รายละเอียดกระทู้
เจ้าของกระทู้
:
ว/ด/ป เวลา
: 11/04/13 02:25:46 AM
เลขไอพี
: 171.98.56.59
หัวข้อ
: ความลับของคุกในเกาหลีเหนือ ตอนที่1
รายละเอียด
:

ความลับของคุกในเกาหลีเหนือ 

ตอนที่ 1



แผนที่จากกุเกิล

 

เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ลึกลับที่สุดในโลกแห่ง หนึ่ง ลึกลับทั้งจากข้างนอกและภายนอก เพราะเกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด ห้ามบุคคลใดๆ ภายนอกเข้ามา ยกเว้นกรณีพิเศษ เช่น งานเทศกาล หรือผู้นำอนุญาต
 
เกาหลีเหนือขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษย์ชนอย่างน่าสะพรึงกลัว ที่สุดในโลก รายงานที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เรามักได้ยินข่าวการทรมาน การจับอดอาหาร การประหารชีวิต การใช้แรงงานเยี่ยงทาส การบังคับให้ทำแท้ง การฆ่าเด็กทารก การจับคนบริสุทธิ์ด้วยข้อหาเล็กๆ น้อย โดยไม่มีการไต่สวน
 
แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือค่ายกักกัน(รู้จักในนาม GULAG) ค่ายกักกันเหล่านี้พูดซะเพราะ แต่หลายคนเรียกมันว่านรกบนดิน ขนาดของมันพอๆ กับเมืองเล็กๆ แต่ละแห่งจะมีคน 5000- 50000 คนล่าสุด แต่ถ้าเอามารวมกันจะมียอดนักโทษถึง 150000-200000 คนทีเดียว
 
นักโทษในนิคมนี้ส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่น ครอบครัวเจ้าของที่ดิน นายทุน สายลับ(ที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า) ผู้สนับสนุนเกาหลีใต้ คริสเตียน นักรณรงค์ศาสนา และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง คนที่ทำผิดเหล่านี้ต้องถูกส่งตัวเข้าค่ายกักกังแล้วแต่ความผิดที่ได้รับ บางคน 10 ปี บางคน 3 เดือน หรือบางคนตลอดชีวิตก็ยังมี แต่ขอบอกว่าเพียงแค่คุณเห็นสภาพคุกและความเป็นอยู่ของนักโทษเหล่านี้ขอบอก เลยว่า”อยู่วันเดียวก็ไม่ไหวแล้ว”, “โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย”
 
มีบางคนเถียงว่า “พวกนั้นทำผิดเองนี้ช่วยไม่ได้” ก็ขอตอบเลยว่า คดีต่างๆ ของนักโทษที่จองจำค่ายกักกันนั้น กระบวนการตัดสินส่วนใหญ่ไม่เป็นธรรม หลายคนที่รอดจากค่ายนี้ได้บอกว่าหลายคนโดนขังคุกแห่งนี้ด้วยข้อเล็กๆ น้อยๆ เช่น ทำรูปผู้นำเปื้อน ฉีกขาด, ทำผลผลิตไม่ตรงเป้าหมาย, โดนใส่ร้าย ฯลฯ แต่กรณีที่เลวร้ายกว่านั้นคือโนจำคุกทั้งครอบครัว ทั้ง พ่อ แม่ ปู ย่า ตา ยาย ลูก โดนหมด
 
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช้เรื่องเกิดขึ้นในอดีต และยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแต่อย่างใด ย้ำไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะผู้นำมองนักโทษเหล่านั้นไม่ใช้มนุษย์ ต่ำยิ่งกว่าสัตว์ เลยมีการสร้างคุกนรกนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนหวาดกลัว และเมื่อมีผู้หลบหนีและเล่าเรื่องราวเหล่านี้ฟัง โลกถึงกับช็อกเรื่องที่คนเหล่านี้เล่า จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง โอเวอร์ไปหรือเปล่า อีกทั้งรัฐบาลเกาหลีมักปฏิเสธว่าประเทศของตนไม่มีค่ายนรกแห่งนี้ แต่จากหลักฐาน จากการเขียนผังภาพ และเอามาเปรียบเทียบ กับภาพถ่ายทางอากาศ ก็พบว่ามันเป็นเรื่องจริง!!
 
คนเหล่านี้ด้วยทุกข์ทรมาน บางคนตายอย่างน่าสมเพส ในคุกแห่งนั้น
 
เชื่อหรือไม่จนบัดนี้คุกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น อดีตจะเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น...!!
 
        ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันคือ คิม จอง อิล (ลูกชายของ คุม อิล ซุง เผด็จการคนแรกของเกาหลีเหนือ) ผู้สืบทอดมรดกเกาหลีเหนือ ที่มีระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนเต็มตัว
 
กล่าวคือ รัฐบาลกลางภายใต้การนำของผู้นำเผด็จการ เป็นผู้กำหนดว่า จะผลิตสินค้าบริการอะไร ด้วยวิธีใด ผลิตแล้วใครจะเป็นคนได้ไปบริโภค โดยไม่มีตัวละคร คือผู้ผลิตเอกชนในเศรษฐกิจแต่อย่างใดเป็นผู้ร่วมเล่น ทั้งหมดดำเนินไปโดยการสั่งของรัฐบาลกลางทั้งสิ้น (ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย)
 
คำถามว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะผลิตข้าว ผักผลไม้ และบริการอื่นมากน้อยแค่ใด ใครเป็นคนผลิตและใครได้ไปบริโภค
 
คำตอบก็คือ รัฐบาลกลาง ต้องคาดเดาเอาเองทั้งสิ้น เพราะไม่มีการอนุญาตให้มีเอกชนเป็นผู้ผลิต
 
หากถามต่อไปอีกว่า แล้วถ้าผลิตออกมามากไป จนไม่มีคนบริโภคหรือน้อยไปจนไม่พอบริโภคจะทำอย่างไร
 
คำตอบแบบกวนๆ ก็คือ ต้องทำอย่างระวัง เพราะมันเป็นปัญหาปวดหัว เกิดการเหลือ และขาด ซึ่งก็คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอยู่แล้วอย่างขาดประสิทธิภาพนั่นเอง การขาดแคลนแรงจูงใจในการดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจ เพราะแต่ละคนไม่ได้ประโยชน์โดยตรง แต่ต้องการทำงานให้รัฐด้วยอุดมการณ์ ขัดแย้งอย่างฉกรรจ์กับความโลภที่มนุษย์ส่วนใหญ่มีเป็นเจ้าเรือน
 
ทั้งพ่อลูกเผด็จการจึงมีปัญหาเรื่องความขาดแคลนอาหารสำหรับประชาชนมาโดยตลอด เมื่อถูกซ้ำเติมด้วยภูมิอากาศแปรปรวนก็ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงยิ่งขึ้น
 
ครั้นประชาชนจะหนีออกนอกประเทศก็ห้ามเด็ดขาด (ถ้าอนุญาตอาจเหลือแต่คิม จอง อิล คนเดียว) หากจับได้ก็ตาย หรือไม่ก็ถูกส่งไปอยู่ค่ายนรก
 
ค่ายนรกจึงเปรียบเสมือนเสาสำคัญของการรักษาอำนาจไว้ เพราะมันสร้างอาณาจักรแห่งความกลัว ที่ทุกคนไม่กล้าหือ
 
ค่ายนรกแห่งนั้นพูดง่ายๆคือเป็นมรดกสืบทอดมาจากพ่อของคิม จอง อิล นอกเหนือจากถูกสร้างขึ้นมา เพื่อทรมาน และทำลายนักโทษ มันยังเป็นที่ "คั้น" แรงงานออกมา โดยให้ทำงานหนักแบบแคมป์ของนาซี และโซเวียต(แต่ของเกาหลีเหนือโหดกว่า) โดยการแต่ละอย่างล้วนหนักทั้งสิ้น เนื่องจากสินค้าส่งออกที่สำคัญคือเกาหลีเหนือคือเหมืองแร่ ถ่านหิน นักโ?ษต้องทำงานในสภาพอาการเลวร้ายสุดๆ บางคนทำงานจนตายไปเลยก็มี
 
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของคุกนรกแห่งนี้คือ อาหาร ไม่ใช้อาหารห่วยแต่อย่างใด แต่ไม่มีอาหารเลยต่างหาก เพราะอาหารที่ใหน้อยมากๆ เพราะประเทศเกาหลีเหนืออาหารขาดแคลนอย่างรุนแรงทั้งประเทศ มาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 แล้ว ดังนั้นนักโทษส่วนมากมักตายเพราะขาดอาหาร บางคนต้องกินเศษอาหารหมูเพื่อเอาชีวิตรอด(ถ้าจับได้จะโดนยิง) หนูเป็นแหล่งโปรเท้าสำคัญ
 
