เนื้องานที่คุณทำดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เงินเดือนกลับนิ่งสนิท งั้นเรามาหาทางสะกิดให้เจ้านายขึ้น เงินเดือนให้สมน้ำสมเนื้อกับงานที่ทำกันหน่อย
1. ทำตัวให้มีออพชั่นเสริม
ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวทรงเครื่องย่อมมีราคาที่สูงกว่าก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ด้วยการไปศึกษาเพิ่มเติมในด้านที่จะช่วยส่งเสริมงานของคุณ ทำให้เจ้านายเห็นว่าการขึ้นเงินเดือนให้คุณคุ้มกว่าการจ้างเด็กใหม่เพิ่มอีก 2 คน
2. พูดเรื่องเงินทีหลัง
คุณควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาเจ้านายในเรื่องอื่นๆ ก่อน เช่น แผนขยายโปรเจ็กต์ของคุณที่จะช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้า แล้วจึงค่อยตะล่อมถามถึงความเป็นไปได้ที่จะขึ้นเงินเดือนถ้าโปรเจ็กต์สำเร็จ ในทางกลับกันหากเจ้านายเป็นฝ่ายเสนอเรื่องขึ้นเงินเดือนขึ้นมาก่อน ก็อย่าเพิ่งพุ่งประเด็นในเรื่องของตัวเลข แต่ให้ขอคำชี้แนะว่ายังมีอะไรที่คุณต้องปรับปรุงตัวอีกมั้ย เพื่อที่จะคุ้มค่ากับเงินที่คุณได้รับจริงๆ
3. หาคนหนุนหลัง
ขนาดตอนสมัครงานคุณยังต้องมีบุคคลอ้างอิงเลย แล้วทำไมตอนขอเลื่อนเงินเดือนจะไม่มีล่ะ หาใครซักคนที่เป็นกลาง ไม่ได้มีความสนิทกับคุณเป็นการส่วนตัวมากนัก ให้เขาช่วยประเมินงาน และเจรจาเบื้องต้นกับเจ้านายของคุณตามความเป็นจริง
4. เจรจาให้นานขึ้น
ใน 5 นาทีแรกคุณจะถูกครอบงำด้วยความประหม่าและไม่สบายใจ เหตุผลที่คุณเตรียมมาอาจไม่ครบถ้วน รอให้คุณผ่อนคลายขึ้นแล้วค่อยเข้าเรื่องทั้งยังเป็นการประเมินนายจ้างเบื้องต้นด้วยว่าพร้อมจะคุยเรื่องนี้หรือไม่หากท่าไม่ดีก็ขอเปลี่ยนไปคุยวันหลัง
5. เป็นมืออาชีพเข้าไว้
อย่าเอาความเห็นใจมาเป็นเรื่องต่อรอง มันไม่มีประโยชน์ที่จะเอาเรื่องครอบครัวมาอ้าง ไม่ว่าจะแม่ป่วย ลูกสี่ แทนที่จะได้เลื่อนเงินเดือน คุณก็จะได้เงินอุดหนุนชั่วคราวเสียมากกว่า จงยืนยันในเจตจำนงเดิมว่าคุณต้องการขอขึ้นเงินเดือนเพราะคุณมีศักยภาพมากพอ
ที่มา : http://www.sanook.com/
ทำงาน, ขอขึ้นเงินเดือน, คุยกับเจ้านาย, ขอขึ้นเงินเดือนยังไงดี, วิธีขอขึ้นเงินเดือน, ขึ้นเงินเดือน, ค่าตอบแทน, เงินเดือนน้อย, ทำงาน, ขอขึ้นเงินเดือน, คุยกับเจ้านาย, ขอขึ้นเงินเดือนยังไงดี, วิธีขอขึ้นเงินเดือน, ขึ้นเงินเดือน, ค่าตอบแทน, เงินเดือนน้อย, ทำงาน, ขอขึ้นเงินเดือน, คุยกับเจ้านาย, ขอขึ้นเงินเดือนยังไงดี, วิธีขอขึ้นเงินเดือน, ขึ้นเงินเดือน, ค่าตอบแทน, เงินเดือนน้อย
