คนที่ไม่คุ้นเคยกับการทำโฆษณาบนโลกดิจิทัลจะมองว่าการซื้อโฆษณาในอินเทอร์เน็ตเหมือนๆ กันหมด แต่ความเป็นจริงแล้วแต่ละที่ก็มีความแตกต่างกัน ทั้งในการใช้งาน ในการตั้งค่าหลังบ้าน ไม่ต่างอะไรกับแบรนด์ยี่ห้อน้ำอัดลม ที่เป็นน้ำอัดลมเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน โดยเฉพาะ Google Ads ที่มีโฆษณาบนสื่อเฉพาะของตัวเอง

โดย Google Ads มีโฆษณาที่ตอบโจทย์สำหรับเว็บไซต์ในเครือของกูเกิ้ลเป็นหลัก ซึ่งจะไม่ได้ควบรวมไปกับโซเชียลมีเดียอย่างพวก Facebook / Instagram เป็นต้น ดังนั้นการซื้อโฆษณากับกูเกิ้ลจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทำในเฟสบุ๊กหรืออินสตาแกรม

โดยบริการและโฆษณาของ Google ที่เราเห็นบ่อยๆ นั่นมีหลายตัว ได้แก่ :

1.Google Search

การเสิร์ชที่เราทำกันมาเป็นสิบๆ กว่าปีก่อนถือว่าเป็นเครื่องมือในการทำโฆษณาที่ทรงพลังมาก เพราะทุกวันนี้วันหนึ่งคนก็ยังเข้ากูเกิ้ลในการหาข้อมูล เลือกซื้อสินค้า และต่อยอดการค้นหาไปสู่ช่องทางอื่นๆ ซึ่งแบรนด์สามารถเลือกใช้ Keyword ที่มีการค้นหาสูงๆ เพื่อช่วยการค้นหาและทำให้เว็บไซต์ของลูกค้าติดอยู่ในอันดับต้นๆ ในการเสิร์ชได้

2.Google Display Network (GDN)

เคยไหมที่เข้าเว็บแล้วเห็นพวกแบนเนอร์ต่างๆ ด้านบน ด้านซ้ายมือ โดยบางครั้งก็ดูเหมือนจะตรงใจเราซะด้วยสิว่าเราสนใจ นั่นเป็นเพราะว่ามันคือ Google Display Network (GDN) ที่สามารถเลือกยิงโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของเราได้ ซึ่งหน้าที่หลักๆ คือทำให้แบรนด์เกิด Awareness และลูกค้าสามารถจดจำ Key message สั้นๆ ที่เราอยากจะสื่อสารได้ 

โดยปกติเรามักจะเห็นแบนเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บที่เรากำลังใช้งาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดคลิกได้ และแน่นอนว่าแต่ละคลิกของลูกค้า สามารถเก็บเป็นข้อมูลหลังบ้าน Google Ads จะโฆษณาเพื่อดูว่าแต่ละแบนเนอร์ที่ขึ้นตามเว็บตัวไหนทำหน้าที่ได้ดี ซึ่งทำให้เราสามารถเลือกปรับได้ เช่น เพิ่มในเว็บที่ยอดคลิกดี ถอดตอนที่ไม่สามารถทำยอดได้ หรือจะหั่นงบโฆษณาไปไว้ที่อื่น 

3.Mobile App Ads

Google Ads ยังมีโฆษณาที่โฆษณาผ่านแอปพลิเคชัน โดยแอปตัวไหนที่มี Google เป็น partner เราก็สามารถเห็นข้อความโฆษณาบนแอปนั้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะมือถือจากฝั่งแอนดรอยเนื่องจาก Play Store จะนับเป็น Google Partner อยู่แล้ว บางครั้งก็มาในรูปของโฆษณาคั่น ไม่ว่าจะเล่นเกมอยู่แล้วมีโฆษณาเด้งมา ใช้งานแอปแล้วขึ้นแบนเนอร์ให้เรากดปิด เป็นต้น

4.Google Shopping Ads

บางครั้งที่เรากดเสิร์ชกูเกิ้ล นอกจากผลลัพธ์ที่ได้ก็มีแถบสินค้าพร้อมราคาให้กดสั่งซื้อ นี่คือ Google Shopping Ads ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายได้เร็วขึ้น เสิร์ชปุ๊ปซื้อได้ทันที ไม่ต้องกดเข้าเว็บไซต์หาสินค้าให้เสียเวลา 

Google Ads ยังมีโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบอื่นอยู่อีก และที่สำคัญคือกูเกิ้ลเองก็มีการปรับตัว พัฒนาช่องทางในการเข้าถึงผู้คนมากขึ้น