 
ถามว่ารู้ทั้งรู้ว่ามีการทรมาน มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทำไมต่างประเทศถึงอยู่เฉย
 
ก็ตอบว่าเพราะประเทศเหล่านี้ไม่กล้ามีเรื่อง โดยเฉพาะเกาหลีใต้แต่ดั้งเดิมนั้นก็ไม่อยาก "เหยียบเท้า" ของทั้งพ่อ และลูกเผด็จการ กลัวจะเกิดปัญหาวุ่นวายตามมา จึงไม่ค่อยกล้ารับพวกที่หนีมาอย่างเปิดเผย ทำได้แต่แกล้งมองไปอีกทาง หรือทำไม่รู้ไม่เห็น ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้มันไม่เป็นเรื่องขึ้นมา ก็คือผู้นำเกาหลีใต้กี่คนที่ผ่านมาก็ไม่พูดเรื่องนี้ หรือทำให้เรื่องนี้สำคัญขึ้นมาก็ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีจีนที่เป็นมิตรแนบแน่นกับเกาหลีเหนือ ถ้ามีเรื่องก็ต้องพูดกับจีน
 
สำหรับประเทศไทย คุณคิดว่าไทยนั้นมีความสัมพันธ์กับดีกับเกาหลีใต้เหรอ ขอตอบว่าผิด ถ้าเราดูวีพีมีเดียจะพบว่าเกาหลีเหนือนี้แหละที่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุด โดยดูยอดการค้าระหว่างประเทศพบว่ายอดการค้ากับไทยของเกาหลีเหนือนั้นเป็น อันดับ 3 ของเกาหลีเหนือ โดยดูจากปี 2007 ถึง 229 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
 
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อการเมืองระหว่างไทยกับเกาหลีเหนือจนได้ ในกรณี การ ลักพาตัว “อโนชา ปันจ้อย” หญิงสาวลูกชาวนา ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือ เมื่อปี พ.ศ. 2521 ระหว่างที่ไปทำงานในร้านเสริมสวยยังเกาะมาเก๊า ซึ่งเราคงทราบกันดีว่าเกาหลีเหนือนั้นชอบลักพาตัวชาวต่างชาติ และบังคับมาเป็นประชาชนในเกาหลีเหนือ ถ้าไม่ยอมก็ถูกส่งไปค่ายกักกังนรก
 
สำหรับชาวเกาหลีเหนือที่อพยพมาไทยนั้น ปัจจุบันมียอดประมาณ 1000 คน ซึ่งส่วนมากไทยมักทำจับกุม แต่ไม่ส่งไปเกาหลีเหนือแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลไทยรู้ดีถ้าส่งประเทศนี้ละก็ซะตากรรมของผู้อพยพนั้นต้องรับคือ อะไร....

ติดตามอ่านตอนที่ 2 ได้ในวันถัดไปครับ

เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ลึกลับที่สุดในโลกแห่ง หนึ่ง ลึกลับทั้งจากข้างนอกและภายนอก เพราะเกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด ห้ามบุคคลใดๆ ภายนอกเข้ามา ยกเว้นกรณีพิเศษ เช่น งานเทศกาล หรือผู้นำอนุญาต
 
เกาหลีเหนือขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษย์ชนอย่างน่าสะพรึงกลัว ที่สุดในโลก รายงานที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เรามักได้ยินข่าวการทรมาน การจับอดอาหาร การประหารชีวิต การใช้แรงงานเยี่ยงทาส การบังคับให้ทำแท้ง การฆ่าเด็กทารก การจับคนบริสุทธิ์ด้วยข้อหาเล็กๆ น้อย โดยไม่มีการไต่สวน
 
แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือค่ายกักกัน(รู้จักในนาม GULAG) ค่ายกักกันเหล่านี้พูดซะเพราะ แต่หลายคนเรียกมันว่านรกบนดิน ขนาดของมันพอๆ กับเมืองเล็กๆ แต่ละแห่งจะมีคน 5000- 50000 คนล่าสุด แต่ถ้าเอามารวมกันจะมียอดนักโทษถึง 150000-200000 คนทีเดียว
 
นักโทษในนิคมนี้ส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่น ครอบครัวเจ้าของที่ดิน นายทุน สายลับ(ที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า) ผู้สนับสนุนเกาหลีใต้ คริสเตียน นักรณรงค์ศาสนา และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง คนที่ทำผิดเหล่านี้ต้องถูกส่งตัวเข้าค่ายกักกังแล้วแต่ความผิดที่ได้รับ บางคน 10 ปี บางคน 3 เดือน หรือบางคนตลอดชีวิตก็ยังมี แต่ขอบอกว่าเพียงแค่คุณเห็นสภาพคุกและความเป็นอยู่ของนักโทษเหล่านี้ขอบอก เลยว่า”อยู่วันเดียวก็ไม่ไหวแล้ว”, “โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย”
 
มีบางคนเถียงว่า “พวกนั้นทำผิดเองนี้ช่วยไม่ได้” ก็ขอตอบเลยว่า คดีต่างๆ ของนักโทษที่จองจำค่ายกักกันนั้น กระบวนการตัดสินส่วนใหญ่ไม่เป็นธรรม หลายคนที่รอดจากค่ายนี้ได้บอกว่าหลายคนโดนขังคุกแห่งนี้ด้วยข้อเล็กๆ น้อยๆ เช่น ทำรูปผู้นำเปื้อน ฉีกขาด, ทำผลผลิตไม่ตรงเป้าหมาย, โดนใส่ร้าย ฯลฯ แต่กรณีที่เลวร้ายกว่านั้นคือโนจำคุกทั้งครอบครัว ทั้ง พ่อ แม่ ปู ย่า ตา ยาย ลูก โดนหมด
 
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช้เรื่องเกิดขึ้นในอดีต และยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแต่อย่างใด ย้ำไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะผู้นำมองนักโทษเหล่านั้นไม่ใช้มนุษย์ ต่ำยิ่งกว่าสัตว์ เลยมีการสร้างคุกนรกนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนหวาดกลัว และเมื่อมีผู้หลบหนีและเล่าเรื่องราวเหล่านี้ฟัง โลกถึงกับช็อกเรื่องที่คนเหล่านี้เล่า จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง โอเวอร์ไปหรือเปล่า อีกทั้งรัฐบาลเกาหลีมักปฏิเสธว่าประเทศของตนไม่มีค่ายนรกแห่งนี้ แต่จากหลักฐาน จากการเขียนผังภาพ และเอามาเปรียบเทียบ กับภาพถ่ายทางอากาศ ก็พบว่ามันเป็นเรื่องจริง!!
 
คนเหล่านี้ด้วยทุกข์ทรมาน บางคนตายอย่างน่าสมเพส ในคุกแห่งนั้น
 
เชื่อหรือไม่จนบัดนี้คุกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น อดีตจะเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น...!!
 
        ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันคือ คิม จอง อิล (ลูกชายของ คุม อิล ซุง เผด็จการคนแรกของเกาหลีเหนือ) ผู้สืบทอดมรดกเกาหลีเหนือ ที่มีระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนเต็มตัว
 
กล่าวคือ รัฐบาลกลางภายใต้การนำของผู้นำเผด็จการ เป็นผู้กำหนดว่า จะผลิตสินค้าบริการอะไร ด้วยวิธีใด ผลิตแล้วใครจะเป็นคนได้ไปบริโภค โดยไม่มีตัวละคร คือผู้ผลิตเอกชนในเศรษฐกิจแต่อย่างใดเป็นผู้ร่วมเล่น ทั้งหมดดำเนินไปโดยการสั่งของรัฐบาลกลางทั้งสิ้น (ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย)
 
คำถามว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะผลิตข้าว ผักผลไม้ และบริการอื่นมากน้อยแค่ใด ใครเป็นคนผลิตและใครได้ไปบริโภค
 
คำตอบก็คือ รัฐบาลกลาง ต้องคาดเดาเอาเองทั้งสิ้น เพราะไม่มีการอนุญาตให้มีเอกชนเป็นผู้ผลิต
 
หากถามต่อไปอีกว่า แล้วถ้าผลิตออกมามากไป จนไม่มีคนบริโภคหรือน้อยไปจนไม่พอบริโภคจะทำอย่างไร
 
คำตอบแบบกวนๆ ก็คือ ต้องทำอย่างระวัง เพราะมันเป็นปัญหาปวดหัว เกิดการเหลือ และขาด ซึ่งก็คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอยู่แล้วอย่างขาดประสิทธิภาพนั่นเอง การขาดแคลนแรงจูงใจในการดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจ เพราะแต่ละคนไม่ได้ประโยชน์โดยตรง แต่ต้องการทำงานให้รัฐด้วยอุดมการณ์ ขัดแย้งอย่างฉกรรจ์กับความโลภที่มนุษย์ส่วนใหญ่มีเป็นเจ้าเรือน
 
ทั้งพ่อลูกเผด็จการจึงมีปัญหาเรื่องความขาดแคลนอาหารสำหรับประชาชนมาโดยตลอด เมื่อถูกซ้ำเติมด้วยภูมิอากาศแปรปรวนก็ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงยิ่งขึ้น
 
ครั้นประชาชนจะหนีออกนอกประเทศก็ห้ามเด็ดขาด (ถ้าอนุญาตอาจเหลือแต่คิม จอง อิล คนเดียว) หากจับได้ก็ตาย หรือไม่ก็ถูกส่งไปอยู่ค่ายนรก
 
ค่ายนรกจึงเปรียบเสมือนเสาสำคัญของการรักษาอำนาจไว้ เพราะมันสร้างอาณาจักรแห่งความกลัว ที่ทุกคนไม่กล้าหือ
 
ค่ายนรกแห่งนั้นพูดง่ายๆคือเป็นมรดกสืบทอดมาจากพ่อของคิม จอง อิล นอกเหนือจากถูกสร้างขึ้นมา เพื่อทรมาน และทำลายนักโทษ มันยังเป็นที่ "คั้น" แรงงานออกมา โดยให้ทำงานหนักแบบแคมป์ของนาซี และโซเวียต(แต่ของเกาหลีเหนือโหดกว่า) โดยการแต่ละอย่างล้วนหนักทั้งสิ้น เนื่องจากสินค้าส่งออกที่สำคัญคือเกาหลีเหนือคือเหมืองแร่ ถ่านหิน นักโ?ษต้องทำงานในสภาพอาการเลวร้ายสุดๆ บางคนทำงานจนตายไปเลยก็มี
 
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของคุกนรกแห่งนี้คือ อาหาร ไม่ใช้อาหารห่วยแต่อย่างใด แต่ไม่มีอาหารเลยต่างหาก เพราะอาหารที่ใหน้อยมากๆ เพราะประเทศเกาหลีเหนืออาหารขาดแคลนอย่างรุนแรงทั้งประเทศ มาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 แล้ว ดังนั้นนักโทษส่วนมากมักตายเพราะขาดอาหาร บางคนต้องกินเศษอาหารหมูเพื่อเอาชีวิตรอด(ถ้าจับได้จะโดนยิง) หนูเป็นแหล่งโปรเท้าสำคัญ
 
 
ถามว่ารู้ทั้งรู้ว่ามีการทรมาน มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทำไมต่างประเทศถึงอยู่เฉย
 
ก็ตอบว่าเพราะประเทศเหล่านี้ไม่กล้ามีเรื่อง โดยเฉพาะเกาหลีใต้แต่ดั้งเดิมนั้นก็ไม่อยาก "เหยียบเท้า" ของทั้งพ่อ และลูกเผด็จการ กลัวจะเกิดปัญหาวุ่นวายตามมา จึงไม่ค่อยกล้ารับพวกที่หนีมาอย่างเปิดเผย ทำได้แต่แกล้งมองไปอีกทาง หรือทำไม่รู้ไม่เห็น ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้มันไม่เป็นเรื่องขึ้นมา ก็คือผู้นำเกาหลีใต้กี่คนที่ผ่านมาก็ไม่พูดเรื่องนี้ หรือทำให้เรื่องนี้สำคัญขึ้นมาก็ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีจีนที่เป็นมิตรแนบแน่นกับเกาหลีเหนือ ถ้ามีเรื่องก็ต้องพูดกับจีน
 
