ออกแบบออฟฟิซสมัยใหม่ด้วยฮวงจุ้ย

สำนักงานหรือออฟฟิซจะต้องตกแต่งให้สว่าง โล่งแจ้งและพื้นที่ไม่ควรคับแคบจนเกินไป

          ออฟฟิซที่ฮวงจุ้ยดีนั้นต้องดูที่ว่ามีขนาดเหมาะสมแค่ไหน ถ้าหากด้านหน้ากว้างขวางโอ่อ่าก็จะยิ่งดี  เพราะตำแหน่งด้านหน้าของออฟฟิตนั้นทางฮวงจุ้ยเรียกว่า “หมิงถัง” หรือ ภาษาแต้จิ๋วเรียก “เหม่งตึ๊ง” อันเป็นตำแหน่งสำคัญมากเปรียบได้เป็นเหมือนกับ “ท้องพระโรง”ของฮ่องเต้เวลาว่าราชการ และตำแหน่งด้านหน้านี้ทางหลักวิชา โป๊ยข่วยก็เรียกเป็นตำแหน่ง “หลี”  ซึ่งเป็นตำแหน่งของหน้าที่การงานด้วยเช่นกัน ดังนั้น หมิงถังก็คือตำแหน่งตรงด้านหน้าของออฟฟิต อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายให้กับกิจการของออฟฟิตนั้นๆ ถ้าหากว่าตำแหน่งนุถูกกระทบกระเทือนหรือ มีขนาดพื้นที่คับแคบ หรือมีของมาขวางกั้น ก็แสดงว่า ออฟฟิตนี้ มีผลประการที่ไม่ดี ไม่มีกำไร และมีข้อจำกัดในเรื่องของความเติบโตของกิจการ มีอุปสรรคมากมาย ไม่สามารถที่จะขยายกิจการได้ แต่หากว่าตำแหน่งหมิงถัง มีขนาดโล่ง กว้างขวาง ก็แสดงว่า ธุรกิจจะดำเนินไปได้ด้วยดี ประสบความสำเร็จ ก้าวหน้าและเติบโตอย่างไม่มีอุปสรรค
 

การจัดตำแหน่งที่นั่งของพนักงานด้านหลังไม่ควรมีพื้นที่ว่าง

          ฮวงจุ้ยสำนักงานมีหลักการเคร่งครัดมากในเรื่องการจัดตำแหน่งที่นั่งของโต๊ะทำงาน ด้านหลังจำเป็นจะต้องมีที่พิงหลัง ซึ่งเรียกเป็นภาษาฮวงจุ้ยว่า “พิงภูเขา” ซึ่งอาจจะเป็นกำแพงผนังห้องหรือเป็นตู้เอกสารก็ได้ โดยเชื่อว่า หากมีที่พิงหลังแล้วก็จะมีคนมาคอยอุปถัมภ์ มีผู้สนับสนุนอยู่ไม่ขาด การงานมั่นคง แต่ถ้าหากด้านหลังโล่ง หรือว่างเปล่า ก็จะทำให้เรี่ยวแรงหรือพลังในการทำงานถดถอย สุขภาพร่างกายอ่อนแอ การงานก็ไม่มั่นคงเช่นเดียวกัน หากเป็นระดับพนักงานก็จะทำให้ พนักงานไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่การงาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบไปทั้งองค์กร 

การออกแบบหรือการตกแต่งจะต้องคำนึงเรื่องของแสงสว่างให้เพียงพอ

          หลักฮวงจุ้ยถือว่า ระดับของความสว่างของแสงในออฟฟิตที่ทำงานนั้น มีผลเกี่ยวพันกับการแพ้ชนะและการแข่งขันในเชิงธุรกิจเป็นอย่างมาก และถ้าหากแสงสว่างในที่ที่ทำงานนั้นมีเพียงพอ จะส่งผลให้พนักงานนั้นรักงานที่ตนเองทำอยู่ พอใจและสนุกในการทำงาน และผลงานก็จะค่อยๆพัฒนาขึ้นในทุกๆวัน คนดีมีความสามารถก็จะปรากฏในที่ทำงาน ในที่ทำงานก็จะปรากฏความยุติธรรม การให้รางวัลและการลงโทษจะมีความถูกต้องเหมาะสม ไม่เอนเอียง พนักงงานก็จะทุ่มเทเอาใจใส่หน้าที่การงาน หากแสงสว่างในออฟฟิตไม่เพียงพอ แสงในห้องทำงานมืดสลัว การทำงานจะมีอุปสรรคและปัญหา ไม่ราบรื่น มีคนจ้องจะทำลายซึ่งกันและกัน พนักงานเกียจคร้าน ไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่การงาน และทุกๆคนในออฟฟิตนี้ก็จะมีแต่โชคร้าย

