ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร?
ย้อนกลับไปในปี 1950 อลัน ทัวริง ได้ทำการทดสอบครั้งสำคัญที่พลิกประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ทัวริง ได้ทำการทดสอบ Turing Test ที่ทดสอบว่า เครื่องจักรกลนั้นสามารถคิดได้เฉกเช่นมนุษย์ไหม นับว่าการทดสอบครั้งนั้นของทัวริง เป็นจุดกำเนิดของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เลยก็ว่าได้ ถึงอย่างไรก็ตามเทคโนโลยีประเภทนี้ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักทั่วไป มีแค่เพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่เริ่มให้ความสนใจกับวิทยาการตัวนี้ ปัญญาประดิษฐ์คือหัวข้อที่ทุกคนไม่พูดถึงไม่ได้ เมื่อ Apple ทำการเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ที่เหล่าสาวก Apple รู้จักกันเป็นอย่างดี “Siri” ในปี 2011 ผู้คนทั่วไปจึงได้ใกล้ชิดกับปัญญาประดิษฐ์มากกว่าที่เคย แทบจะกล่าวได้ว่าในยุคนั้นไม่มีผู้ใช้งานคนใดไม่ลองใช้ฟังก์ชันการออกคำสั่งเสียงกับ Siri นับว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของมนุษย์ที่ให้สมองจักรกลลงมาช่วยทำงานง่าย ๆ ผ่านเครื่องมือสื่อสารนั่นเอง
ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์คืออะไร?
ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง? นั่นคงเป็นคำถามที่ทุกคนสงสัย และอยากตอบตัวเองให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น หากจะอธิบายให้ง่ายนั่นก็คือ การที่เครื่องจักรเกิดการเรียนรู้และเลียนแบบการคิด แก้ปัญหา และหาคำตอบ เหมือนที่มนุษย์ทำ โดยเราสามารถจำแนกปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1.Artificial Narrow Intelligence (ANI)
เป็น AI ที่เน้นการแก้ปัญหาที่จำกัด หรือจัดการงานได้ประเภทเดียว ตัวอย่างที่ทุกคนรู้จักเช่น Siri (Apple), Alexa (Amazon) หรือ Cortana (Windows)
2.Artificial General Intelligence (AGI)
AI ตัวนี้เป็นขั้นกว่าที่ผสานความอัจฉริยะขั้นเดียวกับมนุษย์ งานสร้างสรรค์ที่มนุษย์ทำได้ AI ประเภทนี้ก็สามารถทำได้อย่างใกล้เคียง เช่น ระบบจดจำใบหน้า
3.Artificial Super Intelligence (ASI)
และนี่คือขั้นสูงสุดของ AI ใช้การทำงานที่เหนือกว่าความสามารถของมนุษย์ AI ขั้นนี้สามารถพบได้บ่อยในภาพยนตร์ หนังสือนิยายแนววิทยาศาสตร์ ที่หุ่นยนต์สามารถตัดสินใจแบบมีเหตุผล หรือมีความสามารถทางด้านศิลปะร่วมด้วยเป็นต้น ซึ่งในอนาคตอันใกล้เราคงได้เห็น AI ขั้นนี้แน่ ๆ
อุตสาหกรรมใดบ้างที่มีการนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้
ปัจจุบันในหลายอุตสาหกรรมที่นำเทคโนโลยีประเภทนี้เข้ามาช่วยในการทำงาน และหากมีการผลักดันให้ใช้อย่างกว้างขวางก็จะสร้างผลประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น
ด้านการเกษตร ปัจจุบันมีการทำ Smart Farming ที่ใช้การเก็บข้อมูลที่สำคัญสำหรับเกษตรกร และให้ AI ในการช่วยประมวลข้อมูลที่ส่งเสริมให้การประกอบอาชีพนั้นสะดวกสบายมากขึ้น
ด้านการตลาด การรวบรวม Big Data และนำมา Forecast ยอดการขาย หรือการสร้างคำถาม คำตอบอัตโนมัติ เป็นต้น
และในส่วนด้านการแพทย์ที่ใช้ระบบ AI เข้ามาในการช่วยวินิจฉัยโรคร้ายแรง เช่นมะเร็ง ให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นไปอีก
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีชนิดนี้กลายเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในชีวิตของเราทุกคน การนำเทคโนโลยีมาใช้ให้ถูกทางก็ถือเป็นการช่วยทุ่นแรงในการทำงานที่ซ้ำซ้อนและช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม อาจกล่าวได้ว่าอาชีพใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ คืออาชีพที่เป็นที่ต้องการและสำคัญมากเป็นอย่างยิ่งในอนาคต เพราะในไม่นานเทคโนโลยีจะยิ่งคงความสำคัญและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเป็นอย่างแน่นอน ดังนั้นการศึกษาในเรื่องที่เป็นความต้องการ และมีคู่แข่งในตลาดน้อยก็ย่อมเปิดโอกาสให้เราได้มากกว่าที่เคย
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย