ตะลึง!มูลธาตุ(อุจจาระ)หลวงตาบัวกลายเป็นพระธาตุ
ระหว่างที่องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านอาพาสหนักไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งจำเป็นต้องถวายการดูแลใกล้ชิด ภาพนี้เป็นภาพพระธาตุซึ่งเกิดจากอุจจาระขององค์หลวงตา โดยในระหว่างถวายการดูแลท่านนั้นนำมาเช็ดอุจจาระหลังจากที่ท่านถ่ายเสร็จ ซึ่งมีผู้เก็บไว้ (ความเคารพอย่างสูงสุด) ตอนแรกก็มีกลิ่นเหม็นของอุจาระปรกติ หลังจากที่องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มรณภาพแล้วนั้น ปรากฏว่าได้เกิดพระธาตุขึ้น ซึ่ง องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ทุกส่วนที่เป็นธาตุขันต์ของท่านเกิดเป็นพระธาตุทั้งหมดเป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
ภาพถ่ายจากมุมสูงปกติ
ภาพถ่ายจากกล้องส่องขยาย
นี่คือภาพส่องขยายอุจจาระ....ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนที่ลูกศิษย์เช็คจากหลวงตามหาบัวตอนอาพาธหนัก
เมื่อเก็บไว้ก็ยังกลายเป็น พระธาตุ (มูลธาตุ)....งดงามน่าอัศจรรย์มาก
รูปพระธาตุของหลวงตามหาบัวจากพระอัฐิ และส่วนต่างๆครับ
อัศจรรย์พระธาตุ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
พระธาตุบนเศษจีวรขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน สันนิฐานว่าน่าจะเป็นพระธาตุซึ่งเกิดจากเหงื่อของหลวงตาซึ่งติดอยู่ในจีวร แล้วเกิดเป็นพระธาตุ พระธาตุนี้ติดแน่นกับเนื้อของผ้า ไม่สามารถแกะออกได้
พระธาตุในส่วนของน้ำหมาก และชานหมากของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในส่วนของพระธาตุซึ่งเกิดในคำหมาก เบื้องต้นผู้มอบภาพนี้คิดว่าเป็นเชื้อรา แต่เมื่อขยายดูจึงพบว่าเป็นพระธาตุสีขาว คาดว่าน่าจะเป็นพระธาตุที่เกิดจากน้ำลายขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
พระธาตุเส้นเกศา องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
พระมุตตังธาตุ (ปัสสาวะ) องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
ฮือฮาอีกครั้ง เลือด-น้ำเหลืองที่ได้มาจากการทำความสะอาดบาดแผลนิ้วเท้าของหลวงตาตอนที่ยังไม่ละสังขาร กลายเป็นก้อนแข็งคล้ายเม็ดทราย ส่องแสงแวววับอย่างน่าอัศจรรย์
(12 ก.พ.) เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระหลวงตาพระมหาบัว ต่างฮือฮา เมื่อศิษยานุศิษย์หลวงตาคนหนึ่ง ได้นำเอาโกศบรรจุเลือดและน้ำเหลืองของหลวงตามาให้ดู พบว่าน้ำเหลืองและเลือดที่ได้มาจากการทำความสะอาดบาดแผลนิ้วเท้าของหลวงตาตอนที่ยังไม่ละสังขารแล้วนำมาบูชานั้น ได้กลายเป็นก้อนแข็งคล้ายเม็ดทรายหรือเม็ดน้ำตาลทราย ส่องแสงแวววับอย่างน่าอัศจรรย์ เชื่อว่าก้อนเลือดและก้อนน้ำเหลืองจากหลวงตานี้ น่าจะเป็นพระธาตุเหมือนที่เกศาของหลวงตาเป็นพระธาตุมาก่อนหน้านี้
พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นตามทฤษฎีทางการแพทย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เพราะปกติหากหากน้ำเหลืองแข็งตัวมาก ก็จะพบเพียงก้อนวุ้นเฉยๆ ไม่ใช่เป็นในลักษณะเม็ดน้ำตาลทราย หรือเม็ดทรายเล็กๆ ส่วนกรณีที่ศพไม่เน่าเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ อุณหภูมิสูงมาก ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำ และอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นภาวะเหมาะสมที่ทำให้สภาพร่างกายของศพไม่เน่าได้ แต่กรณีนี้ไม่พบเห็นบ่อย เกิดขึ้นได้น้อยมาก
ด้าน ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การอธิบายกรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องยาก เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธศาสนา แพทย์หลายท่านก็นับถือศาสนาพุทธ แม้ว่าจะสามารถนำก้อนเลือด ก้อนน้ำเหลืองดังกล่าวไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถึงที่มาที่ไป ก็อาจดูไม่เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องของความศรัทธา ดังนั้น คงไม่สามารถจะเอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายปรากฏการณ์ในลักษณะนี้ได้
พระบุพโพธาตุ (น้ำเหลือง) ขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


เป็นรูปถ่าย พระบุพโพธาตุ (ขยายขนาด) ขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
และสุดท้าย พระธาตุองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในส่วนของอัฐฐิ
Credit : https://groups.google.com/forum/#!msg/goodmorningmail/16q0Vvv-mKE/UUbYWN6NcIkJ