ผีตายโหง

          พอเอ่ยถึง ผีตายโหง ชาวเราฟังดูแล้วออกจะน่ากลัว ชวนขนลุกขนพองสยองเกล้า เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่า ปากต่อปากจากอดีต เรื่องเล่าผ่านแผ่นฟิล์ม ทั้งหนังไทยและหนังเทศ  รึจะเป็นในละครทางทีวี  ภาพข่าวต่างๆ ก็จะนำเสนอไปในทิศทางเดียวกัน ว่า น่ากลัว ดุร้าย เฮี๊ยน 

          อันที่จริง ผีตายโหง เป็นการเรียก ผู้ที่ตาย  ซึ่งหมายถึง คน นะ  ไม่ใช้กับสัตว์   เขา จะเรียก ผู้ที่ตายผิดไปจากปกติวิสัย เช่น ตายจากอุบัติเหตุ , ถูกผู้อื่นหรือสิ่งอื่นฆ่า อาทิ โดนควายขวิด  ช้างเหยียบ  ฟ้าผ่า    อาจจะเรียกว่า มีอายุขัยที่สั้น กว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั่วไป 

          แต่จะไม่เรียก ผู้ที่ตายเพราะโรคภัย ว่า ตายโหง ไม่ว่าช่วงอายุจะอยู่ในวัยใด เช่น เด็กอายุ 10 ปี ป่วยตายเพราะไข้เลือดออก ก็ไม่เรียก ว่า ตายโหง เว้นแต่ กรณีที่เกิดโรคระบาด ทั้งหมู่บ้าน ตายกันจำนวนมาก ในกรณีนี้ ก็จะเรียกว่า ตายโหงตายห่า 

          ก็แปลกดีนะ คนเรา  พอสัตว์ตาย กลับไม่เรียก ตายโหง  อย่างเช่น หมู วัว ควาย ไก่ ปลา หรือ สัตว์อื่นๆ ที่ถูกคนฆ่า แล้วนำ ซากมาขาย กลับไม่เรียกว่า เนื้อหมูตายโหง ปลาตายโหง  ถ้าเรียก ก็คงจะค้าขายไม่ได้นะ เพราะ กลัว สัตว์ตายโหง มันจะตามมาหลอกหลอน ทวงเอาเนื้อหนังของเขาคืน 

          โดยแท้จริงแล้ว ตาย ก็คือ ตาย ไม่มีอะไรแตกต่างกัน  เพราะ ความสำคัญมันอยู่ที่ว่า ร่างกายหยาบมันใช้งานไม่ได้ วิญญาณ ก็ต้องออกจากร่างหยาบนี้ นี่คือความจริง  ส่วน สาเหตุของการตาย จะเป็นแบบไหน ก็แล้วแต่ เหตุ แล้วแต่ปัจจัย  จะตายด้วยอาการสงบ รึ ตายด้วยอาการทุรนทุราย มันก็คือตาย  

          เพียงแต่ ผู้ที่มีชีวิตอยู่ เอาอารมณ์ เข้าไปจับ แล้วก็เกิดการวิพากษ์ จึงบัญญัติคำศัพย์ ขึ้นใช้เรียก อาการต่างๆ ทั้งๆผู้ที่ตายเขาก็เฉยๆ เช่น ตายอย่างน่าอนาถ  ตายอย่างทรมาน  คำว่าตายอย่างทรมาน กับตายอย่างมีความสุข มันไม่ได้แตกต่างกัน เพราะ ล้วนแล้ว ก็คือ การไร้ชีวิต บนโลกมนุษย์

          เข้าเรื่องซะที มีภาพวิญญาณผีตายโหงมาฝาก ครับ 

          ภาพ ก. วิญญาณ ในภาพจะมีดวงตาเพียงข้างเดียว เส้นสีฟ้าจะแสดง รอยบากบนวิญญาณ รอยบากดังกล่าว จะปรากฏเป็นเส้นคู่ ซึ่งผมคงต้องใช้เวลาศึกษาเรื่องดังกล่าวไปซักระยะ ก็ไม่รู้ว่าจะอีกซักกี่ปี จึงจะรู้ความหมาย และสาเหตุของการเกิดรอยบาก ดังกล่าว ในตอนนี้ขอเรียก รอยบากดังกล่าวว่า เส้นตัดอายุขัย 

          ภาพ ข. วิญญาณแสดง รูปลักษณ์เป็นรูปสุนัข มีความหมาย ได้หลายอย่าง 
          1. วิญญาณดวงนี้เป็นวิญญาณของสุนัข ตายก่อนหมดอายุขัย
          2.วิญญาณดวงนี้ มีความพร้อมที่จะไปเกิดเป็นสุนัข  หรือ 
          3.วิญญาณดวงนี้ เป็นผู้มีความรัก ผูกพัน กับสุนัข เป็นอย่างยิ่ง เมื่อตายแล้ว ดวงจิต(วิญญาณ)
          จึงยึดติดอยู่กับสิ่งที่ตนผูกพันธุ์ และ สร้างรูปลักษณ์ ของตนให้เป็นตามที่จิตยึดมั่นถือมั่น ที่สำคัญ มีสัญลักษณ์ ของ การมีอายุสั้น คือ รอยบากสองเส้น
 

