สั่งระงับสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ

สอบเงินบริจาค 3.2 แสนล้านบาท

            ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ สั่งระงับการก่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ตั้งคณะกรรมการลุยสอบเงินบริจาค 3.2 แสนล้านบาท อ้างระดมทุนมาจากหน่วยงานในต่างประเทศ หวั่นหลอกลวงประชาชน 

            เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2557 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภจว.ชัยภูมิ ได้ประชุมร่วมคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินกิจการของมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ หลังจากปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาฝาย อำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ร้องทุกข์กล่าวโทษว่า การก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตตามกฎหมายควบคุมอาคาร เนื่องจากถือเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ องค์พระรวมฐานมีความสูงถึง 232 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยถึง 3 แสนตารางเมตร จุคนได้ถึง 5,000 คน จึงขอให้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อน

            นอกจากนี้ ยังมีผู้ร้องเรียนด้วยว่า ทางมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิอ้างว่าโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณถึง 3.2 แสนล้านบาท โดยระดมทุนมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ในต่างประเทศ ทำให้เกิดข้อกังขาว่าระดมทุนจำนวนมากขนาดนี้มาได้อย่างไร ภายหลัง ทางคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็พบว่าไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการอุปโลกน์ขึ้นมาเท่านั้น 

            ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการฯ จะลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเงินของมูลนิธิ การดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับของมูลนิธิ การดำเนินการอันอาจขัดต่อหลักการศาสนา ด้านการขอใช้พื้นที่ประโยชน์ในที่ดิน และด้านการออกแบบก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน และจะสรุปผลเข้าที่ประชุมใหญ่อีกครั้งภายใน 15 วัน

            อย่างไรก็ตาม นายพรศักดิ์ ระบุว่า ถ้าการสร้างพระใหญ่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ถือเป็นเรื่องมงคล แต่ช่วงที่ผ่านมาพบกรณีการหลอกลวงโฆษณาให้คนมาบริจาคเงินสร้างพระระบาดหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตนจึงต้องขอตรวจสอบก่อน ซึ่งหากพบว่าไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงก็ดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้ 

            ขณะที่รายการคลุกวงข่าว ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมินั้นก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2552 และมีแผนจะสร้างพระใหญ่บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ มาตั้งแต่ปี 2553 แต่มูลนิธินี้ไม่เคยรายงานรายรับรายจ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเลย กระทั่งมีข่าวว่าจะก่อสร้างพระใหญ่โดยใช้งบประมาณ 3.2 แสนล้านบาทจากการรับบริจาค จึงต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดว่าเป็นการหลอกลวงแอบแฝงหรือไม่

ที่มา : kapook