ศัลยกรรมความงาม จากมุมมองพระพุทธศาสนา..!!

  

ศัลยกรรมความงาม จากมุมมองพระพุทธศาสนา..!!

             เมื่อไม่นานนี้ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ประกาศผลวิทยานิพนธ์ดีเด่นประจำปี 2557 โดยวิทยานิพนธ์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือวิทยานิพนธ์เรื่อง "การศึกษาการทำศัลยกรรมความงามในมุมมองของพระพุทธศาสนา" ของ น.ส.จงจิต พานิชกุลนักศึกษาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
 
             น.ส.จงจิตบอกเล่าถึงแรงจูงใจในการทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ขึ้นมา ว่า เนื่องจาก ในปัจจุบันมีคลินิกศัลยกรรมความงามเกิดขึ้นมากมาย มีการโฆษณาทุ่มทุนจ้างดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ แข่งขันกันลดราคา จัด โปรโมชั่น ไม่ว่าจะในสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุหรือในนิตยสาร จากจุดนี้แสดงให้เห็นว่าการทำศัลยกรรมความงามกำลังเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในสังคมไทย 
 
             "จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไมคนในสังคมถึงมุ่งเน้นแต่การพัฒนาความงามภายนอก ทั้งๆ ที่ในทางพระพุทธศาสนา มุ่งเน้นให้พัฒนาความงามภายในหรือจิตใจ ด้วยเหตุนี้จึงสนใจที่จะผนวกการทำศัลยกรรมความงามเข้ากับพระพุทธศาสนา เพื่อศึกษาว่าในทางพระพุทธศาสนามองการทำศัลยกรรมความงามอย่างไร"
 
             สำหรับวิธีการทำวิทยานิพนธ์นั้น น.ส. จงจิตอธิบายว่าใช้วิธีสัมภาษณ์ผู้ที่ผ่านการทำศัลยกรรมความงามมาแล้วจำนวน 20 คน ผลที่ได้ส่วนใหญ่คิดว่าการทำศัลยกรรมความงามจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองได้ เยียวยาปัญหาในชีวิตได้ เช่น กรณีชายคนหนึ่งที่ทำศัลยกรรมจมูกเพราะเชื่อว่าเมื่อตนมีจมูกโด่งเข้ารูปจะสามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้ 
 
             "ผู้ถูกสัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะปฏิเสธเข้ารับการทำศัลยกรรมความงามในครั้งต่อไป เพราะทนกับความเจ็บปวดทั้งขณะทำและหลังทำไม่ไหว บางคนทำออกมาแล้วไม่ได้ผลดังที่ต้องการ หรือได้ผลเพียงระยะสั้นเท่านั้น เช่น การฉีดโบท็อกซ์ที่คาดไว้ว่าจะอยู่ได้ 4-5 เดือน แต่เมื่อทำไปแล้วกลับอยู่ได้เพียงแค่ 2 เดือน จึงรู้สึกว่าสิ้นเปลืองถ้าจะไปฉีดซ้ำอีก"
 
             น.ส.จงจิตบอกว่าการที่คนในสังคมจะมองผู้หญิงหรือผู้ชายแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะในหลายอาชีพนิยมคัดเลือกคนหน้าตาดีไว้ก่อน เช่น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานโรงแรม สปา หรือพริตตี้ในมอเตอร์โชว์ เพราะการมีพนักงานหรือลูกจ้างหน้าตาดี ย่อมเป็นการโฆษณาหรือส่งเสริมแบรนด์ของบริษัทหรือสินค้าไปในตัว ส่วนเรื่องความสามารถค่อยมาฝึกฝนกันทีหลัง ในขณะที่ตัวพนักงานหรือลูกจ้างเองต้องการรายได้ เพิ่มขึ้น เพราะราคาค่าจ้างที่จะได้รับอยู่ที่รูปร่างหน้าตา 
 
             "ยิ่งมีหน้าตาสวยก็ยิ่งเปิดโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น เช่น อาชีพพริตตี้ ถ้าหน้าตาดีก็มีงานติดต่อเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานโฆษณา ถ่ายแบบ จากความต้องการเหล่านี้จึงเป็นการส่งเสริมให้คนมองร่างกายเสมือนวัตถุ ตีค่าของคนอยู่ที่รูปร่างหน้าตา เพราะเป็นรูปธรรม มองเห็นได้ง่ายกว่า นอกจากรูปร่างหน้าตาจะสำคัญ ต่ออาชีพแล้ว ยังมีความสำคัญในการเลือก คู่ครอง คนที่หน้าตาดีย่อมมีทางเลือกบุคคลที่เหมาะสมมากกว่า ส่งผลให้คนในสังคม นิยมมองกันแต่เพียงภายนอก" 
 
             ในมุมมองพระพุทธศาสนานั้น น.ส.จงจิตอธิบายว่าเรื่องการ หลงรูปมีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล แต่สมัยนั้นยังไม่มีการทำศัลยกรรมเสริมความงาม จึงทำได้แค่เพียงเอาสมุนไพรพื้นบ้านมาพอกตัวขัดตัว เพื่อให้ผิวพรรณสดใส หรือเอาน้ำมันมะพร้าวมาหมักผมเพื่อให้ผมดำเงางาม แต่เมื่อมีการทำศัลยกรรมความงามเข้ามายิ่งส่งเสริมให้คนยึดติดในรูปมากขึ้น เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นคนใหม่ได้ทันที
 
             "ในทางพระพุทธศาสนาไม่ได้มองว่าการทำศัลยกรรมความงามเป็นสิ่งถูกหรือผิด แต่มองว่าการ ทำศัลยกรรมความงามเป็นการส่งเสริมให้คนยึดติดอยู่ แต่รูป หลงมัวเมาอยู่กับสิ่งที่ไม่เที่ยง เพราะความงาม ที่ได้รับจากการทำศัลยกรรมความงามไม่สามารถคงทนอยู่ได้ตลอดไป ย่อมเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา แตกต่างจากการพัฒนาความงามภายในหรือจิตใจ ปฏิบัติตนตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ซึ่งความงามนี้จะอยู่ คงทนและยั่งยืน"
 
             น.ส.จงจิตทิ้งท้ายว่า ไม่ได้ห้ามหรือต่อต้านการทำศัลยกรรมความงาม แต่อยากฝากถึงคนที่ต้องการจะทำว่าถ้าจะทำก็ต้องยอมรับความเสี่ยงให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากการแพ้ยา สารเคมี เสี่ยงกับผลที่ออกมาไม่เป็นไปตามความต้องการ และต้องยอมรับให้ได้ว่า สิ่งที่คุณทำออกมาแล้วนั้นมันจะไม่คงอยู่ในสภาพนั้นตลอดไป ย่อมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา
 
             ทั้งนี้ยังสามารถพัฒนาความงามภายในจิตใจได้โดยใช้หลักธรรมขันติโสรัจจะ คือ ความอดทน สงบเสงี่ยม เรียบร้อย คนที่หน้าตาดีไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนดีหรือนิสัยดี เราควรมองลึกเข้าไปถึงจิตใจ อุปนิสัย ไม่ควรตัดสินใครแต่เพียงภายนอก 
 
             "นอกจากนี้ควรมีศีลเพราะศีลจะเป็นเครื่องมือประคับประคอง ให้เป็นคนดี ไม่ประพฤติชั่ว ความดีจะทำให้เราอยู่ในสังคมนี้ได้โดยไม่ต้องเสียเงินหรือเจ็บตัวกับการทำศัลยกรรมความงาม ซึ่งอาจ ต้องใช้เวลากว่าคนในสังคมจะเห็นถึงความดี แต่เมื่อได้เห็น ความดีนี้แล้วความดีจะติดตัวเราไปตลอด และจะเป็นผลดีกับ ตัวเราเองในระยะยาว"


ที่มา : khaosod

  

บทความที่เกี่ยวข้อง
ถอดบทเรียน หมอเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม ศัลยกรรมมรณะ ... อ่านต่อ
ศัลยกรรมใบหน้า จะเปลี่ยน โหงวเฮ้ง ได้หรือไม่ ... อ่านต่อ
ทำศัลยกรรมมา กี่วันกว่าจะเข้าที่? ... อ่านต่อ
ดูดวง / ฮวงจุ้ย
ทายนิสัย จากลายมือการเขียนตัวเลข ... BY : หมอเมท ... อ่านต่อ
คาถาทวงหนี้ คาถาอีกาวิดน้ำ ใช้สำหรับคนยืมเงินแล้วไม่คืนหรือของหาย ... อ่านต่อ
ตากระตุก ตาเขม่น ลางสังหรณ์ที่บ่งบอกเรื่องราวอะไร? ... อ่านต่อ
 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

ขอเครดิตฟรีหน่อยครับสมัครปุ๊บรับปั๊บไม่ต้องฝากสล็อตออนไลน์ เครดิตโบนัสได้เงินจริง slot938 สล็อต สล็อตออนไลน์ thaicasinobin แจกเครดิตฟรี สล็อต บาคาร่า คาสิโนออนไลน์ JQK41 สล็อต เครดิตฟรี ไทยคาสิโนออนไลน์ thaibet55 kubet ไทยคาสิโนออนไลน์ แทงบอล ซอคเกอร์ลีก คะแนนฟุตบอล เว็บพนันอันดับ1 HUC99 เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.