          ภาพ ค.วิญญาณมีรูปหน้าคล้ายลิง เส้นตัดอายุขัย มีลักษณะ เป็นวงขดม้วนเข้าหาตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากภาพ ก. และ ภาพ ข. ลักษณะรูปแบบของเส้นรอยบากบนวิญญาณ ที่แตกต่างกัน ย่อมมีความหมายที่แตกต่างกัน ครับ 

          เส้นตัดอายุขัย ที่เป็นเส้นตรง พาดผ่าน หมายถึง วิญญาณดวงนี้ ในขณะที่เป็นมนุษย์ จะต้องตายอย่างฉับพลัน ก่อนหมดอายุขัย  ดังตัวอย่าง ใน ภาพ ก. และ ข. 

          เส้นตัดอายุขัย ในภาพ ค. บอกว่า วิญญาณดวงนี้ ฆ่าตัวตาย ครับ  เส้นขด เกิดขึ้น สองวง แสดงว่า ผู้นี้ คิดสั้น ถึงสองครั้ง

          ตำแหน่งของเส้นตัดอายุขัย จะเป็นตัวว่า เขาจะตายเมื่อไหร่  โดยการแบ่ง ดวงกลมวิญญาณ ตามภาพ ออกเป็น 4 ส่วน  ให้ใช้อายุขัยปกติ ในยุคของพระพุทธเจ้า พระองค์นี้ เป็นเกณฑ์ คือ 100 ปี ฉะนั้นแต่ละส่วนของวิญญาณ ก็จะเท่ากับ 25 ปี 

          เมื่อดูตำแหน่ง ของเส้นตัด เราก็จะทราบโดยประมาณว่า เขาตายเมื่อไหร่ ในภาพ ก. ผู้นี้น่าจะตาย เมื่ออายุ 30 ปี  ส่วนภาพ ข. น่าจะตายเมื่อ 27 ปี ส่วนภาพ ค. เส้นตัด อยู่ครึ่งดวงวิญญาณ แสดงว่า ผู้นี้น่าจะฆ่าตัวเองตายเมื่อ อายุ 50 ปี และ 

          ภาพที่วิญญาณ เขาแสดงออกมาว่า หน้าเหมือนลิง อาจจะบอกให้ทราบว่า เขาใช้วธีการปลิดชีพตนเอง โดยการผูกคอ เพราะการปีนป่าย ห้อยโหน เป็นอาการของสัตว์ตระกูลลิง เมื่อสิ้นชีวิตลง จิต(ดวงวิญญาณ)จึงติดอยู่ในอาการดังกล่าว ระดับจิตจึงตกมาอยู่ภูมิของสัตว์เดรฉาน  

          ซึ่งทางศาสนาได้สอนเอาไว้ว่า ผู้ที่คิดสั้น เป็นบาปมหันต์ ผลกรรม ดังกล่าว จะทำให้ต้องมาวนเวียน ฆ่าตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึง 500 ชาติ จึงจะพ้นจากบ่วงกรรมดังกล่าว  น่ากลัวทีเดียวครับ

          สาเหตุของผู้มีอายุขัยสั้น ก็เกิดจาก การได้เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผู้อื่น ผลกรรมจึงส่งให้ชาตินี้ อายุขัยสั้น  แต่ก็มีทางแก้ เช่นกัน ถ้าใครรู้ว่า ตัวเองจะอายุสั้น ให้หมั่นทำบุญ ดังนี้ คือ ปล่อยสัตว์ ไถ่ชีวิต สัตว์จากโรงเชือด แล้วอุทิศส่วนบุญแก่เจ้ากรรมนายเวร แต่หนหลัง เสร็จแล้ว ก็ตามด้วยการ ขออโหสิกรรมเขา  

          และอีกอย่าง ก็คือ การถือศีลภาวนา ทำอย่างจริงจัง  3 วันบ้าง 5 วันบ้าง 7 วันบ้าง  เสร็จแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แก่เจ้ากรรมนายเวร แล้วก็ตามด้วย การขออโหสิกรรม  หมั่นทำบ่อยๆ อีกหน่อยเขาก็ใจอ่อนเองแหละ  ทั้งนี้ เราเองก็ต้องมีความเสียใจ จากการกระทำดังกล่าว ของเราจริงๆ เขาถึงจะปล่อย   

          แต่โดยทั่วไป มนุษย์เราก็จำอะไรไม่ได้ หรอก เพราะ เราเองก็ระลึกชาติไม่ได้ ก็คงอาศัยการหมั่นทำบุญ ดังกล่าว บ่อยๆ  นั่นแหละครับ เป็นเครื่องแสดงเจตนา และ ความจริงใจ

ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้ความสนใจ  ขอบคุณ ภาพถ่ายจาก คุณ เอ็มถลาง และ สื่อเพื่อสังคมคุณภาพ วิชาการ.คอม 
วิเคราะห์โดย ยรรยง สินธุ์งาม  ฅนค้นผี