสียหมด ดังนั้น แนะนำให้เลือกลงทุนกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก เพราะมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมากกว่า ตัวอย่างเช่น Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet, Cartier, Omega, Jaeger-LeCoultre เป็นต้น
2. เลือกรุ่นที่ได้รับความนิยม มีเอกลักษณ์เฉพาะ
นาฬิกาหรูแต่ละแบรนด์มักมีรุ่นฮิตที่หลายคนอยากได้ไว้ในครอบครองไม่เหมือนกัน บางรุ่นก็เป็นรุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตออกมาจำกัด บางรุ่นก็เป็นรุ่นสีหายากที่ผลิตเฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น ทำให้ราคามีแนวโน้มสูงมากกว่ารุ่นทั่วไป ทว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความเป็นรุ่นยอดฮิต สิ่งที่นักลงทุนต้องเตรียมใจก็คือการหาซื้อนาฬิการุ่นเหล่านี้ก็จะยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว โดยบางร้านอาจมีเงื่อนไขการซื้อว่าด้วยการที่ต้องซื้อรุ่นอื่น ๆ เพื่อทำยอดก่อน หรือต้องทำการซื้อพ่วงกับรุ่นธรรมดา ดังนั้น ก็อาจทำให้เงินลงทุนอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาป้ายปกติ ตัวอย่างรุ่นยอดฮิตที่ลงทุนเมื่อไรก็ได้ราคาดี เช่น Rolex Submariner, Rolex Daytona, Patek Philippe Nautilus, Audemars Piguet Royal Oak, Cartier Santos เป็นต้น
3. สภาพนาฬิกาต้องสมบูรณ์ เหมาะสมกับราคา
ในกรณีที่ไม่ได้ซื้อจากหน้าร้าน แต่ซื้อมือสองจากนักลงทุนด้วยกัน แนะนำให้ตรวจเช็กสภาพของนาฬิกาอย่างละเอียด เนื่องจากสภาพของนาฬิกามีผลต่อมูลค่าที่จะนำไปลงทุนต่ออย่างมาก โดยนาฬิกาที่มีสภาพดีและสมบูรณ์ ก็จะได้รับความนิยมมากกว่านาฬิกาที่มีรอยขีดข่วน
4. ศึกษาราคาตลาดสม่ำเสมอ
ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อแบรนด์นาฬิกาหรูสักแบรนด์ แนะนำให้ศึกษาราคาตลาดเสียก่อน เพื่อตรวจสอบว่าราคาซื้อนั้น ๆ หากนำมาขาย จะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Rolex Submariner Date รุ่น 116610LV ราคาซื้อขายมือสองในปี 2010 อยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท แต่ในปี 2023 ราคาซื้อขายมือสองอยู่ที่ประมาณ 1,000,000 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 500% หากมีข้อมูลดังต่อไปนี้ก็จะช่วยให้ประเมินได้ว่าควรขายออกในช่วงใด หรือควรเก็บไว้เพื่อรอให้ราคาขึ้นอีกในอนาคต
5. ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
แหล่งสำหรับซื้อแบรนด์นาฬิกาหรูที่เชื่อถือได้ เช่น ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือร้านรับซื้อนาฬิกามือสองที่มีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ที่เคยซื้อจากร้านนั้น ๆ มาก่อน ก็จะช่วยให้มั่นใจว่านาฬิกาที่ซื้อมานั้นเป็นของแท้และมีคุณภาพ
การลงทุนในแบรนด์นาฬิกาหรูสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ไม่แพ้สินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและเทคนิคต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและลดความเสี่ยงที่อาจขาดทุนได้มากที่สุด
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย