พาสปอร์ตปลอม MH370 ทำไทยฉาว
ถูกประณามเป็นรังโจรนานาชาติ
ไทยถูกประณามเป็นรังโจรนานาชาติ จากเหตุพาสปอร์ตที่เก็บได้ที่ไทย ก่อนที่จะถูกขายให้ชาวอิหร่านนำไปใช้ถือขึ้นเครื่อง ตราหน้าตำรวจไทยให้สินบนง่าย แค่มีเงินจ่ายตำรวจก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้แล้ว
วันที่ 11 มีนาคม 2557 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวยุโรปสองราย คือนายคริสเตียน โคเซล ชาวออสเตรีย และนายลุยจิ มารัลดี ชาวอิตาลี ที่มีชื่อเป็นผู้โดยสารอยู่ในเที่ยวบินดังกล่าว แท้จริงทั้งคู่ไม่ได้โดยสารไปด้วยแต่อย่างใด และยังคงปลอดภัยดีอยู่ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ขององค์กรนานาชาติจึงได้พบว่า หนังสือเดินทางทั้งสองเล่มนั้นสูญหายที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ในต่างเวลากัน
จากการสืบสวนยังอีกพบว่าผู้ถือหนังสือเดินทางซึ่งถูกขโมยไปทั้งสองเล่ม ได้ใช้มันเพื่อจองตั๋วเครื่องบินในเที่ยวบินดังกล่าวพร้อม ๆ กันจากที่พัทยา และเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินสกุลบาทของไทย อย่างไรก็ดีข้อมูลล่าสุด (10 มีนาคม) จากกรมการบินพลเรือนมาเลเซีย ระบุว่า ทั้งคู่เป็นชายชาวอิหร่าน
นายรอมเมล บานละโอย ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์กระบวนการก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวกับสำนักข่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ขบวนการก่อการร้ายนานาชาติหลายกลุ่มใช้เป็นแหล่งในการจัดการ ทั้งระดมทุน และวางแผนการปฏิบัติการ อย่างในปี 2553 ก็มีชาวปากีสถานสองคน พร้อมหญิงไทยหนึ่งคน ถูกจับในฐานปลอมแปลงหนังสือเดินทางให้กับลูกค้าซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลเคด้ามาแล้ว ส่วนหนังสือเดินทางปลอมทั้งสองเล่มที่ถูกนำไปใช้บนสายการบิน MH370 นั้น ก็อาจเกี่ยวโยงไปถึงขบวนการที่ผิดกฎหมายอย่างเรื่องแรงานเถื่อนได้เช่นกัน
ทางด้านหน่วยงานของไทยก็ได้ออกมายอมรับว่า ประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายของขบวนการก่อการร้ายที่หมายใช้ไทยเป็นแหล่งในการจัดหาหนังสือเดินทาง รวมทั้งเอกสารทางการเงินจริง ซึ่งนอกจากความเกี่ยวโยงกับขบวนการก่อการร้ายได้แล้ว ก็ยังเชื่อมไปถึงอาชญากรรมอื่น ๆ ได้ด้วย จึงนับว่าบ้านเราเป็นแหล่งเชื่อมโยงเครือข่ายผิดกฏหมายที่ซับซ้อนทีเดียว
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังรายงานว่า จากตำแหน่งภูมิศาสตร์ของไทย บวกกับการมีสนามบินนานาชาติอยู่หลายแห่งในประเทศ ทำให้ไทยกลายเป็นทางผ่านสำหรับกระบวนการค้ายา และค้าสัตว์ป่า ทั้งยังเป็นแหล่งปลอมแปลงเอกสารสำหรับแรงงานเถื่อน เพียงแค่หาคนหน้าเหมือนมาสวมลงไป หรือจัดการเปลี่ยนแปลงหน้าแรกของพาสปอร์ตเสียใหม่ก็ใช้ได้แล้ว
จากพฤติกรรมของเจ้าหน้าตำรวจไทยที่รับสินบน ก็ยิ่งเอื้อต่ออุตสาหกรรมผิดกฎหมายนานาประเภท เพราะกล่าวได้ว่า "ตำรวจสามารถทำเป็นไม่รู้ไม่เป็นได้ ตราบเท่าที่คุณมีเงิน" แม้ว่าโทษฐานของการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง หรือครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย จะมีโทษจำคุกสูงถึง 20 ปี ก็ตาม รองศาสตราจารย์อาเหม็ด ซาลาห์ ฮาชิม จากสถาบัน S. Rajaratnam School of International Studies ของสิงค์โปร์กล่าว
เส้นทางการเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ผ่านปักกิ่ง เพื่อไปยังยุโรป ของผู้ถือพาสปอร์ตปลอมทั้งสองเล่ม นับว่าเป็นเส้นทางที่บรรดาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายนิยมใช้กัน โดยหนังสือเดินทางที่ถูกขโมยในประเทศไทย ส่วนหนึ่งก็จะถูกนำไปใช้ในกระบวนการนี้้ด้วย
อย่างไรก็ดี จากการสืบสวนล่าสุด แม้ว่าชาวอิหร่านที่ใช้พาสปอร์ตปลอมในการเดินทางทั้ง 2 ราย จะไม่ได้มีเจตนาก่อการร้าย พวกเขาเพียงต้องการเข้ายุโรปอย่างผิดกฎหมายเท่านั้น แต่นายโรนัลด์ โนเบิล เลขาธิการใหญ่ของสำนักงานตำรวจสากลก็ได้กล่าวว่า หวังว่ารัฐบาลของทุกประเทศ รวมทั้งทุก ๆ สายการบิน จะได้เรียนรู้จากเหตการณ์ที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน MH370 และจะทำการตรวจสอบพาสปอร์ตของผู้โดยสารทุก ๆ คนก่อนที่จะเดินทาง อันจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยประกันความปลอดภัยของการเดินทางได้
ที่มา : http://www.kapook.com/
MH370, Malaysia Airlines, Malaysia, สายการบินมาเลย์, มาเลย์เซียแอร์ไลน์, มาเลย์เซีย, เร่งค้นหาสายการบินมาเลย์, เร่งค้นหา MH370, เครื่องบินตก, เครื่องบินหาย, พาสปอร์ตปลอม, ไทยฉาว, ถูกประนาม, รังโจรนานาชาติ, MH370, Malaysia Airlines, Malaysia, สายการบินมาเลย์, มาเลย์เซียแอร์ไลน์, มาเลย์เซีย, เร่งค้นหาสายการบินมาเลย์, เร่งค้นหา MH370, เครื่องบินตก, เครื่องบินหาย, พาสปอร์ตปลอม, ไทยฉาว, ถูกประนาม, รังโจรนานาชาติ, MH370, Malaysia Airlines, Malaysia, สายการบินมาเลย์, มาเลย์เซียแอร์ไลน์, มาเลย์เซีย, เร่งค้นหาสายการบินมาเลย์, เร่งค้นหา MH370, เครื่องบินตก, เครื่องบินหาย, พาสปอร์ตปลอม, ไทยฉาว, ถูกประนาม, รังโจรนานาชาติ