บริเวณรอบๆออฟฟิตต้องไม่มี “ภูผาแหลมพิฆาต”

          ในการเลือกทำเลที่ตั้งของออฟฟิตเพื่อประกอบกิจการใดใด ก็ต้องดูในบริเวณรอบๆด้วย ซึ่งมีอิทธิพลต่ออฟฟิตที่เราทำงานอยู่ โดยเฉพาะอาคารสูงมากๆใกล้ๆออฟฟิต ซึ่งหากออฟฟิตของเราเตี้ยกว่า ตึกสูงที่อยู่ใกล้ๆนั้นก็จะกลายเป็น “ภูผาแหลมพิฆาต” ทำลายฮวงจุ้ยของเรา  เพราะจะนำความไม่สุขสงบมาสู่ออฟฟิตที่ทำงาน ทำให้เกิดความรู้สึกกดดันในการทำงาน และทำลายความมั่นคงของกิจการที่ทำ ทำให้ผลประกอบการขึ้นๆลงๆ ทำลายผลดีของฮวงจุ้ยที่เราอยู่ และทำลายความสัมพันธ์ของพนักงาน เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง และขัดแย้งในที่ทำงาน

ไม่ควรออกแบบออฟฟิตให้มีช่องแสงมากจนเกินไป

          ตามปกติแล้วการมีช่องแสงในออฟฟิตเป็นสิ่งที่ดี สามารถที่จะเพิ่มพลังแข็งแกร่งให้กับชี่ของออฟฟิตได้ โยเฉพาะช่วงที่กิจการตกต่ำ การเปิดช่องแสงก็จะช่วยได้มาก และก็ควรที่จะเปิดช่องแสงเพียงที่จะช่วยให้กิจการสามารถที่จะทำงานได้ได้ตามตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ก็เพียงพอ เพื่อเพิ่มพลังให้กับชี่ หากทำการเปิดช่องแสงเสียมากจนเกินไป   ก็ทำลายชี่ของพนักงานที่ทำงานอยู่ ทำให้ชี่วุ่นวายสับสน โชคลาภกระจัดกระจาย หรือมีโชคเข้ามาแล้วก็ออกไป และทำงานก็ไม่สามารถบรรลุสู่เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ได้  

ทางเข้าออฟฟิต ไม่ควรมีสิ่งกีดขวางหรือปิดกั้น

          สำหรับทางเข้าของออฟฟิตนั้นไม่ควรถูกปิดบัง หรือการออกแบบที่มีลักษณะที่มีสิ่งของมากั้นหรือวางขวางเอาไว้ ทางเข้าหรือทางเดินไปในออฟฟิต ก็เปรียบเสมือนเส้นเลือดของคนเรา จำเป็นจะต้องโล่งโปร่งหมุนเวียนสะดวกไม่มีอะไรมาขวางกั้นเอาไว้ หากการออกแบบตกแต่งทำแบบตามใจ หรือขาดความระมัดระวังรอบคอบและขาดการพิจาณาในเรื่องของฮวงจุ้ยมาประกอบการตัดสินใจ หรือนำสิ่งของมาวางระกะระกะอยู่ที่หน้าออฟฟิต เอาแบบมักง่าย ก็จะส่งผลให้พนักงานที่ทำงานอยู่ในออฟฟิตรู้สึกอึดอัด ทำงานด้วยความยากลำบาก โชคลาภถูกปิดกั้น การสื่อสารภายในองค์กรมีปัญหา ติดขัดไม่ได้ความ การทำงานก็ต้องออกแรงเหน็ดเหนื่อยมากกว่าปกติหลายเท่าตัว มีอุปสรรคขัดขวางในการทำงาน และส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อผลประกอบการ

ที่มา : astroneemo