ฮวงจุ้ยดี ส่งเสริมผู้อยู่อาศัย

           ฮวงจุ้ย คือศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องการอยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่มีหลักการเน้นไปในเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล หลายคนจึงมักคิดว่าฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่งมงาย แต่หลายฮวงจุ้ยที่เกี่ยวเนื่องกับการปลูกบ้าน เมื่อนำมาทำการวิเคราะห์กันจริงๆ แล้ว พบว่ามีความเป็นเหตุเป็นผล และเต็มไปด้วยแง่มุมที่สะท้อนในด้านการออกแบบได้อย่างน่าทึ่ง และวันนี้เรามีตัวอย่างฮวงจุ้ยเรื่องบ้าน ที่ล้วนเป็นประโยชน์ และมีหลักการเพื่อให้บ้านของคุณอยู่สบายขึ้น

           บ้านที่อยู่ติดอาคารสูงไม่ดี เพราะกระแสชี่บริเวณนั้นจะไหลไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ต้องทำกระจกเว้ามาติดสะท้อนอาคารสูงนั้น หรือปลูกต้นไม้ทรงสูงกั้นระหว่างบ้านกับอาคาร

           อาคารสูงที่อยู่ขนาบกับบ้านจะทำให้บดบังทั้งแสง และลมที่จะพัดเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้บ้านมืด และร้อนไปโดยปริยาย การปลูกต้นไม้จะช่วยสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับมุมนี้ได้ ทั้งจากสีเขียว และรูปทรงที่ช่วยลดความแข็งกระด้าง และปิดมุมจากตึกสูงที่สามารถมองลงมาในบ้านได้

           บ้านร้าง ที่ร้าง สุสาน จะมีพลังไม่เป็นมงคล บ้านไหนอยู่ใกล้จะอับโชค วิธีแก้คือ ติดไฟด้านที่อยู่กับบ้านร้าง เพื่อให้พลังหยางสลายพลังอัผมงคลเหล่านั้น

           ที่ดินรกร้าง นับเป็นจุดที่ง่ายต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรม ความที่เป็นมุมอับ ไม่มีการสัญจรของผู้คนนัก บริเวณนี้จึงเป็นจุดที่ถูกใช้เป็นแหล่งมั่วสุม หรือสัตว์มีพิษดุร้ายเข้าไปอาศัย การติดไฟฟ้าส่องสว่างจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแก่บ้านที่อยู่ใกล้ ทั้งป้องกันอันตราย และสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้ได้

           ฮวงจุ้ยของบ้านตรงทางสามแพร่ง ถือเป็นจุดปะทะรุนแรง ทำให้คนในบ้านต้องพบกับความวิบัติ จึงต้องปกป้องบ้านจากจุดเสี่ยงเหล่านี้ ด้วยการติดเสือคาบดาบ ยันต์แปดทิศ หรือกระจกแปดเหลี่ยมไว้ที่หน้าบ้าน

           ทางสามแพร่ง เป็นจุดที่ทำสถิติเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งที่สุด เพราะการเป็นส่วนตัดของถนน 2 ทาง ของรถที่มาจากทั้ง 2 ด้านมาบรรจบกัน ทั้ง 2 เส้นทางจึงมีความจำเป็นต้องส่งสัญญาณให้อีกด้านรู้ด้วยการบีบแตร หรือเปิดไฟสูง ซึ่งตรงนี้เองที่สร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยในบ้านที่ตั้งอยู่บนทางสามแพร่งได้ ทางแก้จึงได้แก่การติดกระจกโค้ง ที่ช่วยในเรื่องการมองเห็นรถที่มาจากอีกทาง ร่วมด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ หรือก่อกำแพง เพื่อเป็นการลดเสียง และป้องกันชิ้นส่วนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันได้อีกด้วย

           บ้านหัวมุม เป็นตำแหน่งที่มีทั้งพลังดีและร้ายไหลผ่าน การจะดูว่าตำแหน่งไหนดีนั้นต้องดูที่ทิศหน้าบ้านด้วยว่าบ้านหันไปทางทิศทางไหน

           บ้านหัวมุมจะมีด้านที่ติดถนน 2 ด้าน ทำให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกกว่าบ้านที่โดนขนาบ แต่ความได้เปรียบนี้ก็มีความเสียเปรียบอยู่ในเรื่องของส่วนที่รับมลภาวะมากกว่าปกติ การแก้ไขจึงสามารถทำได้ด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ พร้อมไปกับการติดตั้งระแนงสำเร็จรูปเพื่อกรองแสง และมลภาวะให้เข้าสู่ตัวบ้านน้อยที่สุด โดยปัจจุบันมีระแนงสำเร็จรูปมากมายที่มาสามารถเลือกใช้กันแดด กันร้อน ได้อย่างสะดวก

           ที่ดินที่อยู่ปลายสุดของซอยตันปลูกบ้านไม่ดี เพราะพลังไม่ดีจะพุ่งตรงเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ทำให้มีเรื่องไม่ดีในบ้านเสมอ

           บ้านที่ตั้งอยู่ท้ายซอยหลังสุดท้าย มักจะพบปัญหาเรื่องแสงไฟจากรถยนต์ที่ส่องปะทะตัวบ้านอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการปลูกบ้านบนที่ดินในบริเวณดังกล่าว จึงควรเลี่ยงไม่ให้ตัวบ้าน หรือช่องเปิดหันหน้าเข้าหาถนน อาจปรับให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถ ห้องเก็บของ หรือส่วนที่เจ้าของบ้านใช้งานไม่บ่อยนัก

           บ้านที่หันหน้าทางทิศใต้ เป็นทิศทางที่มีพลังงานธาตุไฟอยู่มาก จึงทำให้คนในบ้านรุ่มร้อน ไม่ผ่อนคลาย

           เพราะบ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้นั้นจะเป็นทิศทางที่ร้อนตลอดทั้งปี เพราะประเทศไทยตั้งอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร จึงได้รับอิทธิพลของแสงแดดที่ส่องมาจาก ทางทิศใต้มากกว่าแสงแดดทางทิศเหนือ ซึ่งในกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยลักษณะของพื้นที่ สามารถทำได้ด้วยการเสริมมาตรการป้องกันความร้อนให้บ้านครับ เริ่มต้นจากการปกป้องจากส่วนที่สัมผัสกับความร้อนโดยตรงทั้งบนหลังคา และฝ้าเพดาน ที่สามารถเลือกใช้ได้ทั้งฉนวนป้องกันความร้อนอย่างหน้า แผ่นฝ้าที่มีค่านำความร้อนต่ำ ร่วมด้วยฝ้าที่มีรูระบายอากาศที่ชายคา

ข้อมูลจาก trachang.co.th