สัญญานเตือนภัย หลังการเสริมจมูก

สัญญานเตือนภัย หลังการเสริมจมูก

          ก่อนอื่น หมอขอ เกริ่นซักหน่อย ว่า การที่จะเขียนบทความ เรื่อง สัญญานเตือนภัย หลังการเสริมจมูก หมอได้ใช้เวลาคิดอยู่นานว่า จะเขียนดีไหม ?  แต่สุดท้ายก็คิดได้ว่า เขียนดีกว่า  ( แม้ว่า จะวอนหาเรื่องตกงานก็ตาม ) เพราะทุกอย่างย่อมมี ข้อดี- ข้อเสีย มีมืด -มีสว่าง มีดำ -มีขาว  การเสริมจมูกก็เหมือนกันมีทั้ง ข้อดีและข้อเสีย  หลายครั้งที่คนทั่วไปได้เห็นภาพ before after ของดาราหลายท่าน ได้เห็นเรื่องราวชีวิตที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีหลังการทำศัลยกรรม   

          ภาพที่ออกมาในเรื่องของการทำศัลยกรรมส่วนใหญ่มักจะออกมาในแนวสวยงาม  แต่เรื่องราวที่หมอกำลังจะเขียนให่อ่านต่อไปนี้จะเป็นด้านมืด ของการทำศัลยกรรม !!  การทำศัลยกรรมนั้นไม่ได้จบอยู่ที่เตียงผ่าตัด แต่จริงๆแล้วมันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างต่างหาก

          สัญญานเตือนภัยอะไรบ้างที่ผู้ที่เสริมจมูกพึงระวัง  ซึ่งหมอจะแบ่ง ช่วงเวลาให้ระมัดระวัง ดังนี้

ช่วง 1 -7 วันแรก :

          เป็นช่วงที่คนไข้ต้องระมัดระวังมากที่สุด โดยเฉพาะการติดเชื้อ เพราะช่วงนี้ร่างกายจะค่อนข้างอ่อนแอ ปกติแล้ว หลังการเสริมจมูก จมูกจะบวมอยู่ประมาณ 2-3 วันแรก โดยจะบวมมากที่สุดวันที่ 3  ( ความ บวมนี้ขึ้นอยู่กับ มือแพทย์ )  หลังจากนั้นจะเริ่มยุบลงเรื่อยๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ประมาณ วันที่ 7 จะค่อนข้างยุบพอที่จะออกไปไหนมาไหนได้โดยคนไม่ทัก  ( ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่อยากจะออกไปให้คนอื่นๆได้ทักและชื่นชมในจมูกของตัวเอง )

          แต่ถ้าจมูกกลับไม่ยุบลง แต่กลับบวมขึ้นเรื่อยๆในวันที่ 4 และ 5 รวมถึงเริ่มมีอาการบวมแดงไปที่ มุมหัวตา แสดงว่าเกิดการติดเชื้อเกิดขึ้นครับ ต้องรีบกลับไปพบแพทย์ที่ทำการเสริมจมูกให้นะครับ  ( สำหรับผมแนะนำว่าให้รีบถอดจมูกออก ไม่ต้องเก็บไว้ จากนั้นกินยาและ ฉีดยาปฏิชีวนะด้วยนะครับ ) เพราะส่วนใหญ่การติดเชื้อหลังการผ่าตัด  ยังงัยก็เอาไม่อยู่ครับ


จมูกอักเสบติดเชื้อหลังการเสริมจมูก

ช่วง 1 สัปดาห์ – 1 เดือน :

          ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มพักฟื้น คนไข้หลายคนถ้าปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด มักไม่บวมไม่เขียวไม่ช้ำ เริ่มเห็นรูปทรงคร่าวๆ คนไข้หลายคนคิดว่าจมูกสวยแล้วแห้งแล้ว  ( หรือหลายคนเริ่มนอยว่า จมูกเอียงหรือเปล่าว่ะ !! ) แต่จริงๆไม่ใช้ครับ  หลังเสริมจมูกไป  1 สัปดาห์ Silicone ที่เสริมจะยังลอยอยู่ ยังไม่ยึดติดกับกระดูกจมูกด้านล่าง ผิวหนังตรงบริเวณจมูกยังมีความหนาตัวมากกว่าปกติอยู่  บางครั้งผิวหนังบวมตรงสันจมูกด้านซ้ายหรือขวา ไม่เท่ากันจึงทำให้มันดูเอียงๆ ฉะนั้นช่วงนี้คนไข้อย่าเพิ่ง นอยด์นะครับ ให้รอต่อไปก่อน

          แต่ถ้าอยู่ดีในช่วง 2 -3 สัปดาห์นี้ จมูกที่แห้งไปแล้วอยู่ดีๆกลับบวมขึ้นมากอีก อันนี้หมอบอกได้เลยว่าเกิดจาก 2 กรณีครับ

                    1 ) การติดเชื้อหลังการผ่าตัด  ( แต่กรณีไม่ได้เกิดจากการผ่าตัดนะครับ แต่เกิดจากการดูแลหลังการผ่าตัดของคนไข้ซ่ะส่วนใหญ่ )  เรียกง่ายๆว่า คนไข้อาจจะไปทำอะไรเข้า เช่น กินของแสลงต่างๆ ( ปลาร้า ของหมัก ของดอง อาหารกระป๋อง อาหารทะเลที่ไม่สด ) เอานิ้วมือไปแคะ แกะ เกา บริเวณแผลผ่าตัด ( แผลผ่าตัดจริงๆ จะติดแล้วหลัง 7 วัน แต่อย่างไรก็ตามถ้าเอานิ้วไป แคะ แกะ เกาแรงๆก็อาจเกิดการติดเชื้อจากปลายเล็บได้ เข้าสู่แผลผ่าตัดได้)

                    2 ) การกระทบกระเทือน เช่น ไอจามแรงๆ ประเภท ไอจาม เป็นชุดๆหยุดไม่ได้ กรณีแนะนำว่า ต้องกินยาแก้แพ้ควบคู่ไปก่อน หรือถ้ากินแล้วยังไม่สามารถ หมอแนะนำว่าขณะ ไอจามให้เอานิ้ว 2 นิ้วกดเหนือบริเวณริมฝีปากไว้ เพื่อบรรเทาการเคลื่อนไหวของกะโหลกศีรษะ ( อย่างที่บอก silicone มันยังไม่ยึดกับ กะโหลกยังขยับได้เสมอ และเมื่อมันขยับก็จะทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นเลือดฝอย ให้บวมขึ้นมาใหม่ได้ )  หรือ ถูกกระแทกจริงๆ เช่น ถูกศอกของคนนอนข้างๆ  ถูกเพื่อนบิดจมูก ถูกประตูรถกระแทกหน้า  ถูกเสื้อยืดที่กำลังจะถอดไปเกี่ยวปลายจมูกหยดน้ำเข้าให้   ถูกแฟนชกเพราะไปแอบยิ้มให้หนุ่มโต๊ะข้างๆ หรือ สภาวะใดก็ตามที่ทำให้ เลือดไปเลี้ยงใบหน้ามากกว่าปกติ เช่น การนอนห้อยหัวต่ำๆ ( เช่นนวด spa ) หรือการทำโยคะท่าพิสดาร    --- ที่กล่าวมาเนี่ย ของจริงจากปากคนไข้นะจ๊ะ

          กรณีดังกล่าวข้างต้น  การบวมจะไม่มาก และ มักจะหายจากการกินยาแก้อักเสบ หรือยาลดบวม แต่ถ้าหลังกินยาแล้ว 3 วันอาการไม่ดีขึ้น แนะนำกลับไปพบคุณหมอนะครับ แล้วเล่าเหตุการณ์ตามความจริงที่เกิดขึ้นด้วย ( ได้โปรดเล่าตามความจริงนะจ๊ะ จะได้รักษากันถูก เพราะคนไข้ส่วนใหญ่กลัวว่าจะถูกเหล่าคุณหมอต่อว่าเอา เลยพยายามคิดแต่งเติมเรื่องราวต่างๆมากจากบ้าน ) เพราะการรักษาในแต่ละสาเหตุ จะไม่เหมือนกัน  โดยถ้าเกิดจากการกระแทกมักไม่ต้องทำอะไรนอกจากการให้ยาลดบวม  แต่ถ้าเกิดจากการกินอาหารแสลงแล้วจำเป็นต้องฉีดยาแก้อักเสบร่วมด้วย

 

ช่วง 1- 3  เดือนไปแล้ว :

          มักเป็นช่วงที่จมูกของคนไข้หลายๆคนเริ่มหายสนิทแล้ว เห็นรูปทรงชัดเจน ตอนนี้ จะเบี้ยวจะเอียงยังงัย ก็เห็นแล้วล่ะ ถ้าจมูกของใครเอียงก็ไม่ต้องกังวล กลับไปหาคุณหมอขอนัดแก้จมูกได้แล้ว เดี๋วยนี้มีหลาย โรงพยาบาล และคลินิกที่รับประกันการแก้เอียงในช่วง 2-3 เดือนแรก  ( หมอขอบอกเลยว่า การที่จมูกเอียงนั้น มีหลายสาเหตุมากมายหลายสิ่ง แต่คิดง่ายๆว่า การเสริมจมูกก็มี แค่ หมอกับคนไข้  )


จมูกเอียง และทำการแก้ไขให้ตรง

          ดังนั้นไม่หมอก็คนไข้นั้นแหละที่ทำให้มันเอียง ฉะนั้นไม่ต้องเถียงกันให้มากความครับ ถ้าเอียงก็แก้--- คนไข้อาจพูดว่า หมอพูดง่ายนี่ หมอไม่ได้มาเจ็บตัวด้วยนิ หลายคนก็บ่นว่า เจ็บตัวอีกแล้วบวมอีกแล้ว หมออยากให้คิดในแง่ดีนะครับว่า หมอเค้าก็แสดงให้เห็นว่าเค้ามีความรับผิดชอบในส่วนของเค้าแล้ว  ดีกว่าพอเรากลับไปตรวจแล้วหมอบ่ายเบี่ยง โทษโน้นนี้นั้น แล้วไม่แก้ให้เรา

          ในช่วงนี้ มีอาการอะไรบ้างที่เป็น อาการผิดปกติ

                    1 )   อาการที่เริ่มสังเกตว่ามี น้ำเหลือง หรือ สะเก็ดสีเหลืองติดอยู่ในรูจมูกด้านที่ทำการผ่าตัด  อาการดังกล่าวเป็นอาการที่บ่งบอกว่าแผลผ่าตัด เริ่มมีปัญหาแล้ว ปัญหาในที่นี้คือ แผลผ่าตัดปริครับ  ซึ่งอาการแผลผ่าตัดปรินั้น บางคนเป็นแค่ช่วงสั้นๆแล้ว หายไป บางคนเป็นกันอยู่นาน ไม่ยอมหายซักที หรือบางคนเริ่มสังเกตว่ามีเลือดซึมออกมาด้วย แล้วอย่างนี้เมื่อไร คนไข้ถึงจะไปหาหมอกันดีครับ  หมอขอแนะนำว่า อาการแผลผ่าตัดปรินั้น เกิดจากหลายสาเหตุดังนี้ครับ
          1 .1) ตัดไหมที่แผลเร็วเกินไป  อาการพวกนี้มักสังเกตว่ามี น้ำหรือสะเก็ดสีเหลือๆ ติดอยู่ในรูจมูกตั้งแต่เดือนแรกๆหลังเสริม
กรณีนี้รักษา ง่ายโดยไปซื้อ ขี้ผึ้งป้ายแผลสด ป้ายทุกวันเช้าเย็น อาการจะดีขึ้นเพราะ ขี้ผึ้งจะช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น

          2.1 ) ต่อกระดูกจมูก หรือ เสริม silicone ยาวเกินไป เพื่อยืดปลายจมูกให้ยาวออกไป ทำให้แผลผ่าตัดที่เย็บในรูจมูกถูกดึงรั้งให้ยืดออกตามความยาวที่ถูกต่อออกไป ทำให้แผลผ่าตัดปริได้


แผลปริบริเวณแผลผ่าตัด + น้ำเหลืองซึมเกาะ

          กรณีนี้ คุณหมอที่มีประสบการณ์จะขอส่องรูจมูกดูความผิดปกติ  หลังจากนั้นส่วนใหญ่จะแนะนำแก้โดยการเสริมจมูกใหม่ และเสริม silicone ให้สั้นลงกว่าเดิม  ( แต่กรณีนี้ใช้ไม่ได้กับการเสริมปลายจมูกด้วยการใช้กระดูกอ่อนหลังหูนะครับ )

          คนไข้หลายคนเห็นว่า อาการที่น้ำเหลืองซึม ไม่ได้เป็นอาการรุนแรงอะไรมากมาย เลยไม่ได้สนใจ แต่จริงๆแล้วอาการดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของการอักเสบเรื้อรังของกระดูกอ่อนที่คั้นกลาง ระหว่างรูจมูก  ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้กระดูกอ่อนที่คันกลางระหว่างจมูกคดได้   และอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนทำให้จมูกบวมอักเสบขึ้นได้


กระดูกอ่อนคั้นกลางจมูกอักเสบ ( septal Cartilage )

          อีกอย่าง หมออยากอธิบายให้เข้าใจอย่างนี้ครับ การที่มีน้ำเหลืองซึม แสดงว่าจะต้องมี เยื่อบุในรูจมูกฉีกขาด  ไม่จำเป็นจะต้องเป็นบริเวณแผลผ่าตัด แต่อาจเป็นภายในเยื่อบุโพรงจมูกที่ลึกเข้าไปอีกได้  ซึ่งสาเหตุนั้นถ้าพูดกันตรงๆก็คือ  ซิลิโคน ( เพราะถ้าไม่ได้เสริมก็คงไม่เป็น ใช่ไหมครับ )  แต่อย่างที่หมอบอกไว้ ว่าการเสริมจมูก ก็มีแค่หมอกับคนไข้ แต่หมออยู่กับจมูกของคนไข้ไม่เกิน 30 -40 นาที ที่เหลืออีกหลายพัน หลายหมื่นนาทีคนไข้อยู่กับจมูกตัวเอง  ดังนั้น ซิลิโคนต่อให้เทพแค่ไหน ดีแค่ไหน หมอผ่าตัดเก่งแค่ไหน ถ้าเราดูแลจมูกของตัวเองหลังเสริมได้ไม่ดีย่อมมีปัญหาแน่ๆ

          อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาดังกล่าว อย่าละเลย รีบพบแพทย์ที่ทำการเสริมจะดีกว่า และปัญหาเรื่องนี้แก้ไขง่ายนิดเดียว โดย หมอจะขอแบ่งออกเป็น กรณีๆดังนี้

                    1.1.1 ) ถ้าแผลปริ อยู่ตื้น หรืออยู่บริเวณเดียวกันกับแผลผ่าตัด    ไม่มีการอักเสบติดเชื้อให้เห็น ทั้งภายนอก ผิวหนัง และภายในโพรงจมูก  ( มี หรือ ไม่มี ซิลิโคนโผล่ออกมาก็ตาม ) : สำหรับ หมอจะใช้วิธี ถอดจมูก ล้างทำความสะอาดโพรงผิวหนังที่เสริมจมูก และทำการเสริมจมูกใหม่ได้เลยทันที


แผลปริ + ปลายซิลิโคนโผล่

                    1.1.2 ) ถ้าแผลปริ อยู่ลึก  ( ไม่สามารถเย็บได้ )  และ ไม่ว่าจะมีร่วมกับกรณีใดๆก็ตาม : สำหรับ หมอ แนะนำว่าถอดพักจมูกดีที่สุดครับ เพราะถึงแม้ว่าจะแก้ใหม่เลย ( คนไข้ส่วนใหญ่อยากแก้ทำใหม่เลยทั้งนั้น )  แต่ถ้าเราเย็บแผลในโพรงจมูกที่ลึกไม่ได้ ย่อมมีช่องทางให้เชื้อโรคเข้าไป  นอกจากนี้แผลที่ปริก็ยังถูกยืดออกไปอีกทำให้ เกิดอาการน้ำเหลือซึมซ้ำๆไม่หาย      


แผลอยู่ลึกและเย็บลำบาก

 
                    2 )  อาการต่อไปที่บ่งบอกถึงสัญญานเตือนภัยก็คือ อาการสิวอักเสบที่ปลายจมูก โดยมักจะพบในประวัติที่คนไข้ถูกกระแทกอย่างแรงที่ปลายจมูก ทำให้เนื้อที่ปลายจมูกถูกบดเข้ากับปลาย Silicone   กรณีนี้ ให้สังเกตว่ามันจะเป็นสิวหัวช้างนะครับ อาการแบบนี้เป็นอาการที่ไม่ดีแล้วครับ  ส่วนใหญ่แล้วภายใต้สิวหัวช้างนั้นมักมี ปลาย silicone อยู่ด้วย คนไข้หลายคนคิดว่าเป็นสิว พอไปพบหมอสิว หมอสิวก็ฉีดสิวที่ปลายจมูกให้ จบกันเลยครับทีนี้ ( เพราะสิ่งที่หมอสิวฉีดนั้น เป็น steroid -kenacort ) ยิ่งฉีด เนื้อยิ่งบางและบุ๋มลงไป     อย่างที่บอกไว้ว่าปลายจมูกของมนุษย์เราออกแบบมาไว้เพื่อดมกลิ่น ดังนั้นมักเป็นจุดที่เราสัมผัสมันบ่อยมากกว่าส่วนอื่น  การเสริม ซิลิโคนปลายหยดน้ำยิ่งมีโอกาสเกิดอาการสิวหัวช้างที่ปลายจมูกมากขึ้น


มีปลายซิลิโคนนูนออกมา

          ถ้าคนไข้มีอาการแบบนี้ หมอแนะนำว่าให้รีบกลับไปพบคุณหมอที่เสริมจมูกให้ดีกว่าครับ รีบเลยเพราะ ถ้ามีอาการไม่เกิน 3 วัน แล้วให้คุณหมอถอดจมูกออกรับลองหายเหมือนปกติ แต่ถ้ามีอาการเกิน 1 -2 สัปดาห์แล้ว มาหาคุณหมอ ถอดจมูกออกอย่างเดี๋ยวไม่พอแน่ครับ ต้องทำการปะ ปลูก เนื้อกันเลย ( นอกจากจะเจอคุณหมอที่ถนัดวางแผ่น Silicone รองเนื้อ หรือ วางด้วยแผ่ลผิวหนังเทียม   ) เพราะถ้าเอาออกโดยไม่ทำอะไรส่วนใหญแล้ว เนื้อปลายจมูกจะบุ๋มลงไปนะครับ      

ซิลิโคนเสริมความยาวของจมูกเพื่อเพิ่มปลายหยดน้ำ
และภาพปลายจมูกบุ๋มหลังทำการถอดเฉยๆ

ช่วง 1 ปีขึ้นไป :

          อาการต่อไปคือ รูปทรงของ Silicone ที่เสริมเปลี่ยนไป (Contracted Nose ) ยกตัวอย่าง อยู่ดีๆ Silicone เบี้ยว หลังเสริมไปเป็นปีๆ โดยที่เราไม่ได้ไปถูกกระแทกอะไรมา  หรือ ปลายจมูกเสริมไว้ยาวขึ้น จนดันเนื้อให้เห็นเป็นหัว silicone ยาวออกมา  หรือ อยู่ดีๆรู้สึกว่า สันจมูกดูเตี้ยลง  อาการดังกล่าวคือ อาการของเนื้อเยื่อหรือ พังผืดรัดตัว Silicone  ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของร่างกายมนุษย์เมื่อใส่สิ่งแปลกปลอมเข้ามา 

ปลาย ซิลิโคนดันปลายจมูกให้ยื่นออกมา

          อาการดังกล่าวนี้เป็นมากเป็นน้อย ช้าหรือเร็วไม่เท่ากัน  แต่ที่สำคัญ อาการพังผืดรัด Silicone พบมากขึ้นกว่าในอดีตมาก เนื่องจาก  Silicone ในสมัย 10- 20 ปีก่อน แพทย์จะใช้  Hard silicone  ( ปัจจุบัน คนไข้เข้าใจว่าเป็น Silicone ไทย)  ซึ่งมีความแข็งค่อนข้างมาก รูปทรงจะดูออกทื่อๆ ไม่สวย แต่ด้วยความแข็งของมันนี้เอง ทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างผังผืดมารัดมันได้ แต่จะสร้าง แคลเซียมมาเกาะยึดแทน ทำให้เมื่อคนไข้เสริมจมูกไปนานกว่า 5- 10 ปีขึ้นไปอาจคลำ หรือเห็นว่ามีก้อนหรือ ตุ่มนูนขึ้นบริเวณสันจมูก

          ต่อมาเมื่อมีการพัฒนา คุณภาพของ Silicone ให้มีความนุ่มมากขึ้น  ( Medium  , Soft , Ultra soft Silicone ) แพทย์และคนไข้เองก็ต่างนิยมมากขึ้นด้วย  เพราะความนุ่มของ  Silicone เมื่อใส่เข้าไปจะทำให้ ดูสวยเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อ นิ่มมาก พังผืดก็สามารถบีบรัดได้ง่ายด้วยเช่นกัน  ซึ่งจะทำให้เกิดกรณี รูปทรงผิดรูป เบี้ยวเอียง ปลายนูนยาวขึ้นผิดปกติ หรือ หมอบางท่านจะเรียกว่า Silicone ไหล

          อย่าเพิ่ง นอยด์กันนะครับ  เพราะ พังผืดรัด silicone สามารถป้องกันได้ง่ายๆ นิดเดียว โดยการใช้นิ้ว ชี้ 2 นิ้วของเรานี้แหละครับค่อยๆนวดๆ คลึงเบาๆบริเวณผิวหนัง เหนือจมูกๆ โดยเริ่มนวดหลังจากเสริมไปได้ประมาณ 1เดือนขึ้นไปนะครับ( หมอไม่แนะนำให้นวดก่อนหน้านั้นนะครับ เพราะ silicone ยังไม่ยึดกับกระดูกใบหน้า และการ นวดก็วันละ ครั้งเช้า –เย็น นวด และแต่ละครั้งนาน 2 -3  นาที และถ้าเป็นไปได้ก็ควรนวดๆแบบนี้ไปจนแก่นะครับ ) ไม่ต้องนวดเยอะกว่านี้นะครับ เดี๋ยวจะบวม !!

          เมื่อหมอเขียนมาถึงตรงนี้ คนไข้ที่อยากเสริม คงเลิกอยากแล้ว  ส่วนคนที่เสริมอยู่แล้วคงยิ่งนอยด์กันเข้าไปใหญ่  คนที่มีความสุขที่สุดคงเป็นคนไข้ที่เสริมแล้วกำลังมีปัญหาอยู่ แล้วอ่านแล้วพบปัญหาของตัวเอง จะได้รีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและแก้ไขต่อไป  

          สุดท้าย หมออยากทิ้งท้ายความในใจของหมอ ในเรื่องของการผ่าตัดว่า  “หมอพยายามและตั้งใจดีที่สุดทุกครั้งเพื่อให้คนไข้ทุกคนพึงพอใจ  และ ในการผ่าตัดก็มีแค่ หมอกับคนไข้ เท่านั้น ไม่มีใครอยากเจอกันบ่อยๆ หรอกเพราะถ้าคนไข้มาเจอหมอบ่อยๆ แสดงว่าคนไข้มีปัญหาและมีความทุกข์  หมอเองก็ทุกข์ไม่แพ้กัน  แต่เมื่อมีปัญหา ( ความทุกข์ ) เกิดขึ้นอย่าเพิ่งโทษกัน อย่าเพิ่งโวยวายใส่กัน  อย่าเพิ่งเรียกหาความรับผิดชอบ"     หมอว่า  “ในเมื่อมีกันแค่หมอกะคนไข้แค่เนี่ย เรามาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไปด้วยกันไม่ดีกว่าหรอ ? "

          เราเป็นคนพุทธด้วยกัน ก็น่าจะแก้ไขตามหลักพุทธ นั้นก็คือ อริยสัจ 4

          ทุกข์ -    การปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่สมหวังในสิ่งนั้น 
          สมุทัย –สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
          นิโรธ – ดับสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
          มรรค – แนวปฏิบัติที่นำไปสู่หรือนำไปถึงความดับทุกข์

          สาธุ

 

โดย นายแพทย์อดุลย์ชัย แสงเสริฐ

บทความที่เกี่ยวข้อง
ถอดบทเรียน หมอเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม ศัลยกรรมมรณะ ... อ่านต่อ
ทำศัลยกรรมมา กี่วันกว่าจะเข้าที่? ... อ่านต่อ
หนุ่ม 19 อกหัก โดนทิ้ง ตัดสินใจศัลยกรรมทั้งหน้า แปลงโฉมจนหล่อ ... อ่านต่อ
ดูดวง / ฮวงจุ้ย
ทายนิสัย จากลายมือการเขียนตัวเลข ... BY : หมอเมท ... อ่านต่อ
คาถาทวงหนี้ คาถาอีกาวิดน้ำ ใช้สำหรับคนยืมเงินแล้วไม่คืนหรือของหาย ... อ่านต่อ
ตากระตุก ตาเขม่น ลางสังหรณ์ที่บ่งบอกเรื่องราวอะไร? ... อ่านต่อ
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.