สมัยนี้ใครๆ ก็เข้าสู่วงการขายของออนไลน์กันแล้วทั้งสิ้น คำนี้ฟังดูผิวเผินอาจจะใช้ได้ในทุกๆ วงการ แต่สำหรับใครที่อยู่ในวงการวัสดุก่อสร้างทั้งหลายถ้าหากจะทดลองขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ดูแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากสินค้าจำพวกวัสดุก่อสร้างนั้นมีความแตกต่างจากสินค้าที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วๆ ไป เป็นสินค้าที่ผู้ซื้อต้องลงมาดูหน้างานด้วยตนเองเนื่องด้วยเรื่องของขนาดสินค้า, ไซซ์ รวมไปถึงราคาที่ค่อนข้างสูง อาจจะทำให้ปิดการขายผ่านช่องทางออนไลน์ค่อนข้างยาก แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป บวกกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้วยแล้วนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าการขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์จะไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามยังคงมีวิธีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในส่วนนี้อยู่ เพื่อให้ธุรกิจยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ในช่วงที่ลูกค้าไม่สามารถเดินทางเข้ามาเลือกซื้อสินค้าที่หน้าร้านได้ด้วยตนเอง แต่จะมีวิธีอย่างไรที่เจ้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างควรทราบบ้าง บทความนี้มีเคล็ดลับดีๆ มาฝาก

เข้าใจระบบ E-Commerce ของตลาดวัสดุก่อสร้างในไทย

    ด้วยความที่สินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างนั้นเป็นสินค้าที่ไม่ได้เหมือนสินค้าประเภทอื่นๆ ที่จำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ทั่วไป ดังนั้นการจะนำเอาสินค้าประเภทนี้เข้าสู่ระบบออนไลน์หรือ E-Commerce นั้นเจ้าของร้านก็มีหน้าที่ในการทำความเข้าใจองค์ประกอบของธุรกิจประเภทนี้โดยคร่าวๆ โดยอาจจะเริ่มต้นที่การ ‘สร้างความน่าเชื่อถือ’ เพื่อเตรียมความพร้อมในการขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหน้าเว็บไซต์ขึ้นมาเป็นของตนเอง, การสร้าง Facebook Fanpage ของทางหน้าร้านโดยตรงเพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อและค้นหาข้อมูลสินค้า นอกจากนี้เจ้าของร้านเองอาจจะเลือกวิธีการทำ Testimonial เพื่อเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายว่าเลือกซื้อสินค้าจากร้านขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ของเราไปแล้วสินค้าจะถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ฯลฯ

เตรียมระบบหลังบ้านให้พร้อม

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการเลือกขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์นั่นก็คือการเตรียมความพร้อมและพัฒนาระบบหลังบ้านให้พร้อมสำหรับการใช้งานอย่างเสมอ ในทุกๆ ครั้งที่มีออร์เดอร์จากลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ระบบหลังบ้านของทางร้านจะต้องสามารถตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบ CRM (Customer Relationship Management) หรือระบบ Sales Force Automation ซึ่งเป็นระบบที่ทางร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างจำเป็นต้องลงทุน ทั้งนี้ระบบต่างๆ ที่เกริ่นไปในข้างต้นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นระบบที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและเหมาะกับร้านค้าประเภทวัสดุก่อสร้างมากที่สุด เข้ามาช่วยรองรับออร์เดอร์ต่างๆ ของลูกค้าแทนแรงงานคน ป้องกันออร์เดอร์ตกหล่น ลูกค้าชำระเงินแล้วยังไม่ได้รับสินค้า ฯลฯ ซึ่งเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปหากเจ้าของร้านเลือกที่จะขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ ตัวระบบ CRM หรือ Sales Force ก็จะเข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้และทำให้ระบบภายในร้านเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ระบบ Logistic ที่ใช้ในการขนส่งต้องแข็งแรง

    เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการปลายน้ำของการขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้การจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์ก่อสร้างนั้นถือเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ ทั้งคนจำหน่ายและลูกค้าที่ซื้อสินค้าประเภทนี้เป็นประจำ แต่ก็เหมือนที่เกริ่นไปแล้วในข้างต้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องใหม่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ การพัฒนาระบบการจำหน่ายออนไลน์ให้ดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุด รวมไปถึงตัวระบบการขนส่ง หรือ Logistics เองที่อาจเป็นตัวตัดสินและสร้างความเชื่อใจให้ลูกค้าในการย้อนกลับมาใช้บริการขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์จากทางร้านเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการพัฒนาระบบ Logistics ให้ดี จัดส่งได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดตามสถานะการจัดส่งในระหว่างทางได้ สินค้าถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพไม่มีเสียหาย ก็ถือว่าเป็นการสร้างข้อได้เปรียบได้มากเลยทีเดียว

    เพื่อเป็นการปรับตัวและการนำพาธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเข้าสู่ระบบ E-Commerce อย่างเต็มตัว หากสามารถเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตามข้อแนะนำทั้งหมดที่กล่าวไปในข้างต้นได้ โอกาสที่ลูกค้าหรือผู้บริโภคจะหันมาสนใจและใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ก็คงเป็นไปได้ไม่ยากแล้วล่ะ