สำหรับประเทศไทย คุณคิดว่าไทยนั้นมีความสัมพันธ์กับดีกับเกาหลีใต้เหรอ ขอตอบว่าผิด ถ้าเราดูวีพีมีเดียจะพบว่าเกาหลีเหนือนี้แหละที่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุด โดยดูยอดการค้าระหว่างประเทศพบว่ายอดการค้ากับไทยของเกาหลีเหนือนั้นเป็น อันดับ 3 ของเกาหลีเหนือ โดยดูจากปี 2007 ถึง 229 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
 
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อการเมืองระหว่างไทยกับเกาหลีเหนือจนได้ ในกรณี การ ลักพาตัว “อโนชา ปันจ้อย” หญิงสาวลูกชาวนา ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือ เมื่อปี พ.ศ. 2521 ระหว่างที่ไปทำงานในร้านเสริมสวยยังเกาะมาเก๊า ซึ่งเราคงทราบกันดีว่าเกาหลีเหนือนั้นชอบลักพาตัวชาวต่างชาติ และบังคับมาเป็นประชาชนในเกาหลีเหนือ ถ้าไม่ยอมก็ถูกส่งไปค่ายกักกังนรก
 
สำหรับชาวเกาหลีเหนือที่อพยพมาไทยนั้น ปัจจุบันมียอดประมาณ 1000 คน ซึ่งส่วนมากไทยมักทำจับกุม แต่ไม่ส่งไปเกาหลีเหนือแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลไทยรู้ดีถ้าส่งประเทศนี้ละก็ซะตากรรมของผู้อพยพนั้นต้องรับคือ อะไร....
เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ลึกลับที่สุดในโลกแห่ง หนึ่ง ลึกลับทั้งจากข้างนอกและภายนอก เพราะเกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด ห้ามบุคคลใดๆ ภายนอกเข้ามา ยกเว้นกรณีพิเศษ เช่น งานเทศกาล หรือผู้นำอนุญาต
 
เกาหลีเหนือขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษย์ชนอย่างน่าสะพรึงกลัว ที่สุดในโลก รายงานที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เรามักได้ยินข่าวการทรมาน การจับอดอาหาร การประหารชีวิต การใช้แรงงานเยี่ยงทาส การบังคับให้ทำแท้ง การฆ่าเด็กทารก การจับคนบริสุทธิ์ด้วยข้อหาเล็กๆ น้อย โดยไม่มีการไต่สวน
 
แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือค่ายกักกัน(รู้จักในนาม GULAG) ค่ายกักกันเหล่านี้พูดซะเพราะ แต่หลายคนเรียกมันว่านรกบนดิน ขนาดของมันพอๆ กับเมืองเล็กๆ แต่ละแห่งจะมีคน 5000- 50000 คนล่าสุด แต่ถ้าเอามารวมกันจะมียอดนักโทษถึง 150000-200000 คนทีเดียว
 
นักโทษในนิคมนี้ส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่น ครอบครัวเจ้าของที่ดิน นายทุน สายลับ(ที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า) ผู้สนับสนุนเกาหลีใต้ คริสเตียน นักรณรงค์ศาสนา และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง คนที่ทำผิดเหล่านี้ต้องถูกส่งตัวเข้าค่ายกักกังแล้วแต่ความผิดที่ได้รับ บางคน 10 ปี บางคน 3 เดือน หรือบางคนตลอดชีวิตก็ยังมี แต่ขอบอกว่าเพียงแค่คุณเห็นสภาพคุกและความเป็นอยู่ของนักโทษเหล่านี้ขอบอก เลยว่า”อยู่วันเดียวก็ไม่ไหวแล้ว”, “โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย”
 
มีบางคนเถียงว่า “พวกนั้นทำผิดเองนี้ช่วยไม่ได้” ก็ขอตอบเลยว่า คดีต่างๆ ของนักโทษที่จองจำค่ายกักกันนั้น กระบวนการตัดสินส่วนใหญ่ไม่เป็นธรรม หลายคนที่รอดจากค่ายนี้ได้บอกว่าหลายคนโดนขังคุกแห่งนี้ด้วยข้อเล็กๆ น้อยๆ เช่น ทำรูปผู้นำเปื้อน ฉีกขาด, ทำผลผลิตไม่ตรงเป้าหมาย, โดนใส่ร้าย ฯลฯ แต่กรณีที่เลวร้ายกว่านั้นคือโนจำคุกทั้งครอบครัว ทั้ง พ่อ แม่ ปู ย่า ตา ยาย ลูก โดนหมด
 
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช้เรื่องเกิดขึ้นในอดีต และยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแต่อย่างใด ย้ำไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะผู้นำมองนักโทษเหล่านั้นไม่ใช้มนุษย์ ต่ำยิ่งกว่าสัตว์ เลยมีการสร้างคุกนรกนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนหวาดกลัว และเมื่อมีผู้หลบหนีและเล่าเรื่องราวเหล่านี้ฟัง โลกถึงกับช็อกเรื่องที่คนเหล่านี้เล่า จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง โอเวอร์ไปหรือเปล่า อีกทั้งรัฐบาลเกาหลีมักปฏิเสธว่าประเทศของตนไม่มีค่ายนรกแห่งนี้ แต่จากหลักฐาน จากการเขียนผังภาพ และเอามาเปรียบเทียบ กับภาพถ่ายทางอากาศ ก็พบว่ามันเป็นเรื่องจริง!!
 
คนเหล่านี้ด้วยทุกข์ทรมาน บางคนตายอย่างน่าสมเพส ในคุกแห่งนั้น
 
เชื่อหรือไม่จนบัดนี้คุกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น อดีตจะเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น...!!
 
        ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันคือ คิม จอง อิล (ลูกชายของ คุม อิล ซุง เผด็จการคนแรกของเกาหลีเหนือ) ผู้สืบทอดมรดกเกาหลีเหนือ ที่มีระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนเต็มตัว
 
กล่าวคือ รัฐบาลกลางภายใต้การนำของผู้นำเผด็จการ เป็นผู้กำหนดว่า จะผลิตสินค้าบริการอะไร ด้วยวิธีใด ผลิตแล้วใครจะเป็นคนได้ไปบริโภค โดยไม่มีตัวละคร คือผู้ผลิตเอกชนในเศรษฐกิจแต่อย่างใดเป็นผู้ร่วมเล่น ทั้งหมดดำเนินไปโดยการสั่งของรัฐบาลกลางทั้งสิ้น (ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย)
 
คำถามว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะผลิตข้าว ผักผลไม้ และบริการอื่นมากน้อยแค่ใด ใครเป็นคนผลิตและใครได้ไปบริโภค
 
คำตอบก็คือ รัฐบาลกลาง ต้องคาดเดาเอาเองทั้งสิ้น เพราะไม่มีการอนุญาตให้มีเอกชนเป็นผู้ผลิต
 
หากถามต่อไปอีกว่า แล้วถ้าผลิตออกมามากไป จนไม่มีคนบริโภคหรือน้อยไปจนไม่พอบริโภคจะทำอย่างไร
 
คำตอบแบบกวนๆ ก็คือ ต้องทำอย่างระวัง เพราะมันเป็นปัญหาปวดหัว เกิดการเหลือ และขาด ซึ่งก็คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอยู่แล้วอย่างขาดประสิทธิภาพนั่นเอง การขาดแคลนแรงจูงใจในการดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจ เพราะแต่ละคนไม่ได้ประโยชน์โดยตรง แต่ต้องการทำงานให้รัฐด้วยอุดมการณ์ ขัดแย้งอย่างฉกรรจ์กับความโลภที่มนุษย์ส่วนใหญ่มีเป็นเจ้าเรือน
 
ทั้งพ่อลูกเผด็จการจึงมีปัญหาเรื่องความขาดแคลนอาหารสำหรับประชาชนมาโดยตลอด เมื่อถูกซ้ำเติมด้วยภูมิอากาศแปรปรวนก็ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงยิ่งขึ้น
 
ครั้นประชาชนจะหนีออกนอกประเทศก็ห้ามเด็ดขาด (ถ้าอนุญาตอาจเหลือแต่คิม จอง อิล คนเดียว) หากจับได้ก็ตาย หรือไม่ก็ถูกส่งไปอยู่ค่ายนรก
 
ค่ายนรกจึงเปรียบเสมือนเสาสำคัญของการรักษาอำนาจไว้ เพราะมันสร้างอาณาจักรแห่งความกลัว ที่ทุกคนไม่กล้าหือ
 
ค่ายนรกแห่งนั้นพูดง่ายๆคือเป็นมรดกสืบทอดมาจากพ่อของคิม จอง อิล นอกเหนือจากถูกสร้างขึ้นมา เพื่อทรมาน และทำลายนักโทษ มันยังเป็นที่ "คั้น" แรงงานออกมา โดยให้ทำงานหนักแบบแคมป์ของนาซี และโซเวียต(แต่ของเกาหลีเหนือโหดกว่า) โดยการแต่ละอย่างล้วนหนักทั้งสิ้น เนื่องจากสินค้าส่งออกที่สำคัญคือเกาหลีเหนือคือเหมืองแร่ ถ่านหิน นักโ?ษต้องทำงานในสภาพอาการเลวร้ายสุดๆ บางคนทำงานจนตายไปเลยก็มี
 
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของคุกนรกแห่งนี้คือ อาหาร ไม่ใช้อาหารห่วยแต่อย่างใด แต่ไม่มีอาหารเลยต่างหาก เพราะอาหารที่ใหน้อยมากๆ เพราะประเทศเกาหลีเหนืออาหารขาดแคลนอย่างรุนแรงทั้งประเทศ มาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 แล้ว ดังนั้นนักโทษส่วนมากมักตายเพราะขาดอาหาร บางคนต้องกินเศษอาหารหมูเพื่อเอาชีวิตรอด(ถ้าจับได้จะโดนยิง) หนูเป็นแหล่งโปรเท้าสำคัญ
 
 
ถามว่ารู้ทั้งรู้ว่ามีการทรมาน มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทำไมต่างประเทศถึงอยู่เฉย
 
ก็ตอบว่าเพราะประเทศเหล่านี้ไม่กล้ามีเรื่อง โดยเฉพาะเกาหลีใต้แต่ดั้งเดิมนั้นก็ไม่อยาก "เหยียบเท้า" ของทั้งพ่อ และลูกเผด็จการ กลัวจะเกิดปัญหาวุ่นวายตามมา จึงไม่ค่อยกล้ารับพวกที่หนีมาอย่างเปิดเผย ทำได้แต่แกล้งมองไปอีกทาง หรือทำไม่รู้ไม่เห็น ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้มันไม่เป็นเรื่องขึ้นมา ก็คือผู้นำเกาหลีใต้กี่คนที่ผ่านมาก็ไม่พูดเรื่องนี้ หรือทำให้เรื่องนี้สำคัญขึ้นมาก็ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีจีนที่เป็นมิตรแนบแน่นกับเกาหลีเหนือ ถ้ามีเรื่องก็ต้องพูดกับจีน
 
สำหรับประเทศไทย คุณคิดว่าไทยนั้นมีความสัมพันธ์กับดีกับเกาหลีใต้เหรอ ขอตอบว่าผิด ถ้าเราดูวีพีมีเดียจะพบว่าเกาหลีเหนือนี้แหละที่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุด โดยดูยอดการค้าระหว่างประเทศพบว่ายอดการค้ากับไทยของเกาหลีเหนือนั้นเป็น อันดับ 3 ของเกาหลีเหนือ โดยดูจากปี 2007 ถึง 229 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
 
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อการเมืองระหว่างไทยกับเกาหลีเหนือจนได้ ในกรณี การ ลักพาตัว “อโนชา ปันจ้อย” หญิงสาวลูกชาวนา ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือ เมื่อปี พ.ศ. 2521 ระหว่างที่ไปทำงานในร้านเสริมสวยยังเกาะมาเก๊า ซึ่งเราคงทราบกันดีว่าเกาหลีเหนือนั้นชอบลักพาตัวชาวต่างชาติ และบังคับมาเป็นประชาชนในเกาหลีเหนือ ถ้าไม่ยอม
ชื่อ
: 1
ว/ด/ป เวลา
: 11/01/24 14:07:06 PM
เลขไอพี
: 104.28.206.177
ความคิดเห็น
:
ayan
ชื่อ*
<< 1 >
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

ขอเครดิตฟรีหน่อยครับสมัครปุ๊บรับปั๊บไม่ต้องฝากสล็อตออนไลน์ เครดิตโบนัสได้เงินจริง slot938 สล็อต สล็อตออนไลน์ thaicasinobin แจกเครดิตฟรี สล็อต บาคาร่า คาสิโนออนไลน์ JQK41 สล็อต เครดิตฟรี ไทยคาสิโนออนไลน์ thaibet55 kubet ไทยคาสิโนออนไลน์ แทงบอล ซอคเกอร์ลีก คะแนนฟุตบอล เว็บพนันอันดับ1 HUC99 เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.