อายัดบัญชี เณรคำ 200 ล้าน เล็งออกหมายจับฐานฉ้อโกง


 

 

            วันนี้ (3 กรกฎาคม 2556) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวความคืบหน้ากรณี หลวงปู่เณรคำ ว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการกระทำที่อาจเข้าข่ายขัดต่อพระธรรมวินัย ของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือ พระวิรพล สุขผล ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท

 

            โดยในวันพรุ่งนี้ดีเอสไอจะประสานไปยัง ปปง. เพื่อขอข้อมูลมาดำเนินการในคดีอาญา และขออนุมัติเป็นคดีพิเศษ และจะมอบหมายให้ พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดี ดีเอสไอ เป็นผู้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง

 

            ขณะที่ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการปราบปราม ร่วมกับ พ.ต.ท. ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผู้อำนวยการปฏิบัติราชการแทน  ผู้อำนวยการกองข่าวกองทางการเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้ร่วมกันแถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการทำธุรกรรมทางการเงินของ หลวงปู่เณรคำ โดยพบว่า มีความผิดปกติของเงินในบัญชีธนาคารจำนวน 16 บัญชี มีเงินเคลื่อนไหวกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีชื่อ หลวงปู่เณรคำ 5-6 บัญชี จึงเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่ออายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ

 

ข่าวเพิ่มเติม
 

DSI รับลูกต่อจาก ปปง.สอบเส้นทางเงินลงอาญา "เณรคำ"


 

          ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติฯ แจ้งความกองปราบให้ดำเนินคดีกับ "หลวงปู่เณรคำ" ฐานฉ้อโกง ด้าน DSI ขานรับ ป.ป.ง.ตั้งคณะทำงานพิจารณาคดี "เณรคำ" เป็นคดีพิเศษ
 

          นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้ายื่นเรื่องกับ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมนายวีรพล สุขผล หรือ หลวงปู่เณรคำ และ บริษัท ขันติธรรมก้าวหน้า จำกัด หลังตรวจสอบพบธุรกรรมการเงินที่น่าสงสัย

 

          นายสงกรานต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของหลวงปู่เณรคำ พบกระแสเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท ตั้งแต่ปี พ.ศ 2554 - 2555 ซึ่งขณะนี้ตำรวจกองปราบร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำลังตรวจสอบ 16 บัญชีที่พบความผิดปกติ เป็นบัญชีของหลวงปู่เณรคำ 4 - 5 บัญชี ที่เหลือเป็นบัญชีของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นถือเป็นบัญชีที่มีเหตุอันสงสัยจึงห้ามมิให้ทำธุรกรรมการเงินในบัญชีดังกล่าว มิฉะนั้นจะถูกแจ้งข้อหาฐานร่วมกันฟอกเงิน

 

          นอกจากนี้ นายสงกรานต์ ยังตั้งข้อสังเกตหลายประเด็น เช่น กรณีวัดป่าขันติธรรมไม่ได้จดทะเบียนเป็นวัดถูกต้อง การตรวจสอบเงินในบัญชีโรงพยาบาล จ.ร้อยเอ็ด และกรณีพระแก้วมรกตที่หลวงปู่เณรคำจัดสร้างขึ้น ซึ่งน่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 30 ล้าน เพราะทำจากเรซิ่นและผงหิน

 

          ทั้งนี้ นายสงกรานต์ กล่าวโทษหลวงปู่เณรคำ ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ผิดพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ และผิดกฏหมายฟอกเงิน โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายเรียก

 

          ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักคดีความมั่นคงภายใต้การดูแลของ พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสอบสวนเรื่องดังกล่าวเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ โดยจะรับเรื่องและพยานหลักฐานต่อจาก ป.ป.ง.เพื่อดำเนินคดีอาญา ส่วน ป.ป.ง.จะดำเนินคดีในทางแพ่งเท่านั้น