Review : Whiplash

ตีให้ลั่น เพราะว่าฝันยังไม่จบ

เรื่องย่อ Whiplash

          ผลงานจากผู้สร้าง Juno ภาพยนตร์ที่ได้รับเกียรติเปิดเทศกาลหนังซันแดนซ์ และได้รับรางวัล Grand Jury Prize มาครอง เรื่องราวของ แอนดรูว์ (รับบทโดย ไมลส์ เทลเลอร์ จาก Divergent) มือกลองหนุ่มวัย 19 ปี ที่ต้องการเป็นมากกว่าฉากหลังในวงดนตรี โดยความฝันในการเป็นมือกลองระดับโลกก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาถูกค้นพบโดย เทอเรนซ์ เฟลชเชอร์ (เจเค ซิมมอนซ์) ครูสอนดนตรีที่มีวิธีการสอนที่เข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นถึงพรสวรรค์ที่อยู่ในตัวเด็กคนนี้

เกร็ดภาพยนตร์

          • Whiplash ถูกเลือกเป็นภาพยนตร์เปิดเทศกาลหนังซันแดนซ์ประจำปี 2014 และมันก็กลายเป็นหนังที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดในเทศกาล จนเป็นเรื่องแรกที่ได้ทั้งรางวัล Grand Jury Prize (รางวัลพิเศษจากคณะกรรมการ) และ Audience Award (รางวัลขวัญใจคนดู) และก็ยังถูกเลือกให้เข้าฉายสาย Directors' Fortnight ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุด 

          • ในขณะเดียวกันกลุ่มนักวิจารณ์ที่ได้ดูแล้วก็ได้กล่าวชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน และคาดหมายว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องมีบทบาทบนออสการ์ปลายปีนี้อย่างแน่นอน โดยปัจจุบันคะแนนบนเว็บไซต์ Rottentomatoes ก็อยู่สูงถึง 94% โดย เอริค ชไนเดอร์ นักวิจารณ์จาก Film.com ก็เขียนว่า "ผมการันตีว่าทันทีเมื่อหนังจบ คนดูจะต้องลุกขึ้นปรบมืออย่างกึกก้องและยาวนาน", ไคล์ สมิธ นักวิจารณ์จาก New York Times เขียนไว้ว่า "หนังเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง The Karate Kid ที่เปลี่ยนจากการฝึกมวยเป็นการตีกลอง" และ เอริค เดวิส นักวิจารณ์จาก Movies.com เขียนไว้ว่า "Whiplash จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นกว่าหนังซัมเมอร์เรื่องที่ดีที่สุดของปีนี้แน่นอน"

          • Whiplash นำแสดงโดย ไมลส์ เทลเลอร์ นักแสดงดาวรุ่งที่กำลังมาแรงที่สุด โดยเขามีผลงานที่ผ่านตาเรา ไม่ว่าจะเป็น That Awkward Moment, The Spectacular Now, Divergent และล่าสุดกำลังถ่ายทำหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง The Fantastic Four ที่เขารับบทเป็น มิสเตอร์แฟนทาสติก โดยใน Whiplash แม้ว่าเขาจะตีกลองมาตั้งแต่อายุ 15 ปี แต่เขาก็ต้องการแสดงฉากตีกลองด้วยตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ เขาเล่าถึงการเตรียมความพร้อมว่า "ผมต้องฝึกเป็นเวลา 4 ชั่วโมงต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนก่อนการถ่ายทำ เลือดที่คุณเห็นระหว่างที่ผมตีกลองมันเกิดขึ้นจริง ๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็ได้แสดงเองกว่า 70% ของฉากตีกลอง ผมรู้สึกภูมิใจกับตัวเองมาก"

-----------------------------------------

Review : Whiplash

ตีให้ลั่น เพราะว่าฝันยังไม่จบ

ระดับการสปอย : สปอยเนื้อหาเท่าตัวอย่าง ไม่สปอยตอนจบ

เรื่องราวของหนัง

           - พระเอกอยากจะเป็นนักตีกลองชุด และเรียนตีกลองโดยครูจอมโหดเป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งอีครูนี้ก็ร้ายกาจเพราะกดดันพระเอกสารพัด 

เป็นยังไงบ้าง ?

           1. หนังเรื่องนี้ไม่ธรรมดานะฮะเพราะเป็นหนังเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ Sundance ที่ได้รางวัล Grand Jury Prize แล้วยังได้รางวัล Audience Award (ขวัญใจคนดู) ของปีนี้มาอีกด้วย 
           2. ว่ากันว่า เจ.เค. ซิมมอนส์ (แสดงเป็นครู) อาจเป็นตัวเก็งในการเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายปีหน้าจากเรื่องนี้ด้วย #สมควรฮะเพราะแสดงได้อินเน่อพุ่งโคตร
           3. Whiplash อ่านว่า วิพ'แลช ถ้าถามกูเกิ้ลจะแปลว่า อาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อหรือแส้ แต่ในหนังมันคือชื่อเพลงที่พระเอกต้องตีกลองฮะ #ข้อนี้ดักคนเล่นมุขว่าหนังอะไรชื่อวิปลาส! 

ชอบอะไร ?

           1. ชอบมากทั้งบทและการตัดต่อของหนัง คือมันกดเราให้จมลงเรื่อยๆ แล้วปล่อยพลังระเบิดออกมาในช่วงสุดท้ายโคตรพีคมาก หนังแม่งดีตรงที่บิ้วเราให้พีคได้ ถ้าเป็นหนังโป้คือทำเราฟินถึงจุดสุดยอดได้เลย 
           2. การแสดงของพระเอก (นักเรียน ) และคุณครู โดยเฉพาะ 15 นาทีสุดท้ายคือส่งพลังส่งอินเนอร์ใส่กันอย่างกะนาตาลีพอตแมนใน Black Swan กำลังปล่อยพลังคลื่นเต่าซุปเปอร์ไซย่าใส่ เคต บลังเชตต์ จาก Blue Jasmine พลังทำลายล้างสูงมาก ชอบสัสๆ 
           3. โดยเฉพาะคุณครูเนี่ย น่ากลัวมากอย่างกะลอร์ดโวลเดอมอร์ น่ากลัวจนไม่กล้าสบตารู้สึกเหมือนกำลังโดนสรพงษ์ชาตรีด่าแม่ด้วยสายตา แค่ยืนนิ่งๆ แสงไฟตกกระทบหัวเหม่งของฮีก็รู้สึกน่ากลัวแล้ว 
           4. พระเอกตอนปกติเนี่ยคือเฉยๆ แต่พอตีกลองขึ้นมาเนี่ย คือเทห์มาก ฉากน้ำแตกเนี่ย (หมายถึงตีกลองจนน้ำเหงื่อแตกกระจาย) เทห์ระยำตำบอนจริงๆ อยากมีแฟนเป็นนักตีกลองข้อมือคงพริ้วมากกก 5555

ไม่ชอบอะไร

           1. ครูน่ากลัวไป แอบกลัวตามแต่สงสัยนิดนึงว่า มึงจะมาเคี่ยวกะกลองอย่างเดียวทำไมไม่เคี่ยวกะเครื่องดนตรีอื่นในวงด้วยวะ 
           2. หนังมันจะเครียดและกดดันไปเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนชอบอะไรที่กดดันมากกว่า เอาจริงก็เข้าใจนะ เคยมีกิ๊กเป็นนักเปียโนคลาสสิก คือเค้าจะเครียดและกดดันมาก เพื่อนไม่ค่อยเยอะเหมือนในหนังเลย ไม่น่าเชื่อว่าเพลงที่ฟังแล้วผ่อนคลายอย่างดนตรีแจ๊สจะมีกระบวนการผลิตที่หนักขนาดนี้ 
           3. ดูแล้วปวดข้อมือ เพราะลุ้นตามจนเผลอเขย่าข้อมือและบีบมือตัวเอง 55555

สรุป

           1. เป็นหนังดนตรี ที่มันส์กว่าหนังแอคชั่นหลายเรื่องอีก 
           2. หนังจะบิ๊วเราประมาณ Black swan แต่เป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย 
           3. ถ้าปีที่แล้ว ดูหนังแข่งรถเรื่อง Rush แล้วลุ้นเยี่ยวเหนียว เรื่องนี้ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายก็พีคพอกัน 
           4. ใครชอบหนังประมาณนี้ ชอบดนตรีแจ๊ส เล่นดนตรีคลาสิก ต้องมาดูเลยฮะ แนะนำเลย ควรค่าแก่การได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชาย และตัดต่อยอดเยี่ยมมาก
           5. ชอบที่สุดของปีนี้เลย คะแนนความชอบเรื่องนี้ 10 /10 (คะแนนเต็ม 10 เรื่องแรกของปีนี้ของแอดแมวฮะ) 

หมายเหตุ : หนังเปิดรอบพิเศษ 20-29 ตุลาคม เวลา 20.00น. เป็นต้นไป
** ฉายจริง 30 ตุลาคมนี้**

อันนี้ตัวอย่างฮะ

----------------------------------------------
แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถวc