ทำไมโรคสะเก็ดเงินจึงเริ่มเป็นกันมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน พฤติกรรมกลุ่มนี้ที่เหมือนกันคือ "การนอนดึกติดต่อกันเป็นเวลานาน” มีความเข้าใจผิดๆเรื่อง "การนอนทดเวลา" ครับ เช่นนอนกี่โมงก็ได้ ขอเพียงครบ 8-10 ชั่วโมง เป็นพอ ร่างกายของเราไม่ง่ายอย่างนั้นนะครับ
"นาฬิกาชีวิต" นาฬิกา คือ เวลา เวลา สัมพันธ์กับ การขึ้นการตกของดวงอาทิตย์ ดังนั้นร่างกายของเราสัมพันธ์กับการขึ้นการตกของดวงอาทิตย์ ถ้าเปรียบการใช้ร่างกายเหมือนกับเครื่องจักรที่ทำงานมาตลอดทั้งวัน กลไกร่างกายของเราจะเริ่มผ่อนคันเร่งตั้งแต่ สองทุ่ม และดับเครื่องตอนสี่ทุ่ม หรืออย่างมากไม่เกินเที่ยงคืน และเข้าสู่โหมดการพักผ่อน เพื่อพร้อมสำหรับวันถัดไป ในทางตรงข้าม ถ้าเรายังเร่งเครื่องตลอดเวลา ไม่มีการผ่อนคันเร่ง เครื่องยนต์จะร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ อายุการใช้งานก็จะลดลงตามไป การนอนดึกติดต่อกัน ทำให้ระบบร่างกายรวน ซึ่งไม่แสดงผลให้เห็นในระยะแรกหรอกครับ
คุณภาพผิวหนัง สัมพันธ์กับระบบในร่างกาย เราจึงไม่เคยเห็นคนป่วยหนักๆ มีผิวหนังดูเปล่งปลั่งได้ เมื่อนอนดึกไปเรื่อยๆ ระบบร่างกายก็รวนตามไปเรื่อยๆ และจะส่งผลถึงผิวหนังในอีกห้าปีต่อมา คอลลาเจนหรืออีลาสตินในชั้นหนังแท้จะลดลงเร็วกว่าปกติ ผิวจะมีอายุสั้นลง การผลัดผิวจะไม่สัมพันธ์กัน ผิวไม่เหลือน้ำมันธรรมชาติไว้ปกป้องตัวเองอีกต่อไป เมื่อเจอ เหงื่อ แดด ฝุ่น หรือการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ผิวหนังอ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องตัวเองได้ อายุของผิวจึงสั้นลงไปอีก เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจึงร่อนออกมาเรื่อยๆ นี่คืออาการเริ่มแรก จากนั้นก็จะ Welcome to สะเก็ดเงิน ได้เลยครับ สังเกตไม่ยากครับ เริ่มจากมีอาการ "รังแค" เรื้อรัง
ดังนั้น สำหรับคนที่เริ่มมีสัญญาญเตือนมาแล้ว ควรเริ่มดูแลอาการรังแคเลยน่าจะดีกว่าครับ จะช่วยลดการความเสี่ยงไม่ให้อาการหนักมากขึ้น
"เริ่มเข้าใจปัญหาเส้นผมของตัวเองตั้งแต่วันนี้... ปัญหาเส้นผม ใช้เงินรักษาอย่างเดียวไม่ได้...ควรต้องเข้าใจตัวเองอีกด้วย"
เขียนโดย khunJack
โรคสะเก็ดเงิน, สะเก็ดเงิน, วัยทำงาน, การนอนดึก, การพักผ่อน, การนอนทดเวลา, นาฬิกาชีวิต, รังแค, หนังศรีษะ, โรคผิวหนัง, โรคสะเก็ดเงิน, สะเก็ดเงิน, วัยทำงาน, การนอนดึก, การพักผ่อน, การนอนทดเวลา, นาฬิกาชีวิต, รังแค, หนังศรีษะ, โรคผิวหนัง, โรคสะเก็ดเงิน, สะเก็ดเงิน, วัยทำงาน, การนอนดึก, การพักผ่อน, การนอนทดเวลา, นาฬิกาชีวิต, รังแค, หนังศรีษะ, โรคผิวหนัง