เตรียมตัวต้อนรับการเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่ด้วยคำศัพท์สำคัญที่คุณควรรู้! ในช่วงปีนี้มีคำศัพท์ใหม่หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว นั่นก็คือคำว่า Technology Disruption นั่นเอง ซึ่ง Technology Disruption คือการที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาจนเข้ามา Disrupt หรือส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ทำให้แวดวงธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจแล้ว อาจส่งผลกระทบไปถึงการเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของคนในสังคมอีกด้วย

สิ่งสำคัญนอกจากการทำความรู้จักว่า Technology Disruption คืออะไร เรามาดูกันว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีนั้นจะส่งผลกระทบและทำให้รูปแบบการทำงานในยุคอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน

    เพราะ Technology Disruption คือการที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาจนเข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ จึงมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ ๆ ระบบ AI ที่ชาญฉลาดที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกิจ ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ ก็คือ สมัยนี้มีระบบ Chat Bot ที่ช่วยให้ผู้ที่ทำธุรกิจขายสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมาก รวมไปถึงซอตฟ์แวร์ต่าง ๆ ที่ทำให้การบริหารจัดการในองค์กรเป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายดายมากยิ่งขึ้น

ทำงานแบบ Remote

    การทำงานแบบ Remote, Work from home หรือ Work from everywhere นั้น เป็นเทรนด์การทำงานรูปแบบใหม่ที่เริ่มมีมาในระยะหนึ่ง และอาจจกล่าวได้ว่าสถานการณ์โรคระบาดนั้นเป็นตัวเร่งให้สิ่งนี้เกิดขึ้นรวดเร็วยิ่งขึ้น จนทำให้ปัจจุบันหลายองค์กรมีการปรับรูปแบบการทำงานไปเป็นแบบ Remote อย่างเต็มตัว เพราะมีข้อดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายเรื่องสถานที่ การช่วยให้พนักงานมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ส่งผลต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า Technology Disruption คือการที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตการทำงานในยุคนี้อย่างมากมายทีเดียว และในอนาคต การทำงานแบบ Remote อาจส่งผลให้บริษัทเติบโตได้รวดเร็วขึ้น เพราะสามารถจ้างพนักงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากทางไกลหรือต่างประเทศให้เข้ามาทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกมากกว่าเดิม

Soft Skills ยิ่งสำคัญ

    อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า Technology Disruption คือการที่เทคโนโลยีเข้ามากระทบจนทำให้การดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นสำหรับคนทำงาน Soft Skills จึงสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้สามารถเรียนรู้และรับมือกับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้ ไม่ว่าจะเป็น Adaptibility หรือความสามารถในการปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์, Creative หรือความคิดสร้างสรรค์ อันหมายถึงความสามารถในการประยุกต์และพลิกแพลงโอกาสต่าง ๆ รอบตัว และ Willingness to Learn หรือความใฝ่รู้ 

    จากบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่กำลังสนใจเรื่องเทคโนโลยีและได้รู้กันมากขึ้นแล้วว่า  Technology Disruption คืออะไร ถึงแม้จะมีกระแสว่าในอนาคตแรงงานคนจะถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่สิ่งสำคัญก็คือคนทำงานอย่างเราควรหมั่นเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เช่นการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ รวมถึงหาเวลาในการฝึกฝนตัวเอง สร้างเสริมทักษะใหม่ ๆ หาความรู้เพิ่มเติม เพียงเท่านี้ไม่ว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คุณเองก็สามารถเป็นคนหนึ่งที่อยู่รอดและเติบโตได้ในทุกการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน