[รีวิว] iOS 8 น่าใช้อย่างไร มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง

          [รีวิว] iOS 8 น่าใช้อย่างไร มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง พร้อมเปรียบเทียบ iOS 8 vs iOS 7 ต่างจากเดิมมากแค่ไหน? ควรอัพเดท iOS 8 ตอนนี้เลยหรือไม่?

          เรียกได้ว่า การเปิดตัว iOS 8 ในครั้งนี้ แม้จะยังคงมี อินเทอร์เฟส ที่คล้าย iOS 7 แต่ความน่าสนใจของ iOS 8 อยู่ที่ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวนั่นเอง ซึ่ง iOS 8 จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลดกันในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง นี้ หรือราวๆ เดือนกันยายน และคาดว่า น่าจะเป็นช่วงเดียวกับที่ iPhone 6 เปิดตัวด้วยเช่นกัน แต่ทาง แอปเปิล ได้ปล่อย iOS 8 แบบ beta ให้นักพัฒนาได้ดาวน์โหลดเพื่อทดสอบกันก่อนหลังจบงาน

          ซึ่งทีมงาน techmoblog เอง ก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับ iOS 8 แล้วเช่นกัน มาดูกันครับว่า iOS 8 จะมีอินเทอร์เฟสเป็นอย่างไร? และมีฟีเจอร์อะไรเพิ่มเติมกันบ้าง?

          มากันที่หน้า Lockscreen กันก่อน โดยรวมแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเท่าที่ควร ยกเว้นเวลาที่มีการแจ้งเตือนเด้งมา สามารถสไลด์ไปด้านซ้าย แล้วเลือก Reply ตอบได้ทันทีจากหน้านี้ ไม่จำเป็นต้องเข้าตัวแอพฯ ก่อน

          ไม่เพียงเท่านั้น การแจ้งเตือนที่ปรากฏด้านบน ก็สามารถลากลงล่าง เพื่อพิมพ์ตอบ และส่งได้เลยเช่นกัน

          ต่อไปเป็นแอพพลิเคชั่น Messages ซึ่งสามารถส่งรูป และคลิปวีดีโอได้ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสามารถในการส่ง ข้อความเสียง ด้วยการกดที่ไอคอน ไมโครโฟน ค้างไว้ ซึ่งสามารถบันทึกเสียงได้ราวๆ 9-10 วินาที ถ้าต้องการจะส่ง ให้กดไอคอน ลูกศรขึ้น แต่ถ้าต้องการบันทึกเสียงใหม่ ให้กดรูปกากบาท เพื่อยกเลิก

          ข้อความที่ถูกส่งไป เมื่อถูกผู้รับกดอ่านแล้ว จะขึ้นว่า Read ซึ่งบน iOS 7 ไม่มีครับ

          ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถแชร์พิกัดได้อีกด้วย ส่วน Do Not Disturb ก็คือ ปิดการแจ้งเตือนของผู้ติดต่อคนนี้ ในกรณีที่ไม่ว่าง หรือติดประชุม แต่สามารถเข้ามาอ่านในภายหลังได้ นอกจากนี้ ยังสามารถดูรูปแนบ ได้จากส่วนนี้เลย ไม่จำเป็นต้องเลื่อนข้อความเพื่อค้นหารูปเก่าๆ

          ในส่วนของระบบ Notification นั้น จะเหลือแค่ 2 แท็บหลักๆ นั่นก็คือ Today และ Notification ซึ่งส่วนนี้ จะคล้ายบน OS X 10.10 Yosemite ด้วย

          Spotlight Search ค้นหาได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนอกจากจะรองรับการค้นหา แอพพลิเคชั่น, อีเมล, เพลง หรือวีดีโอแล้ว ยังสามารถค้นหาผ่านเว็บ หรือ Wikipedia ได้ด้วยเช่นกัน

          Control Center เมนู shortcut การใช้งานที่จำเป็นต้องใช้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, Bluetooth, Airplane mode, การปรับความสว่างหน้าจอ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากไอคอนพระอาทิตย์ จากโปร่งใส เป็นสีดำ

          Multitasking tray นอกจากจะเป็นการสลับไปใช้งานแอพฯ อื่นแล้ว ยังเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อ ทั้งแบบ Favourite และผู้ติดต่อล่าสุด ซึ่งสามารถกดโทรออก, ส่งข้อความ และ FaceTime ได้เลย

          แอพพลิเคชั่น Health แอพฯ รวบรวมข้อมูลด้านร่างกายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อัตราการเต้นของหัวใจ, การเผาผลาญแคลอรี่, ระดับน้ำตาลในเลือด, คอเรสเตอรอล และอื่นๆ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพต่างๆ

          ปกติแล้ว ในส่วนของ Location Services จะปรากฏแค่ เปิดหรือปิดเท่านั้น แต่บน iOS 8 สามารถตั้งค่าได้ว่า จะให้เปิดตลอดเวลา หรือเปิดเฉพาะเมื่อใช้งาน ซึ่งช่วยทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น

          อีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจ นั่นก็คือ Grayscale เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา เช่น ตาบอดสี โดยจะเปลี่ยนจากภาพสี ให้เป็นภาพขาวดำครับ ไปตั้งค่ากันได้ที่ General > Accessibilty

          ในส่วนของ Battery Usage ได้มีการระบุแล้วว่า แต่ละแอพพลิเคชั่น มีการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่มากน้อยแค่ไหน

          ส่วน App Store ในหมวดการค้นหา จะเรียงลำดับแอพฯ ไปบนลงล่าง แทนจากซ้ายไปขวา บน iOS 7

          Family Sharing โหมดสำหรับผู้ปกครอง ป้องกันบุตรหลานแอบกดซื้อ ไอเท็มในเกม แบบไม่ตั้งใจ กว่าจะรู้ตัวก็มีบิลค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลส่งมา ซึ่งโหมดการใช้งานนี้ จะทำการส่งแจ้งเตือนไปยังผู้ปกครอง กรณีที่มีการหักเงินผ่านบัตรเครดิตครับ ซึ่งถือว่า ป้องกันความเผลอของบุตรหลานได้มากทีเดียว

          มากันที่แอพฯ ถ่ายรูปกันบ้างครับ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงหลักๆ ก็คือ ทุกครั้งที่มีการโฟกัส จะมีไอคอนรูปพระอาทิตย์ปรากฏด้านขวา สำหรับปรับความสว่าง นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งเวลาถ่ายภาพได้แล้ว โดยมีให้เลือก 3 วินาที และ 10 วินาที

          ส่วน Time-Lapse ก็คือ การถ่ายภาพที่มีการเร่งภาพให้เร็วขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราเห็นภาพยนตร์ที่มีฉาก พระอาทิตย์ขึ้น และตก ในเวลาแค่ 4-5 วินาที หรือดอกไม้หุบ-บาน ก็จะใช้เทคนิค Time-Lapse นี้เอง ในการเร่งภาพครับ

          ปิดท้ายกันที่ เมนูการแต่งภาพถ่าย ปกติบน iOS 7 จะสามารถทำได้แค่ หมุนภาพ, crop, ใส่ฟิลเตอร์ และแก้ตาแดง แต่บน iOS 8 ได้เพิ่มเมนูการปรับแต่งภาพเข้ามาใหม่ นั่นก็คือ ปรับความสว่าง และ สีสันของภาพได้แล้ว เหมือนกับมี iPhoto อยู่ในเครื่องเลยทีเดียว

เปรียบเทียบ อินเทอร์เฟส ระหว่าง iOS 7 และ iOS 8

          แม้ว่า iOS 8 จะยังไม่มีอินเทอร์เฟสแตกต่างจาก iOS 7 มากเท่าที่ควร แต่ก็ยังมีบางจุด ที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง มาชมกันครับว่า อินเทอร์เฟสเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน

ควรอัพเดท iOS 8 ตอนนี้เลยหรือไม่?

          หลังจากที่ แอปเปิล ได้เปิดตัว iOS 8 อย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงค่ำคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา มีคำถามเข้ามามากมายครับว่า iOS 8 จะเปิดให้อัพเดทได้ในช่วงใด คำตอบก็คือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือราวๆ เดือนกันยายน ที่จะถึงนี้ครับ แต่สำหรับนักพัฒนา สามารถอัพเดทและนำไปทดสอบกันได้แล้ว ตั้งแต่หลังจบงานเป็นต้นไป ซึ่งก็มีหลายแหล่งข่าว ได้เผยวิธี อัพเดทเป็น iOS 8 สำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักพัฒนา แน่นอนครับว่า มีหลายท่านที่ได้ลองเล่นกันไปบ้างแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ทำการอัพเดทเป็น iOS 8 beta 1 และอยากลองอัพเดทดู ถามว่า ควรจะทำหรือไม่ คำตอบก็คือ ทำได้ครับ แต่จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะบั๊กระหว่างการใช้งาน ฉะนั้น ท่านที่ทำการอัพเดทไปแล้ว และพบบั๊ก จะไม่สามารถกล่าวโทษ แอปเปิล ได้ว่า iOS 8 นั้น ไม่สมบูรณ์ ใช้งานไม่ดี เนื่องจากเวอร์ชันนี้ "สำหรับนักพัฒนาเท่านั้น" นั่นเอง ถ้าหากเป็นไปได้ ผู้ใช้งานทั่วไป ควรจะรอเวอร์ชันที่ แอปเปิล ปล่อยอัพเดทจะดีที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาด้านการใช้งานครับ

** iOS 7 รูปซ้าย ส่วน iOS 8 beta 1 รูปขวา
** iOS 8 ที่ใช้ทดสอบนี้ เป็น beta 1 อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงได้อีกใน beta ถัดไป

สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com

ที่มา : sanook